อนุดิษฐ์ กางข้อมูลภาษี หนุน ‘รถไฟฟ้า20บาท’ สิทธิเท่าเทียมทุกคน

“อนุดิษฐ์” กางข้อมูล “กทม.” จัดเก็บภาษีสูงสุดเกือบครึ่งของทั้งประเทศ หลัง โดนโจมตี “รถไฟฟ้า20บาท” เอาเงินคนตจว. อุ้มคนกรุงฯ เตือนแนวคิดกระทบโครงสร้างรัฐเดี่ยว ยัน ทุกคนได้สิทธิเท่าเทียม
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม และ อดีต สส.กทม. กล่าวถึงข้อสังเกตโครงการ รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาลใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนทั่วประเทศเพื่ออุดหนุนคนกทม. ว่า เห็นว่าข้อกล่าวหาเช่นนี้สร้างความเข้าใจผิด และอาจไม่สอดคล้องกับหลักการของรัฐธรรมนูญมาตรา 1 ซึ่งบัญญัติให้ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ หากปล่อยให้แนวคิดนี้ขยายวง อาจก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อหลักโครงสร้างรัฐเดี่ยวที่เป็นหัวใจของรัฐธรรมนูญไทย เพราะการจัดเก็บภาษีเป็นรายได้ของประเทศ ไม่ใช่ของจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง เราจึงไม่ควรมองว่าการใช้งบประมาณเพื่อสวัสดิการสาธารณะในกรุงเทพฯ เป็นการเอื้อประโยชน์เฉพาะคนกรุงฯ
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้า 20 บาท เป็นนโยบายสาธารณะ ที่มีเป้าหมายเพื่อ ลดภาระค่าเดินทางของประชาชน และกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการเพิ่มกำลังซื้อ ไม่ได้จำกัดเฉพาะคนกรุงเทพฯ เท่านั้น คนไทยทุกคนที่ขึ้นรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะมีทะเบียนบ้านอยู่จังหวัดไหน ก็ได้รับสิทธิเท่ากันหมด คนจากภาคกลางอีสาน ใต้ เหนือ ตะวันออก ที่เข้ามาทำงานหรือท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ล้วนได้รับประโยชน์จากนโยบายนี้
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ยกตัวอย่างตัวเลขจากเอกสารงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่ระบุว่าการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลมาจากกรุงเทพฯ เป็นจำนวนร้อยละ 48.29 ของรายได้รวมทั้งประเทศ ขณะที่ภาคอื่น ๆ เช่น ภาคกลาง จัดเก็บได้จำนวนร้อยละ 20.82 ภาคตะวันออก ร้อยละ 24.30 ภาคเหนือ ร้อยละ 1.95 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 2.88 และภาคใต้ร้อยละ 1.76
“ผมเชื่อว่าหลายท่านอาจยังไม่เห็นภาพรวมว่า กรุงเทพฯ ไม่ได้เป็นฝ่ายที่รอรับความช่วยเหลือจากรัฐเพียงฝ่ายเดียว ในทางกลับกัน กรุงเทพฯ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดเก็บรายได้ของประเทศ ซึ่งเราควรพิจารณาให้รอบด้านก่อนจะสรุปว่าใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบพรรคการเมืองบางพรรคที่พยายามชี้นำให้ประชาชนมองการใช้งบประมาณผ่านมุมมองแยกจังหวัด ถ้ามองแบบนั้น ประเทศเราก็ไม่ต่างจากสหรัฐอเมริกา ที่รัฐต่างๆ ปกครองตนเอง แล้วเราจะเอาเงินจากภาคกลางลงไปช่วยภาคใต้ได้หรือไม่ ความคิดนี้อันตรายต่อความเป็นรัฐเดี่ยว และจะทำให้จังหวัดที่ยากจนไม่สามารถพัฒนาตนเองได้เพราะไม่มีรายได้เพียงพอ”
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า นโยบายที่ดีควรยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในทุกพื้นที่ โดยไม่แบ่งแยกภูมิภาค และการบิดเบือนข้อมูลเพียงเพื่อหวังผลทางการเมืองนั้น เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
“ผมขอให้ทุกฝ่ายกลับมามองที่เจตนารมณ์ของโครงการนี้ว่า รัฐบาลต้องการลดภาระให้กับประชาชนทั้งประเทศ มิใช่การเอื้อประโยชน์ให้คนกรุงเทพฯ เท่านั้น เพราะการลดภาระค่าเดินทางของทุกคน ก็คือการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชนนั่นเอง” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว







