'กุสุมาลวตี' สู้เต็มที่ ไม่ไกล่เกลี่ยปมถูก 'อนุทิน' ฟ้องหมิ่น

'กุสุมาลวตี' สู้เต็มที่ ไม่ไกล่เกลี่ยปมถูก 'อนุทิน' ฟ้องหมิ่น

'กุสุมาลวตี' โชว์รูปคู่ 'อนุทิน' มาศาลไต่สวนคดีถูก 'ภูมิใจไทย' ฟ้องหมิ่นประมาท ปมกล่าวหาพันฮั้ว สว.-เขากระโดง ลั่นไม่มีไกล่เกลี่ย จี้ ปชน.อย่าดันคนแบบนี้เป็นนายกฯ

KEY

POINTS

  • 'กุสุมาลวตี' ยืนยันสู้คดีหมิ่นประมาทที่ถูก 'อนุทิน' และพรรคภูมิใจไทยฟ้องร้อง โดยประกาศว่าจะไม่มีการไกล่เกลี่ยยอมความ
  • คดีดังกล่าวเกิดจากการที่ 'กุสุมาลวตี' กล่าวหา 'อนุทิน' ว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการ "ฮั้ว สว." และปัญหาข้อพิพาทที่ดิน "เขากระโดง"
  • 'กุสุมาลวตี' อ้างว่าการกระทำของตนเป็นการใช้สิทธิ์ในฐานะพลเมืองตามรัฐธรรมนูญเพื่อตรวจสอบความไม่โปร่งใส
  • เธอยังได้ตั้งคำถามถึงความเหมาะสมด้านคุณธรรมและจริยธรรมของ 'อนุทิน' ในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2568 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคดีที่ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีต สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) และอดีตผู้สมัคร สว.ปี 2567 ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีที่นางกุสุมาลวตี กล่าวหาว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อาจเกี่ยวข้องกับการ "ฮั้ว สว." และประเด็นข้อพิพาท "เขากระโดง"

วันนี้นางกุสุมาลวตีเดินทางเข้ามาฟังการไต่สวนด้วย โดยเปิดเผยว่า ต้องการเข้ามาเพื่อเผชิญหน้ากับนายอนุทินโดยตรง ทั้งนี้นายอนุทินและพรรคภูมิใจไทยได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาเพื่อฟ้องตนในข้อหาหมิ่นประมาท จากกรณีที่ตนกล่าวถึงว่านายอนุทินและพรรคเกี่ยวข้องกับการฮั้วการเลือก สว. เรื่องที่ดินเขากระโดง และการที่ตนยื่นคำร้องขอให้ยุบพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นการทำหน้าที่พลเมืองของตนตามรัฐธรรมนูญ

นางกุสุมาลวตี มองว่าการที่คนทำผิดแล้วฟ้องคนทำถูกอย่างตนมันถูกต้องหรือไม่ ในครั้งนั้นที่ตนฟ้องไปเพราะเห็นการกระทำที่อุกอาจไม่เคารพกติกา โดยการฮั้วเลือก สว.ในช่วงที่ตนร้องไปช่วงต้นนั้น ความจริงยังไม่ปรากฎ จนกระทั่งวันนี้บุคคลจำนวนกว่า 220 คนที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือกตั้ง สว. ก็ถูกคณะอนุกรรมการพิจารณาความผิดเพื่อที่จะส่งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียบร้อยแล้ว

นางกุสุมาลวตี กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเป็นบุคคลในพรรคภูมิใจไทยทั้งสิ้นที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฮั้วการเลือกตั้งสว. จึงอยากถามไปว่าการที่ตนออกมาร้องในฐานะประชาชนคนหนึ่ง เป็นเรื่องที่ผิดหรือไม่

"ในวันนี้หากนายอนุทินอยากที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งอยากถามไปว่า มีความเหมาะสมในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม มากน้อยแค่ไหนที่จะก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งนี้ ถ้าประเทศไทยได้คนแบบนี้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีจริง ๆ ก็รู้สึกสงสารประเทศไทยและประชาชนเป็นอย่างมากว่า ถ้าหากเรายังมีนักการเมืองที่จะเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์และไม่ได้มองประชาชนเป็นที่ตั้ง ในวันนี้ในฐานะที่ตนก็ถือว่าเป็นประชาชนคนหนึ่งจึงไม่อยากให้สิ่งแบบนั้นต้องเกิดขึ้น" นางกุสุมาลวตี กล่าว

