โจทย์เพื่อไทยไพ่ลับ‘ยุบสภา’ สูตร 6 เดือน‘รัฐบาลรักษาการ’

โจทย์เพื่อไทยไพ่ลับ‘ยุบสภา’ สูตร 6 เดือน‘รัฐบาลรักษาการ’

โจทย์เพื่อไทยไพ่ลับ‘ยุบสภา’ ผ่าสูตร 6 เดือน‘รัฐบาลรักษาการ’ เบรกเกม ‘ส้ม-น้ำเงิน’ 2 ฉากทัศน์ ชี้ชะตา‘แพทองธาร’ ‘ชัยเกษม’นายกฯขัดตาทัพ?

KEY

POINTS

  • พรรคเพื่อไทยพิจารณาทางเลือก ‘ยุบสภา’ เป็นไพ่ลับ หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
  • การยุบสภาจะทำให้รัฐบาลสามารถอยู่ในสถานะ ‘รัฐบาลรักษาการ’ ได้อีก 60 วัน  จนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่
  • เกิดประเด็นถกเถียงทางกฎหมายว่า ‘นายกรัฐมนตรีผู้รักษาราชการแทน’ มีอำนาจยุบสภาได้หรือไม่ ซึ่งมีความเห็นต่างกันระหว่างเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาและอดีตรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม
  • คณะรัฐมนตรีมีความเห็นไม่บันทึกเรื่องอำนาจการยุบสภาของรักษาการนายกฯ เป็นมติ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผูกมัด และเปิดทางให้สามารถใช้ทางเลือกนี้ได้ในอนาคต
  • กลยุทธ์การยุบสภาถูกมองว่าเป็นวิธีสกัดกั้นความเป็นไปได้ที่พรรคภูมิใจไทยจะร่วมมือกับพรรคประชาชน เพื่อผลักดันนายอนุทิน ชาญวีรกูล ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
  • หากยุบสภา พรรคเพื่อไทยจะยังคงเป็นแกนนำรัฐบาลรักษาการ และอาจชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เนื่องจากปัจจุบันได้ควบคุมกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการจัดการเลือกตั้ง

การเมืองหัวเลี้ยวหัวต่อ ท่ามกลางสถานการณ์รัฐบาล ที่ตกอยู่ในสภาวะ “สุญญากาศนายกฯ” มีเพียงรักษาการแทนนายกฯทำหน้าที่แทน หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ “แพทองธาร ชินวัตร” หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ชั่วคราว หลังรับคำร้องกรณี “36 สว.” ยื่นถอดถอนจากกรณีคลิปเสียงสนทนากับฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่อาจเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5)

ตามกระบวนการพิจารณาคดี คาดว่าจะใช้เวลา 45-60 วันจึงจะรู้ผล ระหว่างนี้ จึงมีหลายฉากทัศน์ ที่ประเมินว่า อาจส่งผลกระทบต่อการเมือง 

ฉากทัศน์แรก หากผลออกมา “เป็นบวก” คือ “นายกฯแพทองธาร” ไม่สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐบาลภายใต้สมการ 260 เสียงก็จะเดินหน้าบริหารประเทศต่อไปได้ ท่ามกลางโจทย์ใหญ่ ที่ต้องฝ่าวิกฤติ ทั้งสภาวะเสียงที่ปริ่มน้ำในสภาฯ และสารพัดปมร้อนซึ่งเป็นด่านวัดใจรัฐบาลเบื้องหน้า 

โจทย์เพื่อไทยไพ่ลับ‘ยุบสภา’ สูตร 6 เดือน‘รัฐบาลรักษาการ’

ทว่า หากผล “เป็นลบ” คือศาลวินิจฉัยให้ “แพทองธาร” สิ้นสภาพการเป็นนายกรัฐมนตรี ย่อมกลายเป็น“จุดพลิก” การเมืองได้ โดยมีหลายสูตรถูกโยนหินออกมา 

อ่านเกมเพื่อไทยในเวลานี้ มีการประเมินฉากทัศน์ โอกาสเป็นบวกก็มี แต่โอกาสเป็นลบก็มีสูงเช่นเดียวกัน หากเทียบจากมติศาลรัฐธรรมที่สั่งให้รับคำร้องเอกฉันท์ 9 เสียง และสั่งให้ “แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่ 7 ต่อ 2 เสียง

โดย 2 เสียงที่เห็นต่างนั้น ไม่ใช่การ “เห็นค้าน” การสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพียงแค่เห็นว่า “แพทองธาร” ควรหยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะบางหน้าที่ เหมือนในกรณี “ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม ที่ถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ เฉพาะในส่วนที่กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)

ตามรูปการณ์เวลานี้ เริ่มเห็นสัญญาณการวางเกมของบรรดาคีย์แมนรัฐบาล 

“ฉากทัศน์แรก” คือ เดินเกมยื้อให้ได้อย่างน้อย 3 เดือน เพื่อผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2569 ซึ่งตามไทม์ไลน์ คือ จะมีการพิจารณาในด่าน สว.เป็นชั้นสุดท้ายในเดือน ส.ค. ก่อนที่ช่วงต้นเดือน ก.ย. สภาฯจะส่งร่างให้ให้สำนักงานเลขาธิการครม. นำขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายภายในวันที่ 1 ต.ค.  

 ช่วงเวลาดังกล่าว ยังเป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับฤดูการโยกย้ายข้าราชการ ซึ่งจะไล่เลี่ยกับศาลรัฐธรรมนูญ ที่อาจมีคำวินิจฉัยในช่วงเวลาเดียวกัน

โจทย์เพื่อไทยไพ่ลับ‘ยุบสภา’ สูตร 6 เดือน‘รัฐบาลรักษาการ’

หากนับจากวันที่ 1 ก.ค.ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญสั่ง “แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว พร้อมเปิดโอกาสให้ชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน หรือภายในวันที่ 16 ก.ค. ทั้งนี้ “นายกฯอิ๊งค์”สามารถเลื่อนชี้แจงข้อกล่าวหาได้ 15 วัน หรือภายในวันที่ 31 ก.ค. 

จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญต้องส่งคำแก้ข้อกล่าวหาให้ สว.ยื่นหักล้างภายใน 15 วัน หรือภายในวันที่ 16 ส.ค.จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญจะต้องส่งคำหักล้างให้ “แพทองธาร” ซึ่งยังมีสิทธิยื่นแก้ข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้อีกครั้ง

หลังจากนั้น ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องทอดเวลา ก่อนลงมติ 15 วันซึ่งจะไปสิ้นสุดในวันที่ 31 ส.ค.

เบ็ดเสร็จจะใช้เวลาราว 60 วัน ซึ่งคาดว่า กระบวนการชี้ขาด น่าจะอยู่ในช่วงเดือน ก.ย.หรือยืดเยื้อไม่เกินต้นเดือน ต.ค.

โจทย์เพื่อไทยไพ่ลับ‘ยุบสภา’ สูตร 6 เดือน‘รัฐบาลรักษาการ’

กับดักนิติสงคราม“นายกฯขัดตาทัพ”

จับสัญญาณการวางเกมของคีย์แมนหลังม่าน เวลานี้ ลึกๆ เป้าประสงค์หลักอาจไม่ได้อยู่ที่การให้นายกฯ “ชิงลาออก” แล้วโหวตเลือกนายกฯคนใหม่ เพราะด้วยสภาวะเสียงปริ่มน้ำ ภายใต้เกมสภาฯเช่นนี้ ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะสามารถวางใจได้  

ไม่ต่างจากการปรากฎตัวต่อสาธารณชนของ “ชัยเกษม นิติศิริ” หนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย แม้นัยหนึ่งอาจหวังโชว์ความพร้อมเป็น “นายกฯขัดตาทัพ” หากมติศาลรัฐธรรมนูญออกมาเป็นลบ ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกในเกมของพรรคเพืี่อไทย แต่อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายเสียทีเดียว

