'ทวี'ยัน จับ'ก๊กอาน'คนสนิท 'ฮุนเซน' ปัดรัฐบาลตอบโต้กัมพูชา

“ทวี” ยัน จับ“ก๊กอาน” คนสนิท "ฮุนเซน"เป็นไปตามพยานหลักฐาน ชี้อาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติด เป็นภัยความมั่นคง
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 68 เวลา 9.17 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่ตำรวจไซเบอร์บุกตรวจค้น ตามหมายจับศาลอาญา ในบ้านหลังหนึ่งย่านบางนา เพื่อจับกุมนาย ก๊กอาน ชาวกัมพูชา ซึ่งต้องหาว่ามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และถูกกล่าวหาว่าผู้ใกล้ชิดกับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาประเทศกัมพูชา ว่า กรณีนี้เป็นเรื่องของตำรวจดำเนินการ ทั้งนี้เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงทางออนไลน์ บัญชีม้า มีผู้กระทำผิดในคดีเหล่านี้เป็นจำนวนสูงมาก เรามีผู้ต้องขัง ที่เกี่ยวข้องกับคดีเหล่านี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีประมาณ 80,000 คน
ทั้งนี้กรณีของผู้ต้องขังที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้า บางส่วนอาจจะถือว่าเป็นเหยื่อได้ จึงต้องมีการสืบสวนผู้หาตัวผู้บงการ ขณะที่เรื่องของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในส่วนที่อยู่ในประเทศไทยเราสามารถดำเนินการปราบปรามได้ แต่ก็มีส่วนที่เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งครอบคลุมทั้งปัญหายาเสพติด แก๊งอาชญากรรมออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาตินั้นเราต้องยกให้เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราทำตามกฏหมาย และอาจจะมีการขยายผลไปถึงคดีอื่นๆตามมา
เมื่อถามว่า การจับก๊กอานถือเป็นการตอบโต้กัมพูชาหรือไม่ เพราะมีรายงานว่าเป็นบุคคลใกล้ชิดของฮุนเซน พันตำรวจเอกทวีกล่าวว่า ไม่มี เรามีข้อมูลเยอะ เราไม่สามารถแก้เรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือการหลอกลวงซึ่งคล้ายยาเสพติดที่มีฐานอยู่ต่างประเทศ ย้ำว่าเราทำตามพยานหลักฐาน ดูตามหลักฐานว่าเป็นผู้กระทำผิด
เมื่อถามว่า ขณะนี้ดูเหมือนรัฐบาลเร่งปราบปรามยาเสพติดมากขึ้น ทำให้ปัญหาดังกล่าวลดลงได้หรือไม่ พันตำรวจเอก ทวีกล่าวว่า ปัญหายาเสพติดเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งคือยาบ้า ที่มีทั้งผลิตในไทยและต่างประเทศ ซึ่งการแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวเราได้มีความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศต่างๆที่ถูกตราหน้าว่าเป็นที่ตั้ง หรือเป็นเมืองหลวงของยาเสพติด ซึ่งประเทศเหล่านี้ก็ต้องมาร่วมมือช่วยเราปราบปราม นอกจากนี้ ยังมียาเสพติดที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งคือพืชกัญชาและกระท่อม ซึ่งรัฐบาลได้ส่งสัญญาณว่าจะมีกฎหมายมาคุมเข้ม ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนเห็นด้วย แต่ต้องใช้เวลาร่างกฎหมายเรื่องนี้นานเป็นปี จึงได้นำกฎหมายอื่นมาออกมาตรการเพื่อคุมเข้ม ในส่วนของกัญชาก็กำหนดให้ใช้เฉพาะทางการแพทย์ ขณะที่พืชกระท่อม เราจะออกมาตรการห้ามวางขายริมถนน ไม่ให้วางขายน้ำกระท่อม ซึ่งเรื่องเหล่านี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักวิชาการและประชาชน นอกจากนี้รัฐบาลมีความห่วงใยต่อจำนวนผู้ที่ต้องเข้ารับการบำบัด จากการติดยาเสพติด ที่มีจำนวนสูงมาก หากเรายังปล่อยเรื่องนี้ไว้จะทำให้ประชาชนอ่อนแอ โดยในเรื่องยาเสพติดนี้ไม่ใช่เป็นแค่ภัยแทรกซ้อน แต่ยังเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงด้วย







