เกมรุกไล่‘ฮุน เซน’สยบยอม ยุทธการเด็ดปีก‘เจ้าพ่อกาสิโน’

จากสถิติความเสียหายสะสม ที่คนไทยถูกหลอกลวงจากอาชญากรรมออนไลน์ ของ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในห้วงกว่า 6 เดือน ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-9 ก.ค.2568 พบว่า

มี คดีออนไลน์ 175,477 เรื่อง แจ้งความออนไลน์ 31,107 เรื่อง แจ้งความที่หน่วยงาน 15,407 เรื่อง เฉลี่ย 919 คดีต่อวัน

มูลค่าความเสียหาย 14,872,104,219 บาท จากตัวเลขนี้อายัดบัญชีได้ทัน 2% คือ 295,764,203 บาท

คดีออนไลน์ พบมากที่สุด คือการหลอกลวงซื้อขาย 56% หลอกลวงให้โอนเงิน 26% หลอกลวงให้กู้เงิน 7% และอื่นๆ

โดยพบว่าคนไทยกว่า 80% ถูกหลอกลวงจากปอยเปต ประเทศกัมพูชา ไม่ใช่พื้นที่ชนกลุ่มน้อยประเทศเมียนมา

“ยุทธการปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร” ของกองบัญชาการตำรวจ สืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ลุยตรวจค้นพื้นที่ 19 จุด 3 จังหวัด กทม. สมุทรปราการ ชลบุรี จึงเกิดขึ้น

จุดที่น่าสนใจ คือ บ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ ก่อนนำหมายค้นของศาลอาญาเข้าตรวจค้น จับกุม “ก๊ก อาน” (MR. Kok An) เจ้าของ Crown casino resort ตึก 25 ชั้น ตึก 18 ชั้น ฐานปฏิบัติแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา หลอกลวงคนไทย ในข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แหล่งฟอกเงิน

พร้อมประสานตำรวจอินเตอร์โพล ประกาศหมายแดง ออกหมายจับ “ก๊ก อาน” พร้อมเครือข่าย และเตรียมประชุมร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เสนออัยการสูงสุดในการทำคดีนอกราชอาณาจักรต่อไป

“ก๊ก อาน”เจ้าพ่อกาสิโนปอยเปต ไม่เพียงเป็นคนใกล้ชิด“ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภาของกัมพูชา แต่ยังเกี่ยวดองกับ “พัค สุภาภา” (ลียง พัค) เจ้าพ่อเกาะกง ทั้งสองคือแหล่งสร้างรายได้มหาศาลให้กัมพูชา

การบุกตรวจค้น และออกหมายจับ“ก๊ก อาน” ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางพลี จ. สมุทรปราการ ซึ่งคาดว่าเป็นบ้านพักส่วนตัว ทำให้ “พัค สุภาภา” ถูกจับตาว่ามีส่วนเกี่ยวพัน และโดนหางเลขด้วยหรือไม่ เนื่องจากมีบ้านพักอยู่ใน กทม.

พลิกปูม “ก๊ก อาน” ก่อนตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาชญากรรมข้ามชาติ และแหล่งฟอกเงิน เขาเป็นคนจีน ชาวไหหลำ มีพื้นเพอยู่ในพนมเปญ ในช่วงต้น เฟื่องฟูจากธุรกิจขายบุหรี่ เนื่องคนกัมพูชาชอบสูบบุหรี่ ทำให้กอบโกยกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ

“ก๊ก อาน” ปักหมุดปอยเปต เปิดกาสิโน เนื่องจากทำเลใกล้ประเทศไทยมากที่สุด การเดินทางสะดวก เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นคนไทย เดินทางมาจาก กทม. โดยรายได้ส่วนหนึ่งสนับสนุนรัฐบาลกัมพูชาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

ส่วน“พัค สุภาภา” เป็นคนจีนโพ้นทะเล เดิมทีทำอาชีพรับจ้างนั่งเรือไปซื้อบุหรี่และเป็นลูกน้องของ ก๊กอาน ก่อนไต่เต้าเป็นลูกจ้างปั๊มน้ำมันและเป็นเจ้าของกิจการ จากนั้นแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของก๊ก อาน

ขุมทรัพย์ของ“พัค สุภาภา” คือ เกาะกงติดกับชายแดนไทย จุดผ่านแดนหาดเล็ก จ.ตราด แหล่งที่ตั้งธุรกิจกาสิโน โรงแรมและรีสอร์ท

แม้ธุรกิจกาสิโน“ก๊ก อาน-พัค สุภาภา”จะทำกำไรมหาศาลในช่วงต้น แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ขาดทุนได้เช่นกัน ซึ่งก็เป็นเศษเสี้ยวหนึ่ง เพราะทั้งสองคนยังมีธุรกิจผูกขาดอื่นๆ อีกมากมายในกัมพูชา

แน่นอนว่าทั้ง“ก๊ก อาน-พัค สุภาภา”ไม่เพียงแต่ใกล้ชิด รู้จักคนใหญ่คนโตฟากกัมพูชาเท่านั้น ยังหมายรวมถึง นักการเมืองทั้งในอดีตและปัจจุบันของไทยหลายคน รวมถึงนักธุรกิจ ข้าราชการ คนมีสี

ปัจจุบันกาสิโน บ่อน ธุรกิจอื่นๆ“ก๊ก อาน-พัค สุภาภา”ได้รับผลกระทบหนัก จากมาตรการเปิดด่านจำกัดเวลาของไทย การเข้มงวดคัดกรองบุคคล ห้ามนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านด่านชายแดนตลอดแนวไปกัมพูชา

