‘ทักษิณ’ ลั่นไม่ถึงทางตัน เพราะผมยังอยู่! ลุยแก้เสียงปริ่มน้ำ

‘ทักษิณ’ ลั่นไม่ถึงทางตัน เพราะผมยังอยู่! ลุยแก้เสียงปริ่มน้ำ

‘ทักษิณ’ ลั่นประเทศยังไม่ถึงทางตัน เพราะผมยังอยู่ เชื่อ ‘แพทองธาร’ รอด ลุยแก้เสียงปริ่มน้ำ เล่าหลังฉาก ‘ภูมิใจไทย’ ถอนตัวพรรคร่วมฯ ยังไม่ร่วม ‘พรรคส้ม’ ตอนนี้

KEY

POINTS

  • ทักษิณ ชินวัตร ยืนยันว่าสถานการณ์การเมืองยังไม่ถึงทางตัน โดยมองว่าทุกปัญหามีทางแก้ไขได้เสมอ
  • ประกาศจะแก้ปัญหาเสียงรัฐบาลปริ่มน้ำด้วย “คณิตศาสตร์ทางการเมือง” โดยเชื่อว่าจะสามารถดึง สส. จากพรรคอื่นมาร่วมได้
  • ชี้ว่าสาเหตุที่พรรคภูมิใจไทย ออกจากรัฐบาล เพราะพรรคเพื่อไทยต้องการกระทรวงมหาดไทยคืน เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย แต่ไม่สามารถตกลงกันได้
  • ยืนยันว่าตนเองจะยังคงมีบทบาททางการเมือง เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยลั่นวาจาว่า “การเมืองไม่มีทางตัน เพราะผมยังอยู่”

เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2568 ที่ห้องพญาไท 4 ชั้น 6 โรงแรมอิสติน แกรนด์ พญาไท กทม. “เครือเนชั่น” จัดกิจกรรม “55 ปี NATION ผ่าทางตันประเทศไทย Exclusive Talk กับ 3 ผู้นำทางความคิด” โดยมี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นแขกรับเชิญคนแรก ดำเนินรายการโดย 3 บรรณาธิการ เครือเนชั่น ได้แก่ นายวีระศักดิ์ พงศ์อักษร นายบากบั่น บุญเลิศ และนายสมชาย มีเสน

นายทักษิณ กล่าวถึง ประเทศถึงทางตันแล้วหรือไม่ ถ้ามีเกิดจากอะไร และทางออกควรเป็นอย่างไร ว่า  ถ้าทางตัน แสดงว่ามีคนอุดไว้ มันถึงจะตัน ถ้าดึงมันออกก็ไม่ตัน เหตุเกิดที่ไหน ดับที่นั่น ส่วนใครอุดนั้น เราต้องเข้าใจก่อนว่า เมืองไทยคนอยากเป็นนายกฯก็เยอะ มีบางคนลูกชายไปเที่ยวเมืองนอก ประกาศเลยพ่อต้องเป็นนายกฯ ในเดือน ก.ค.นี้ สงสัยพ่อจะดูหมอหรือไม่ ตนจะเล่าให้ฟัง บางคนอยากเป็นนายกฯ ยอมทำทุกอย่าง เพราะว่าอยากให้หมอดูแม่น เดี๋ยวหมอดูจะไม่แม่นไป ทั้งนี้การเมืองมีหลายรูปแบบ ยิ่งวันนี้มีเรื่องนิติสงครามเข้ามาด้วย เป็นเรื่องของตัวเลขในสภาฯ คณิตศาสตร์ทางการเมือง ก็ทุกคนเก่งคณิตศาสตร์หมด คงไม่มีอะไร มันไม่มีอะไรเกินกว่าจะแก้ได้ บอกได้เลยว่าไม่ตัน

