อนุทิน ลั่น ล้างบางสีน้ำเงิน ระวังโดนล้างก่อน ไม่ห่วงสรุปสำนวนฮั้วสว.17 ก.ค.

อนุทิน ลั่น ล้างบางสีน้ำเงิน ระวังโดนล้างก่อน ไม่ห่วงสรุปสำนวนฮั้วสว.17 ก.ค.

“อนุทิน” ไม่กังวล ไต่สวนคดีฮั้วสว. จ่อสรุปสำนวน 17 ก.ค. พ้อ “ภูมิใจไทย” ถูกดิสเครดิต เจาะยางหวังให้คว่ำ ลั่นล้างบางสีน้ำเงิน ระวังโดนล้างก่อน

เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ จ.ศรีสะเกษ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีมีรายงานข่าวถึงคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง ชุดที่ 26 ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งรับผิดชอบ คดีฮั้ว สว. เตรียมสรุปสำนวนคดีในวันที่ 17 ก.ค.นี้ ก่อนจะส่งให้กับคณะกรรมการกกต.ชุดใหญ่ว่า ผู้ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาได้ชี้แจง และข้อเท็จจริงไปหมดแล้ว จนถึงวันนี้ไม่มีแกนนำของพรรคภูมิใจไทยคนไหนที่วิตกกังวล เพราะเรื่องที่ถูกกล่าวหานั้นเป็นเรื่องทางการเมืองชัดเจน และคนที่ไม่ได้ทำจะไปบอกว่าทำได้อย่างไร ซึ่งถ้าดูจากใบแจ้งข้อกล่าวหาก็เห็นชัดเจนว่า เป็นเนื้อหาที่มีการคลุมมา และทุกคนได้รับข้อกล่าวหาที่เหมือนกันหมดกว่า 100 คน 
   

นายอนุทิน ยังย้ำถึงความมั่นใจว่า ไม่ได้ทำความผิด และพรรคภูมิใจไทยไม่เชื่อเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว เราทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ มีคนรุ่นใหม่ในพรรคเยอะแยะ ไม่มีทางทำอะไรที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ แล้วจะทำให้การเมืองไม่เข้มแข็ง ทำให้ประเทศไทยล้าหลังแบบนั้นเราไม่ทำอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า คดีฮั้วสว. ถูกหยิบมาเป็นประเด็นในการดิสเครดิตพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ระบุว่าพรรคภูมิใจไทยนั้นถูกดิสเครดิตมาโดยตลอด เพราะถูกมองว่าเป็นพรรคที่มีศักยภาพ มีอนาคต มีคนที่มีฝีมือในการทำงาน จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการเจาะยางให้คว่ำไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เป็นผลดีใดๆต่อบ้านเมืองเลย
     

ส่วนที่มีการวิเคราะห์กันว่า คดีฮั้วสว. จะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการล้างบางพรรคภูมิใจไทยนั้น นายอนุทิน มองว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะพรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคการเมืองของประชาชน ใครจะมาล้างบาง ก็อาจจะโดนล้างไปก่อน พรรคภูมิใจไทยวันนี้ไม่ได้ทำอะไรผิด และไม่เคยคิดจะทำอะไรผิด คนรุ่นใหม่ในพรรคมีดี ไม่มีทางทำอะไรที่ผิดกฎหมาย

ส่วนความคืบหน้ากรณีพรรคภูมิใจไทยจะดำเนินการฟ้องร้องคณะอนุกรรมการสืบสวน และไต่สวน ส่วนกลาง ชุดที่ 26 ของ สำนักงาน กกต. นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อมีการกล่าวหาคนของพรรคภูมิใจไทยเป็นจำนวนมาก จึงต้องใช้ผู้ที่มีความชำนาญทางด้านกฎหมาย และทนายความที่มีประสบการณ์ให้ช่วยแก้ต่าง และว่าความแทนเรา ซึ่งขณะนี้ได้มีการมอบอำนาจให้ไปดำเนินการแล้ว