เช่นเดียวด่านโอร์เสม็ด จ.อุดรมีชัย ฝั่งตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งบ่อนกาสิโนอีกแหล่งหนึ่งของ “พัค สุภาภา” บรรยากาศเงียบเหงา ไร้นักท่องเที่ยวจากไทย

โดยด้านหลังมีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ จำนวนหลายอาคาร เป็นทั้งห้องพักและสำนักงาน ดำเนินการแล้วเสร็จไปกว่า 90% บริเวณโดยรอบ ก่อสร้างรั้วเหล็กสูง และวางลวดหนามหีบเพลงป้องกันไว้อย่างแน่นหนา

ท่ามกลางความสัมพันธ์ “ทักษิณ ชินวัตร” และ “ฮุน เซน” ขาดสะบั้นหลังปล่อยคลิปสนทนา “แพทองธาร ชินวัตร” ผู้นำไทย ต่อกรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ปมการเปิดด่าน

"เคยเป็นพี่น้องกับฮุนเซน แต่ทำลูกผมขนาดนี้ ยอมรับว่า ผมถึงกับช็อก ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ลูกคุยกับผมตลอด วันนั้นลูกบอกผมว่า จะไปโรสวูด พบกับ นายเครียง ฮวด เพราะเขาจะต่อสายให้คุยกับฮุน เซน ซึ่งมีนายกฯ(แพทองธาร) ได้เชิญ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ และนพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ไปด้วย“

”รออยู่เกือบ 3 ชั่วโมง โดยเขาอ้างว่าหลับ จึงบอกไม่ต้องรอ คณะก็แยกย้ายกันกลับ แต่ฮุน เซน กลับโทรฯมาที่เบอร์ ส่วนตัวนายกฯ ซึ่งผมสงสัยว่าอาจจะไม่ได้หลับ แต่เตรียมการอัดเทป จึงเชื่อว่า เขาน่าจะรู้ว่าเรามี รมว.กลาโหม รมว.ประเทศ อยู่ด้วย ซึ่งก็น่าเจ็บใจว่าเขาทำได้อย่างไร“

”อีกประเด็น จำได้หรือไม่ ผมบอกว่า ตึก 25 ชั้น เป็นที่ซ่องสุมคอลเซ็นเตอร์ ตำรวจไปสืบจนได้หลักฐาน กลายเป็นเศรษฐกิจเขมรหลอกลวงคนไทย และวันนี้เรารู้เยอะเลยว่าโยงคอลเซ็นเตอร์ การฟอกเงิน บริษัทฮุ่ยวัน ที่อเมริกาแบล็คลิสต์ไว้ ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นคนจีนที่รับฟอกเงินทุกอย่าง และมีหลานชายของฮุน เซน ที่ชื่อฮุน โต ถือหุ้นด้วย" 

ทักษิณ กล่าวเปิดใจบนเวที 55 ปีเนชั่น ผ่าทางตันประเทศไทย ช่วงค่ำวันที่ 9 ก.ค.2568

เมื่อย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 ก.ค. สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)เรียกประชุมด่วนในช่วงบ่าย โดยมี ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ ในฐานะรองนายกฯด้านความมั่นคง และรมว.มหาดไทย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการแทน รมว.กลาโหม ฉัตรชัย บางชวด เลขาฯสมช.และหน่วยงานเกี่ยวข้อง

การประชุมในวันนั้น ใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง โดยมีรายงานว่า ได้มีการต่อสายพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชา เจรจากำหนดวัน เวลาเปิดด่านชายแดนตลอดแนวพร้อมกัน และให้ปรับลดกำลัง ขนอาวุธหนักออกจากชายแดนทั้งหมด หลังประชาชนทั้งสองประเทศได้รับผลกระทบมาพอสมควรแล้ว

โดยฝ่ายไทยได้เตรียมหนังสือเปิดด่านเรียบร้อยหมดแล้ว รอแค่เพียงฝ่ายกัมพูชายอมรับข้อเสนอ ก็สามารถลงนามและประกาศได้ทันที

แต่ก็ไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากทางกัมพูชายืนยันว่า ต้องรอคำสั่งจากฮุน เซน และฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา ที่ต้องการให้ไทยเปิดด่านก่อน 5 ชั่วโมง และกัมพูชาจะเปิดตาม และจะปรับกำลังขนอาวุธหนักออกจากชายแดนตามเงื่อนไขฝ่ายไทยทันที

ปัญหาพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา เกี่ยวพันกับอธิปไตยสองประเทศ และความสัมพันธ์ตระกูลชินวัตร-ตระกูลฮุน ถูกนำมาเป็นเครื่องมือจุดกระแสนิยมรักชาติ เพื่อหวังผลการเมืองภายใน

นำมาซึ่งการตีแผ่เปิดโปงเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์ การฟอกเงิน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สร้างความเดือดร้อนให้คนไทยสูญเสียทรัพย์สินมหาศาล แท้จริงแล้วเบื้องหลังเกี่ยวพันผลประโยชน์ นักการเมือง นักธุรกิจ คนมีสีทั้งฝั่งไทย-กัมพูชา

จึงเป็นที่มาของคำถาม หากความสัมพันธ์“ทักษิณ-ฮุน เซน” ไม่ขาดสะบั้น จะได้เห็นการปฏิบัติการปราบปราม อาชญากรรมข้ามชาติ รุก รบ เข้าถึงตัวการระดับเจ้าพ่อหรือไม่

และเป็นอีกบทพิสูจน์ ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ตำรวจไทยไม่รู้ แต่ขึ้นอยู่กับว่า จะทำหรือไม่ อาชญากรรมข้ามชาติไม่ได้เพิ่งเกิดในปี 2568 แต่คนไทยได้รับความเดือดร้อนมายาวนานหลายปี