‘ทักษิณ’ ลั่นไม่ถึงทางตัน เพราะผมยังอยู่! ลุยแก้เสียงปริ่มน้ำ

ส่วนกรณีพรรคภูมิใจไทย ออกจากรัฐบาลทำให้เกิดทางตันหรือไม่นั้น นายทักษิณ กล่าวว่า ฟังนะ ไม่ได้ขอให้ออกคือ เพียงแต่ว่า รัฐบาลเพื่อไทย เป็นรัฐบาลที่ต้องมีผลงาน ชอบสู้ด้วยนโยบาย พอแถลงไม่เป็นไปตามนั้น ก็ต้องพยายามผลักดัน แต่มันดันตันที่กระทรวงมหาดไทย นโยบายหลายเรื่อง ยาเสพติด การแก้ปัญหาความยากจน ทุกอย่าง เรื่องหนี้สิน เรื่อง OTOP ต้องอาศัยกลไกมหาดไทยทั้งนั้น ต้องแก้ตรงนั้น เราก็พยายามจะขอแก้ แม้กระทั่งการสร้างบ้านให้คนไทย ทำสัญญา 99 ปี ก็ติดที่มหาดไทยอีก ตันตรงนั้นหลายจุด เป็นเรื่องยุทธศาสตร์ของใครของมัน 

“เราบอกว่า พูดชัดเจนเลย พรรคเพื่อไทยขอมหาดไทยคืน เขาก็บอกว่าขอแลก เขาไม่ตกลง เราก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะออกหรือไม่ นายกฯ เล่าให้ฟังว่า เราแค่ขอตรงนี้นะ อยากให้อยู่ด้วยกันในพรรคร่วมรัฐบาล พอดีมีเหตุฮุน เซน พอดี ไม่กล้าปรักปรำใคร เกิดเหตุบังเอิญ” นายทักษิณ กล่าว

ส่วนจะแก้ปัญหาทางตันการเมืองอย่างไรนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ก็แก้ไปด้วยคณิตศาสตร์การเมือง ก็แก้เรื่องเสียง แต่ยืนยันว่ารัฐบาลขณะนี้ยังไม่ตัน บริหารไป และเพิ่มคนไป เดี๋ยวก็ต้องร้องเพลง “หนูเปล่านะ เขามาเอง” มีพรรคอกแตก 2 พรรค ก็ไม่มีปัญหา เพราะพวกเราเป็นเบิร์ด “รักทุกคน” 

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณี สว.ไปยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญ จน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ต้องถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น อยากถามว่า สว.โดนกล่าวหาว่า ฮั้ว พูดเพราะไป ต้องพูดว่า โกงเลือกตั้ง ได้ร่วมกัน 138 คน บวกคณะกรรมการบริหารพรรคอีกหลายคน เรื่องนี้จริยธรรมมันไม่มีแล้ว จะไปร้องจริยธรรมทำไม คนร้องมันไม่มีจริยธรรม อันนั้นบางทีตนไม่อาจก้าวล่วงลักษณะง่ายๆ ว่า คนร้องจริยธรรมไม่เหลือแล้ว ดันไปร้องคนอื่น เป็นเรื่องที่จะทำอย่างไร ถึงให้รัฐบาลล่มให้ทัน ก.ค.นี้ เพื่อจะแก้ปัญหา มันเป็นเรื่องนี้ ไม่มีอะไรหรอก กลายเป็น Zero Some Game Rage Against Time 

