'ณัฐพงษ์' รอดู 'ทักษิณ' โชว์วิสัยทัศน์ กู้ภาพลักษณ์รัฐบาลได้ไหม

'ณัฐพงษ์' รอดู 'ทักษิณ' เดี่ยวไมค์โชว์วิสัยทัศน์ กู้ภาพลักษณ์รัฐบาลได้หรือไม่ เชื่อถ้าใช้อำนาจต่อรองเป็น จะทำให้กลับเข้าสู่การเจรจา 'กัมพูชา' อย่างถูกต้อง
KEY
POINTS
- ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ จับตารอดูการแสดงวิสัยทัศน์ของ ทักษิณ ชินวัตร ว่าจะสามารถช่วยกอบกู้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลได้หรือไม่
- คาดหวังให้ ทักษิณนำเสนอแนวคิดเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ที่เน้นการลงทุนในวัฒนธรรมอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน มากกว่าการจัดอีเวนต์เพียงอย่างเดียว
- มองว่าการปรากฏตัวของ ทักษิณครั้งนี้อาจเกี่ยวข้องกับเสถียรภาพของรัฐบาล หลังจากที่บทบาทเงียบหายไปในช่วงที่มีความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล
- เชื่อว่า ทักษิณจะมีการแสดงความคิดเห็นในประเด็นการเมือง รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เช่น กรณีกับสมเด็จฮุน เซน ของกัมพูชา
เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมขึ้นเวทีเอ็กคลูซีฟทอล์ก กับ 4 ผู้นำทางความคิดร่วมชี้ทางรอดการเมือง ทางออกประเทศไทย ของเครือเนชั่น ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ คาดหวังการแสดงออก ประเด็นทางการเมืองหรือไม่ ว่า ได้ติดตามการแสดงวิสัยทัศน์ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.วัฒนธรรมไปแล้ว
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หากถามว่าคาดหวัง และอยากเห็นอะไรจากนายทักษิณ โดยหากเป็นเฉพาะในส่วนของซอฟต์พาวเวอร์ ตนคาดหวังในเรื่องของการลงทุน ในต้นทุนของวัฒนธรรม โดยโดยที่ผ่านมาเราจะเห็นนโยบายเรื่องซอฟพาวเวอร์การจัดอีเวนท์ เหมือนกับการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ที่สำคัญการลงทุนต่างๆหรือนำวัฒนธรรมที่เรามีอยู่ไปทำให้เกิดประโยชน์ เช่น สำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ได้มีการศึกษาในเรื่องของย่านสร้างสรรค์ หลายๆย่านทั่วประเทศไทย และจริงๆ แล้วในแต่ละหัวเมืองของเรามีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมต่างๆ ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์พยายามที่จะประสานกับองค์กรณ์ปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จะทำอย่างไรให้ท้องถิ่นมีการตั้งงบประมาณ ในการพัฒนาย่านสร้างสรรค์แต่ละย่านในแต่ละหัวเมือง
"ที่ผ่านมาอาจจะยังไม่ได้รับความร่วมมือกับท้องถิ่นกับท้องถิ่นหรือกระทรวงมหาดไทย ในเมื่อตอนนี้พรรคเพื่อไทยขึ้นมาคุมกระทรวงมหาดไทย และถือเป็นนโยบายเรือธงในการที่จะผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งอยากส่งข้อแนะนำ และอยากเห็นพรรคเพื่อไทยนำผลการศึกษา ที่หน่วยงานของไทยได้ศึกษาไว้มาลองลงทุนดู ในการที่จะปลูกเมืองสร้างสรรค์ในประเทศไทยให้เกิดขึ้นจริง รวมถึงอยากให้มีการใช้งบประมาณให้ถูกจุด มากกว่าการจัดอีเวนท์ธรรมดา" นายณัฐพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า การปรากฏตัวของนายทักษิณในช่วงนี้จะสามารถประเมินเสถียรภาพของรัฐบาลได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องรอดูการแสดงวิสัยทัศน์ในครั้งนี้ของนายทักษิณ ว่าจะสามารถสามารถกอบกู้ภาพลักษณ์ได้หรือไม่ แต่ถ้าหากคิดในทางกลับกันช่วงหลังที่มีความขัดแย้งสูง ในพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ก่อนที่พรรคภูมิใจไทยจะถอนตัวออกมา ก็จะเห็นบทบาทของนายทักษิณที่ออกมาตามหน้าสื่อต่างๆน้อยลง ฉะนั้นในตอนนี้ที่กลับมาเห็นในหน้าสื่ออีกครั้งก็ต้องรอดูว่าจะแสดงวิสัยทัศน์อย่างไร
ซักอีกว่า คาดหวังจะได้เห็นประเด็นตอบโต้ของ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า นายทักษิณเวลาขึ้นเวทีจะมีประเด็นทางการเมืองอยู่ด้วย ฉะนั้นในครั้งนี้คงต้องรอติดตามดูว่าจะมีประเด็นทางการเมืองหรือการแสดงวิสัยทัศน์ที่สร้างทางออกให้ประเทศ พร้อมย้ำว่าต้องรอดู
เมื่อถามถึงกรณีเมื่อวันที่ 8 ก.ค. สมเด็จฮุน เซน ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการที่ศาลไทยออกหมายจับนายก๊ก อาน เจ้าของคราวน์กาสิโนในเมืองปอยเปต ซึ่งมีการโยงถึงนายทักษิณ มองว่าจะทำให้การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำงานยากขึ้นหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นความเห็นของตนต่อกรณีดังกล่าว สิ่งที่ไทยสามารถกดดันสมเด็จฮุน เซน ได้เช่นกัน คือเรื่องของการสื่อสาร เพราะการที่เขาออกมาสื่อสารเช่นนี้แสดงให้เห็นว่า เขาอ่อนไหว ต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
"ฉะนั้น อำนาจต่อรองหากเราใช้เป็น หรือใช้การสื่อสารในเรื่องของพลังสื่อมวลชน ที่เราต้องการดำเนินการว่าในการสื่อสารที่เราต้องการดำเนินการคือการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนคิดว่าจะสามารถกดดันกัมพูชา ในการที่จะกลับเข้าสู่การเจรจาในทางที่ถูกต้องมากขึ้น ไม่ใช่ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว แล้วทำให้เกิดปัญหาที่มีผลกระทบเกิดขึ้นตามมาเหมือนในอดีต" นายณัฐพงษ์ กล่าว