อย่าลืมว่า ภายใต้ปมเสี่ยงที่แอบแฝงอยู่ในเวลานี้ คือประเด็นที่เคยพูดถึงนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่อาจสุ่มเสี่ยงเผชิญนิติสงครามรอบใหม่ได้

จุดนี้เองที่อาจเป็นเกมเอื้อให้อำนาจเปลี่ยนมืออีกครั้งหากดัน “ชัยเกษม” เป็นนายกฯ 

เว้นเสียแต่ว่า พรรคเพื่อไทยจะมีการเปิดดีลเฉลี่ยดุลอำนาจกับพรรคอนุรักษนิยมในขั้วรัฐบาลได้อย่างลงตัวภายใต้เงื่อนไขที่ว่าพรรคร่วมรัฐบาล260-270 ต้องจับมือกันให้แน่น

ที่ต้องจับตาคือ ชื่อนายกฯหากไม่ใช่ “ชัยเกษม” ก็อาจขยับไปที่พรรครวมไทยสร้างชาติซึ่งอยู่ในลำดับถัดไป หากเป็นเช่นนี้ก็อาจต่อลมหายใจให้รัฐบาลไปได้อีกระยะ

อ่านเกมพท.‘ยุบสภา-รัฐบาลรักษาการ’

ฉะนั้นฉากทัศน์ถัดไป ที่ต้องจับตาคือ การประกาศ “ยุบสภา”  ซึ่งตามฉากทัศน์นี้ รัฐบาลจะสามารถรักษาการไปได้อีกอย่างน้อย 60 วัน จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งจะอยู่ในช่วงปลายปีนี้หรือช่วงต้นปีหน้า

ประเด็นนี้ เริ่มเห็นสัญญาณจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการหารือเกี่ยวกับ “อำนาจของรักษาการนายกรัฐมนตรี” ว่า สามารถยุบสภาได้หรือไม่ ในช่วงของการพิจารณาวาระแต่งตั้งรักษาการนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ให้“ภูมิธรรม เวชยชัย ” รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ ในกรณีที่นายกฯไม่อาจปฏิบัติราชการได้

คำถามสำคัญอยู่ที่อำนาจของรักษาการนายกรัฐมนตรี ในการประกาศ “ยุบสภา” จะสามารถทำได้หรือไม่  

โจทย์เพื่อไทยไพ่ลับ‘ยุบสภา’ สูตร 6 เดือน‘รัฐบาลรักษาการ’

ในมุมของ “ปกรณ์ นิลประพันธ์”  เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้แจ้งให้ที่ประชุมครม.ทราบว่า จากการศึกษาข้อมูลทางวิชาการของกฤษฎีกา มีความเห็นว่า รักษาการนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถยุบสภาได้ ไม่ได้เป็นไปตามที่นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯให้ความเห็น เพราะรัฐธรรมนูญของไทย ยึดโยงมาจากอังกฤษที่ใช้ระบบ Westminster

ทว่า ที่ประชุม ครม.กลับมีความเห็นตรงกันว่า เรื่องดังกล่าวไม่ควรมีการบันทึกว่าเป็นมติครม. เพราะเป็นการหารือของครม.ในเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับการแต่งตั้งรักษาการนายกรัฐมนตรี

ประเด็นนี้ ยังมีความเห็นจาก “ชูศักดิ์ ศิรินิล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เหตุผลว่า เป็นเพียงการหารือใน ครม.เป็นความเห็นทางกฎหมาย ไม่มีการบันทึกอะไร เพราะแต่ละคนก็เห็นแตกต่างกัน 

โดยเฉพาะความเห็นจาก “วิษณุ เครืองาม”  อดีตรองนายกฯ ที่เคยให้ความเห็นไว้ว่า “นายกฯรักษาการ” มีอำนาจเต็มเทียบเท่ากับ “นายกรัฐมนตรี” โดยเฉพาะอำนาจในการประกาศยุบสภา ซึ่งนายกฯรักษาการสามารถใช้อำนาจส่วนนี้ได้