‘ทักษิณ’ ลั่นไม่ถึงทางตัน เพราะผมยังอยู่! ลุยแก้เสียงปริ่มน้ำ

“ปัญหาเขามีไว้ให้แก้ เขาไม่ได้มีไว้แบก ตนมองปัญหาเป็น Challenge ไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับตน คิดว่าเป็นปัญหาก็เครียดตายไม่ต้องนอน” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ เล่าอีกว่า ประเด็นการฮั้ว สว.นั้นเท่าที่รู้ข้อมูล มีการวางแผนตั้งแต่ช่วงการเลือกตั้ง สส. 2566 ต่อมาในปี 2567 ก่อนการเลือก สว. ตนถามว่า ตกลง สว.นี่ พรรคร่วมรัฐบาลเอาอย่างไรกันดี เขาก็บอกว่าไม่ยุ่ง ไม่มีใครยุ่ง เพราะกลไกรัฐธรรมนูญห้ามพรรคการเมืองไปยุ่ง แต่มีรายงานการสืบสวนที่คนเล่าให้ฟังว่า มีการเตรียมการตั้งแต่เลือกตั้ง สส. ตนตกใจสุดขีดเลย วิสัยทัศน์ดีมาก เลือกตั้ง สส.ก่อน และกำหนดเลยว่า ถ้าใครคุม สส. 15 คน จะได้คุม สว. 1 คน 

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า เราอยู่ในโลกที่มีกติกา เราก็ต้องเคารพกติกา ในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งพักการทำหน้าที่ เราก็พักซะ แต่คนมีหน้าที่ก็ทำไป มันเป็นเรื่องที่เราต้องอยู่ด้วยกติกา ถ้าเราไม่เคารพกติกา บิดเบี้ยวกติกา มันก็อยู่ยาก ส่วนถ้าคนอื่นชกใต้เข็มขัด ตนก็กระทืบเท้าเขา

เมื่อให้ลองเปรียบเทียบระหว่างสมัยนายทักษิณเป็นนายกฯ กับสมัยปัจจุบัน นิติสงครามที่ต้องเผชิญแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ไม่แรงกว่าเดิม นิติสงครามสมัยก่อน กับสมัยนี้ไม่เหมือนกัน สมัยก่อนระบบ Command Control สมัยนี้เป็นระบบร้องแล้วทำหน้าที่พิจารณา ไม่จำเป็นต้องเชื่อตามร้อง ยังมีกติกาของมันที่มันอาจหยุมหยิมเยอะแยะ แต่ก็ยังมีหลักเกณฑ์กว่าสมัยก่อน

นายทักษิณ ยังตอบคำถามถึงประเด็นระบบประชาธิปไตยแบบเรา องค์กรอิสระมีไม่กี่คน แต่กลับชี้นำการเมืองว่า อันนี้จริงๆ ถามว่าควรเป็นอย่างนี้หรือไม่ มันไม่ควรเป็น แต่ในเมื่อมันเป็น และเราเข้ามากติกาอยู่แบบนี้ เราก็ควรต้องเดินไปก่อน เพื่อไทยโดนจนชินแล้ว มันเป็นเรื่องที่เราว่าไป สู้ไปแก้ไป อะไรแก้ได้ก็แก้ ก็ต้องอยู่ในกติกาให้ได้

ส่วนความกังวลภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์รับคำร้อง และมติ 7:2 เสียงสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ น.ส.แพทองธาร นั้น นายทักษิณ กล่าวว่า คะแนนไม่เกี่ยวเลย คะแนนสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ กับคะแนนคิดพิจารณาว่าผิดหรือไม่ คนละส่วนกัน การหยุดปฏิบัติหน้าที่ต้องการลดกระแสมากกว่า จำกรณีนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้หรือไม่ ถูกพักการทำหน้าที่เหมือนกัน แต่สุดท้ายรอด ทั้งนี้กรณีของ น.ส.แพทองธาร ก็มั่นใจ ตามข้อกฎหมาย ตามข้อเท็จจริง และมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจของลูกตน เชื่อว่าศาลน่าจะรับฟังด้วยเหตุด้วยผล ที่ข้อเท็จจริงมันเป็นอย่างไร ก็อธิบายได้หมดทุกอย่าง 

เมื่อถามว่า บางคนที่ออกจากพรรคร่วมรัฐบาลไป เริ่มไปสุมหัวกันตั้งรัฐบาลแล้ว นายทักษิณ กล่าวว่า “จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด” 

