'พิชิต' ยกรัฐธรรมนูญยัน 'ภูมิธรรม' รักษาการนายกฯ ยุบสภาได้

"พิชิต ชื่นบาน" ชี้ปมอำนาจรักษาการนายกฯ ยุบสภา สามารถทำได้ ยกรัฐธรรมนูญเปิดทางให้รัฐมนตรีลงรับสนองได้ แนะตีความกฎหมายต้องตีความไม่ให้เกิดทางตัน
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2568 นายพิชิต ชื่นบาน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับบันทึกที่เห็นต่าง กรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี สามารถยุบสภาได้หรือไม่ว่า การยุบสภาเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ซึ่งการแสดงความเห็นของตนในครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญในประเด็นปัญหาข้อกฎหมายที่สาธารณชนต้องช่วยกันพิจารณา การยุบสภา เป็นการคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองให้กับประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย การแปลความทางกฎหมายจึงไม่ควรแปลความอย่างแคบ หรือทำให้เกิดทางตันที่ไม่อาจคืนอำนาจให้ประชาชนได้
อีกทั้งประเทศเราอยู่ในระบบประมวลกฎหมาย ไม่สามารถนำระบบจารีตประเพณีมาอ้างอิงได้ ประเด็นปัญหาการยุบสภา มีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับเท่านั้น คือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 และ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งเป็นส่วนขยายบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ สิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศเวลานี้ อยู่ในช่วงที่นายกรัฐมนตรีถูกคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2568
นายพิชิต ระบุว่า ปัญหาที่ถกเถียงกันคือ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีมีอำนาจยุบสภาได้หรือไม่ วันที่ 3 ก.ค. 68 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษครั้งที่ 26/2568 มีมติแต่งตั้งให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 103 บัญญัติไว้ว่า พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้ง สส.ใหม่โดยการตรา พ.ร.ฎ. ทั้งนี้ บทบัญญัติรัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุเจาะจงให้นายกรัฐมนตรีเท่านั้น ซึ่งมาตรา 182 บัญญัติว่า บทกฎหมาย พระราชหัตถเลขา พระบรมราชโองการอันเกี่ยวกับราชการแผ่นดินต้องมี รัฐมนตรี ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ เว้นแต่ที่มีบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นในรัฐธรรมนูญ
ซึ่งแตกต่างกับเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 171 ที่บัญญัติว่า พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีตามที่ นายกรัฐมนตรี ถวายคำแนะนำ ดังนั้น เมื่อพิจารณาประกอบกับ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 41 และ มาตรา 48 ซึ่งเป็นส่วนขยายของบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 41 ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทน
"ถ้ามีรองนายกรัฐมนตรีหลายคน ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี จึงเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและถือเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นฝ่ายบริหาร"
นายพิชิต ระบุว่า มาตรา 48 ให้ผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามความใน พ.ร.บ.นี้มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับผู้ซึ่งตนแทน ดังนั้น นายภูมิธรรมในฐานะผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี จึงมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีที่จะใช้อำนาจของฝ่ายบริหารยุบสภาได้