อ่านนัยตามที่ “ชูศักดิ์” รวมถึงพลพรรคเพื่อไทยพยายามสื่อสารในเวลานี้ โดยเฉพาะการไม่บันทึกเป็นมติครม.ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเหตุผลในเรื่องเทคนิคกฎหมายเพื่อไม่ให้ผูกมัดหรือมีผลในเชิงปฏิบัติ 

เหนือไปกว่านั้นยังมีการกล่าวอ้างถึงความเห็นของ “วิษณุ” ที่ดูเหมือนจะสวนทางกันโดยสิ้นเชิงกับเลขาฯกฤษฎีกา สะท้อนให้เห็นว่า ลึกๆแล้วตัวเลือก “ยุบสภา”อาจเป็นตัวเลือกที่รัฐบาลให้ความสนใจอยู่พอสมควร

โจทย์เพื่อไทยไพ่ลับ‘ยุบสภา’ สูตร 6 เดือน‘รัฐบาลรักษาการ’

สกัดเกมส้ม-น้ำเงิน ดัน"อนุทิน"นายกฯ 

อีกหนึ่ง ความน่าสนใจ อยู่ตรงที่ไทม์ไลน์ 6 เดือน “รัฐบาลรักษาการ” ที่ถูกพูดถึงในเวลานี้ ดันไปตรงกับรหัสลับ “พรรคประชาชน” จับมือ “ภูมิใจไทย” โหวต “นายกฯชั่วคราว”  ซึ่งจะเกิดขึ้นภายใต้ “3 ฉากทัศน์” 

1. โหวตนายกฯเพื่อเพื่อประคับประคองรัฐบาล รอให้ผ่านงบประมาณปี 2569

2. หลังงบประมาณมีผลบังคับใช้ นายกฯก็จะประกาศยุบสภา 

3.ในจังหวะที่มีการยุบสภา ก็จะมีการจัดทำประชามติ ประเด็นตั้ง ส.ส.ร.เพื่อแก้รัฐธรรมนูญ พร้อมหย่อนบัตรเลือกตั้ง

เบ็ดเสร็จตามโมเดลดังกล่าว คาดว่า “นายกฯชั่วคราว” จะใช้เวลาบริหารประเทศ ไม่เกิน 6 เดือน ก่อนมีการเลือกตั้งใหม่

หากไม่ผิดไปจากนี้ ตามที่พรรคเพื่อไทยส่งสัญญาณไม่ยอมปล่อยให้เก้าอี้นายกฯ ตกไปอยู่ในมือ“อนุทิน”แห่งภูมิใจไทย ฉะนั้นตัวเลือก“ยุบสภา” ที่แม้เพื่อไทยอาจจะเสียเปรียบ แต่ถึงเวลาจริงอาจกลายเป็นไฟต์บังคับให้ต้องหยิบมาใช้ เพื่อสกัดเกม“เปลี่ยนตัวนายกฯ”สูตร “ส้ม” ผสม “น้ำเงิน”ก็เป็นไปได้

จริงอยู่ว่าหากมีการยุบสภา จะส่งผลให้รัฐบาลอยู่ในสถานะ "รัฐบาลรักษาการ"  แต่ก็ยังคงสภาพการเป็นรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำเอาไว้ได้

เหนือไปกว่านั้นต้องไม่ลืมการที่พรรคเพื่อไทยเปิดเกมแตกหัก “ภูมิใจไทย”  ก็เพราะต้องการที่จะดึงกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการจัดการเลือกตั้งกลับมาอยู่ในการครอบครอง ซึ่งเวลานี้ก็ได้กุมอำนาจเบ็ดเสร็จตามความตั้งใจ 

จึงต้องจับตาระหว่างทางหลังจากนี้ ไม่แน่ว่า “พรรคเพื่อไทย” อาจคิดสูตรเลือกตั้งในยามที่มหาดไทยอยู่ในมือเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบหลังจากนี้เป็นได้