‘ทักษิณ’ ลั่นไม่ถึงทางตัน เพราะผมยังอยู่! ลุยแก้เสียงปริ่มน้ำ

เมื่อถามอีกว่า เคยคิดหรือไม่ถ้าพรรคภูมิใจไทยออกจากรัฐบาลไป จะเกิดเหตุยุ่งเหยิงแบบนี้ นายทักษิณ กล่าวว่า แน่นอน เดาไว้อยู่แล้ว ตนไม่อยากให้เขาออก แต่เขาดันออกคือ เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็อย่าไปเสียใจกับมัน เราไม่สามารถคอนโทรลได้ เราชวนเขาแล้ว เขาไม่เอา ก็ช่วยไม่ได้ ไม่รู้ทำอย่างไร ส่วนข้อตกลงที่ผ่านมานั้น เท่าที่ทราบคือ เมื่อเราขอกระทรวงมหาดไทยคืน เขาขอแลกกระทรวงเดียวคือ กระทรวงคมนาคม ซึ่งเรารู้อดีตว่าเป็นอย่างไร ที่ไม่ให้เขาไป

เมื่อถามว่า ผิดหวังกับพรรคภูมิใจไทยมา 2 รอบแล้ว รอบแรกปี 2551 ออกจากพรรคพลังประชาชน ไปตั้งพรรคตัวเองแล้วร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มารอบนี้ต้องผิดหวังอีกรอบ รู้สึกอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า การเมือง เราต้องเข้าใจว่าบ้านเรา มันมีกฎไว้เลี่ยง เพราะฉะนั้นตนลืมอดีตแล้ว พยายามจะเริ่มต้นใหม่ ลืมอดีตทุกคน การเมืองบ้านเรา เป็นการออกแบบการเมืองที่แย่ที่สุด กติกาตั้งแต่ทหารรัฐประหาร เวลาเขียนรัฐธรรมนูญ เขาเห็นหน้าตนอยู่ เขาพยายามจะกันตนในทุกรูปแบบ กันจนบ้านเมืองมีปัญหาคือ การเมืองแบบเบี้ยหัวแตก พรรคเล็กน้อยเยอะแยะ มันทำงานยาก ไม่เหมือนสมัยตน แก้ปัญหาต้มยำกุ้งจบง่ายมาก ข้าราชการทำตามนโยบายรัฐบาลเต็มที่ ไม่มีระบบสัมปทานกระทรวง พอมาตอนนี้ มันแย่แล้ว ผลสุดท้ายบางทีเราเจอบางคนให้บริหารกระทรวง เขาไปทำธุรการกับธุรกิจ ธุรการคือ แต่งตั้งโยกย้าย ส่วนธุรกิจวางไข่ออกไข่

“การเมืองไทย มันไม่มีมิตรแท้ ไม่มีศัตรูถาวร เมื่อการเมืองออกแบบอย่างนี้ ไม่สามารถบอกได้ว่า จะอยู่คนเดียวในรัฐบาลนี้ เป็นไปไม่ได้ สูตรคณิตศาสตร์ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ เมื่อไหร่สูตรคณิตศาสตร์จำเป็น กลืนเลือด 3-4 ปี๊บก็ว่าไป” นายทักษิณ กล่าว

ถามย้ำว่า รัฐธรรมนูญ หรือกลไกกติกาทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ คิดว่าตัวเองเป็นทางตันหรือไม่ และปัญหาทั้งหมดเกิดจากตัวเองหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า อาจมีบางคนไม่ค่อยชอบหน้าตนเป็นพิเศษ ถึงมีขาประจำ บังเอิญว่าขาประจำตนมา 20 ปีแล้ว ตอนพ่อตนตาย ลืมถามว่า พ่อตนมีปัญหากับพ่อเขาหรือไม่ พวกนี้ถ้ามาคุยกับตน บางคนไม่รู้จักกันเลย เห็นแต่ในทีวี เห็นก็ไม่ชอบแล้ว ตนก็กรวดน้ำ อย่าไปคิดอะไรมาก 