นางกุสุมาลวตี กล่าวอีกว่า ตอนที่ไปร้องขอความเป็นธรรมกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษเกี่ยวกับประเด็นที่ตนถูกนายอำเภอเข้ามาเอาเอกสาร แต่ไม่ได้คิดว่าจะต้องมีการฟ้องร้องกันแบบนี้ แต่ทางนายอนุทินได้กล่าวหาตนเองในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง อีกทั้งยังกล่าวหาว่าตนเองเป็นคนกักขฬะ จนวันนี้สิ่งที่ฝ่ายนั้นได้ทำและสิ่งที่ตนร้องเป็นข้อเท็จจริง วันนี้ทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ อัยการ และคณะกรรมการการเลือกตั้งก็ได้เห็นข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้วว่าเป็นอย่างไร ตนจึงสงสัยว่าพรรคภูมิใจไทยและนายอนุทินจะฟ้องร้องตนเรื่องอะไรกันแน่

"หากในวันนี้พรรคการเมืองไม่มีประชาชนอยู่ในสมการของพรรคนั้น บ้านเมืองจะอยู่อย่างไร มองว่าในวันนี้พรรคการเมืองเต็มไปด้วยนายทุนและการแสวงหาผลประโยชน์ ธุรกิจการเมืองต่าง ๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปประชาชนจะอยู่กันอย่างไร" นางกุสุมาลวตี กล่าว

เมื่อถามว่าคดีในวันนี้เป็นคดีฝ่ายไหนเป็นคนยื่นฟ้อง นางกุสุมาลวตี กล่าวว่า ในวันนี้เป็นคดีที่ทางฝ่ายพรรคภูมิใจไทยเป็นฝ่ายฟ้องตน โดนคดีที่ศาลนี้มีทั้งคดีมี่ตนเป็นผู้ฟ้องหมิ่นประมาทก่อนด้วย แต่คดีนั้นศาลนัดไต่สวนในวันที่ 21 ก.ค.นี้ แต่ทางพรรคภูมิใจไทยยื่นฟ้องตนทีหลังปรากฎว่าศาลนัดไต่สวนก่อน โดยคดีที่ตนเป็นฝ่ายยื่นฟ้องยืนยันว่ามีหลักฐานต่าง ๆ เข้ามาแสดงแน่นอนว่าอะไรเป็นอะไร ส่วนในคดีที่พรรคภูมิใจไทยเป็นฝ่ายฟ้องตนนั้นตนก็ไม่กังวลเพราะมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทางพรรคภูมิใจไทยทำอะไรผิดไว้บ้าง

เมื่อถามว่าในสถานการณ์ที่ต่างฝ่ายต่างยื่นฟ้องกัน จะมีโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะไกล่เกลี่ยกันไหม นางกุสุมาลวตี กล่าวว่า อาจจะมีการไกล่เกลี่ยกัน เพราะในอดีตเคยมีประเด็นฟ้องร้องกับนายวีระ สมความคิด และภายหลังก็ได้มีการไกล่เกลี่ยกัน แต่ในคดีนยืนยันว่าไม่มีการไกล่เกลี่ยอย่างแน่นอน และยังยืนยันว่าการยื่นฟ้องในครั้งนี้ไม่มีใครหรือพรรคการเมืองไหนอยู่เบื้องหลังตนอย่างแน่นอน เป็นการที่ตนทำในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่มีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญไทยเท่านั้น

เมื่อถามว่าในวันนี้ทำไมถึงนำรูปในอดีตที่เคยถ่ายคู่กับนายอนุทินเข้ามาด้วย เป็นเพราะอะไร นางกุสุมาลวตี กล่าวว่า รูปดังกล่าวเป็นการถ่ายตอนที่ตนเข้าไปที่อาคารรัฐสภาเพื่อเข้าไปขอบคุณผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในขณะที่ตนเองกำลังจะลงสมัครรับเลือก สว. ได้พบเจอกับรัฐมนตรีช่วยว่าการคนหนึ่ง จนนายอนุทินเดินผ่านมา จึงได้พากันเข้าไปทักทาย ก็ไม่คิดว่าจะต้องมีวันที่ตนกับนายอนุทินถึงขั้นที่จะต้องฟ้องร้องกันในชั้นศาล และยืนยันว่าการพบกันในวันนั้นไม่ได้มีการขออะไรจากนายอนุทินเลย การนำภาพมาในวันนี้เพื่อเป็นการเตือนความจำของตนเอง

"ขอยืนยันว่านายอนุทินไม่ควรขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของไทยด้วย ไม่อยากให้ประชาชนสนับสนุนเจ้าตัวเป็นนายกฯ รวมถึงไม่อยากให้พรรคประชาชนไปจับมือด้วย เพราะว่ามีพฤติกรรมหลายอย่างที่ไร้จริยธรรม และคุณธรรม อย่าว่าแต่เป็นนายกรัฐมนตรี ความเป็นมนุษย์ยังเป็นไม่ได้เลยด้วยซ้ำ" นางกุสุมาลวตี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้นายอนุทิน ไม่ได้เดินทางมาศาลเพื่อฟังไต่สวน เนื่องจากนายอนุทิน และคณะ เดินทางไป จ.ศรีสะเกษ เพื่อช่วยหาเสียงแก่ น.ส.จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม สส. ศรีสะเกษ เขต 5