นายทักษิณ ยังวิเคราะห์ถึงโอกาสที่พรรคเพื่อไทย จะร่วมงานกับพรรคประชาชน ว่า ในวันนี้ยังไม่มีความจำเป็นคือ เอาอย่างนี้ดีกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นศัตรูกับพรรคใดพรรคหนึ่งไม่ได้เป็น แต่แน่นอนการทำงานกับใคร ก่อนอื่นต้องมั่นใจว่า เราไปด้วยกันได้ และไม่ขัดนโยบายหลักๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสถาบันฯ เรื่องเจ้านาย เพราะตนได้รับพระเมตตาสูงสุด ตนไม่มีทางทำงานกับใครที่กระทบกระเทือนสถาบันฯ แต่ถ้าถามตอนนี้คือไม่รู้ ไม่ได้คุยกันเลย

ส่วน “ค่ายน้ำเงิน” กับ “ค่ายส้ม” จับมือกันได้หรือไม่ นายทักษิณ ประเมินว่า ถ้าจะจับ ก็จับหลวมๆ เพราะปลาคนละน้ำ พูดถึงจริงๆ เป็นพรรคที่เกิดจากนโยบาย พรรคที่เกิดจากการหาเสียง สไตล์เดียวกัน ถ้าคุณเห็นพรรคไทยรักไทยเกิดอย่างไร พรรคส้มก็คล้ายๆ กัน แดงผสมเหลืองกลายเป็นส้ม น้ำเงินผสมแดงเป็นม่วง ถ้าผสมเหลืองอีกมันจะเละเทะไป ส่วนแดงส้มถ้าผสมกันเป็นสีแสด มันแรงไป

“วันนี้คิดว่าพรรคแกนนำของรัฐบาล ยังสามัคคีทำงานด้วยกันได้ ยังไม่มีปัญหา แต่ต้องคุมในสภาฯ ไม่ให้โดดสภาแค่นั้นเอง ต้องช่วยกันคุมสภา ไม่ให้โดดสภา โดยเฉพาะกฎหมายสำคัญ” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ ยังเชื่อว่าปัจจุบันการเมืองยังไม่ถึงทางตัน โดยปัญหามีไว้แก้ เป็นอุปสรรคก็ต้องแก้ไป ตันหรือไม่ตัน โดยประเมินฉากทัศน์การเมืองหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคดีของนายกฯ ว่า มีหลายออปชันคือ นายกฯ แพทองธาร รอด ก็กลับไปทำงานเหมือนเดิมเต็มที่ ผลักดันนโยบายต่อ ทีนี้ยาว ถ้าสมมติว่าไม่รอด มีทางเลือก 2 อย่างคือ เสนอนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ คนที่ 3 ของพรรคเพื่อไทย หรือยุบสภาฯ ยืนยันว่า นายชัยเกษม ยังฟิต ตีกอล์ฟสบายมาก

ส่วนนายกฯ ที่ผ่านมาของเพื่อไทยสมัยนี้ ติดกับดักศาลรัฐธรรมนูญมาแล้ว 2 คนคือ นายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร คิดว่านายชัยเกษม ถ้าได้เป็นนายกฯ จะเป็นทางรอดของประเทศหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “ผมยังอยู่ เอาผมออกไม่ได้ ผมเป็น สทร. รักบ้านเมือง ไม่ยอมหรอก การเมืองไม่มีทางตัน เพราะผมยังอยู่”

‘ทักษิณ’ ลั่นไม่ถึงทางตัน เพราะผมยังอยู่! ลุยแก้เสียงปริ่มน้ำ

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าหลังจากนี้จะมีบทบาททางการเมืองมากขึ้น นายทักษิณ กล่าวว่า ถ้าจำเป็นก็ต้องมี ก็ขอให้บ้านเมืองรอด ส่วนทัวร์จะลงไม่เห็นเป็นไร เอาไปทอดผ้าป่าเถอะ ยืนยันว่าปัจจุบัน ตนตื่นเช้าตามปกติ ถ้าไปขึ้นศาล ก็ไปขึ้น แก่แล้วปล่อยวางไปเยอะแล้ววันนี้ ตนหยุดแล้ว แต่ท่านไม่หยุด 

ซักว่า ฝ่ายการเมืองบางฝ่ายบอกว่า ท่านยังไม่หยุด นายทักษิณ ตอบว่า ตนต้องทำงานให้บ้านเมือง จะให้ทำอย่างไร ภาวะเศรษฐกิจวันนี้ ขอโทษ ถ้าตนไม่ สทร.แล้วใครจะ สทร.มันยาก วันนี้ปัญหาบ้านเมืองอย่างนี้ อยู่เฉยไม่ได้ ในฐานะอดีตนายกฯ และลูกเป็นนายกฯ มีอะไรก็ต้องช่วยกัน วันนี้ต้องประชุมกันว่าจะเอาอย่างไร ขนาดตนออกข้างนอกไม่ได้ ถ้าออกได้สนุกกว่านี้อีก

เมื่อถามถึงการอยากออกไปช่วย แต่มีคดีมาตรา 112 คาอยู่ มองเหมือนมีใครล่ามขาไว้หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นเรื่องต่อเนื่องจากคราวที่แล้ว ตอนรัฐประหาร คสช. เป็นการกระชับอำนาจ คดีตนจะหมดอายุความ เลยล็อกไว้ก่อนด้วยมาตรา 112 ซึ่งไม่มีอะไรเลย เนื้อหาคดี ไม่ได้กังวลเลย มั่นใจอยู่แล้ว ไม่มีอะไรเลยจริงๆ ถ้าเป็นภาวะปกติเขาไม่ตั้งข้อหาหรอก แต่นั่นภาวะพิเศษ

เมื่อถามถึงกลไกบริบทการเมืองปัจจุบัน กลไกฝ่ายค้าน นิติสงคราม ข้อกฎหมาย องค์กรอิสระ มันมีอำนาจอะไรเหนือกว่าสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ทำให้การทำงานรัฐบาลเดินหน้าไม่ได้ เจอกับดักไปหมด นายทักษิณ กล่าวว่า คิดว่าไม่มีอะไรเลย มีแต่ความหยุมหยิมของระบบวางไว้ไม่ดี ซึ่งต้องแก้ ระบบการเมืองที่วางไว้ องค์กรอิสระที่อนุญาตให้ใครก็ได้มาร้อง เป็นเรื่องที่คดีรกไปหมด ส่งเสริมอาชีพนักร้อง บางคนรับจ้างร้อง รับจ้างหยุดร้อง

นายทักษิณ ยังบอกอีกว่า ไม่ต้องกลัวจะกลับมาเคลื่อนไหวอะไร ขออย่ากลัวตนเลย เพราะตนหมูเรียกพี่ ใครเจอตนหมูจะตาย ในเชิงอำนาจตนไม่ค้าอำนาจ ที่สุดมีแต่ช่วยคน แต่สายน้ำเงินบอกไม่หมู ตนคุยชัดเจนจะตาย ถ้าชัดเจนตามก็จบไปแล้วไม่มีอะไร

เมื่อถามว่าภายหลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัว นายเนวิน ชิดชอบ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ติดต่อหรือมีโอกาสคุยกันบ้างหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “ไม่มีเลย” เมื่อถามย้ำว่า นายอนุทินค่อนข้างสนิท นายทักษิณ ตอบว่า “ก็เขาไม่คุย” 

ส่วนพรรคที่เคยร่วมรัฐบาล ตอนนี้แปรสภาพเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายแค้น นายทักษิณ กล่าวว่า น่าจะแค้นมากกว่าค้าน

นายทักษิณ ยังประเมินกลไกการทำงานของพรรคเพื่อไทย ที่กลับมาคุมกระทรวงมหาดไทย แถมดูแลกลไกหลัก ทวงคืนความยุติธรรมให้ที่ดิน กรณีเขากระโดง ว่าทุกอย่างต้องว่าตามกติกา กฎหมายของอัลไพน์ก็โดนเขาสั่งถอนก็ว่าไปตามกติกา มีสิทธิอะไรก็รักษาสิทธิไป โดยยืนยันว่าทุกอย่างเดินหน้าตามกฎหมาย ใครนั่งทับสิ่งไม่ถูกต้องจะโดน มาตรา 157 ไม่อย่างนั้นอีกไม่นานมีคนมาร้อง มท.1 ใหม่ นี่ไงถึงบอกว่า บ้านเมืองเราไม่มีผู้เสียหายก็ร้องได้ ถึงได้เลอะเทอะไปหมด

นายทักษิณ ประเมินถึงทิศทางของกระทรวงมหาดไทย ภายหลังนายภูมิธรรม เวชยชัย มาคุม และมีการโยกย้ายข้าราชการไปแล้วว่า ต้องเห็นใจเขามาจากกลาโหม มาอยู่ มท.ต้องเด็ดขาด กลไกมหาดไทย ถ้ากลไกไม่ทำงาน ได้ข่าวเขาบอกว่าจะบุกไปดูเองเลยไม่ต้องมาต้อนรับอะไร กินข้าวกล่องได้ ถ้าไปถึงผู้ว่าฯ ไม่อยู่ปฏิบัติงาน โดนนะ

เมื่อถามว่า ควรทำอย่างไรเพื่อเรียกความมั่นใจจากประชาชน ว่ารัฐบาลยังไม่ถึงจุดดับ นายทักษิณ กล่าวว่า บอกว่าพ่อนายกฯ อยู่นี่ อย่างไรก็ดูแลบ้านเมืองเต็มที่ มีอะไรก็บอกรัฐมนตรีช่วยกันทำหน่อย บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ก็ว่าไป ยืนยันนายกฯ ไม่สุญญากาศ ไม่มีข้าราชการเกียร์ว่างทันที ไม่ต้องว่าง ไม่ต้องห่วง สถานการณ์การเมือง River is no return สายน้ำไม่ไหลกลับ

นายทักษิณ มองว่าภายหลังการรัฐประหาร กลไกข้าราชการ เปลี่ยนไปเยอะจริง แต่แน่นอนว่า ข้าราชการอาจมองว่าจะกลับมา ปรากฏว่า ตนเลยบอกว่า River of no return จะรีเทิร์นก็ต้องรอเลือกตั้งสมัยหน้า

เมื่อถามถึงคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยปัจจุบันทรุดตัวลง น่าห่วงหรือไม่ ครั้งหน้าได้เท่าเดิมหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า การเมืองเป็นกระแส กระแสมันแล้วแต่ว่าในภาวการณ์ไหน ในภาวการณ์นี้โดนรุมอย่างนี้ Social Media ซอมบี้อะไรพวกนี้ ปั่นๆ กัน แต่สักเดี๋ยวก็หยุด ส่วนการขับเคลื่อนโครงการใหญ่ๆ ของรัฐบาลต่อไปนั้น อะไรเคลื่อนได้ก็เคลื่อน เรื่องรูทีนไม่ฟังก์ชัน ต้องขับเคลื่อน เช่น เรื่องยาเสพติด เรื่องแก้หนี้ เรื่องการเพิ่มรายได้ให้ประชาชน ให้โอกาสประชาชนในการสร้างรายได้ ต้องทำอย่างต่อเนื่อง แต่เรื่องโครงการใหญ่ๆ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือการออกกฎหมายก็ทำไป แต่ที่ถอนออกมาไม่อยากให้สับสน เขาก็เรียงลำดับความสำคัญในช่วงนี้ก่อน

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์