ชาตินิยม 'แม่ทัพมนต์แคน' สลายพลัง 'แดง' เบียดแซง 'ส้ม'

ส่องสนามอีสาน กระแสชาตินิยม ถล่มค่ายสีแดง คะแนนนิยมร่วงหนัก ค่ายสีส้ม-สีน้ำเงิน เสมอตัว 

ปรากฏการณ์ “ชาตินิยมแม่ทัพมนต์แคน” ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2568 ส่งสัญญาณถึงนักเลือกตั้ง และพรรคการเมืองในภาคอีสาน จะมองข้ามกระแสชาตินิยมเชิงอนุรักษ์ไปไม่ได้

 อันเนื่องจากองค์การนิสิต ร่วมกับสโมสรนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) จัดพิธีบายศรีสู่ขวัญนิสิตใหม่ ประจำปีการศึกษา 2568 บริเวณลานอัฐศิลป์ โดยมีนิสิตจากทุกคณะ และวิทยาลัยเข้าร่วมกว่า 5,000 คน

ที่สำคัญ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้เกียรติมาร่วมต้อนรับ และผูกข้อมือรับขวัญนิสิตใหม่ มมส อีกด้วย

นี่เป็นจุดเริ่มต้นของปรากฏการณ์ “แม่ทัพมนต์แคน” ในหมู่คนรุ่นใหม่ และมีการเผยแพร่คลิปแม่ทัพบุญสิน ขับร้องเพลง “คิดฮอดทุกคน” ต้นฉบับของ มนต์แคน แก่นคูณ 

พล.ท.บุญสิน ให้สัมภาษณ์สื่อไว้ชัดเจนว่า หลังเกษียณจะกลับไปใช้ชีวิตสงบๆ อยู่อย่างพอเพียง และไม่มีแผนจะลงเล่นการเมือง

อย่างไรก็ตาม ตลอด 3 เดือนสุดท้ายที่ยังดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 สถานการณ์ ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่คลี่คลาย และอะไรก็เกิดขึ้นได้ ฉะนั้น กระแสแม่ทัพมนต์แคน คงจะครองใจคนอีสานไปอีกนาน

ไฟไหม้ฟางหรือไฟซ่อนเชื้อ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า พรรคเพื่อไทยได้รับผลกระทบโดยตรงจากปรากฏการณ์ “แม่ทัพมนต์แคน” เหมือนผลสำรวจของนิด้าโพลครั้งล่าสุด

คะแนนนิยมของแพทองธาร และพรรคเพื่อไทย จึงลดต่ำลง เพราะเรื่องคลิปเสียงสนทนาระหว่างหลานอิ๊งค์กับอังเคิลฮุน เซน 

จริงๆ แล้ว คะแนนนิยมของเพื่อไทยในภาคอีสาน ก็เริ่มทรงๆมาตั้งแต่สมัยจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว คนเสื้อแดงย้ายฝั่งไปเชียร์พรรคประชาชน เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ

ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ในสนามอีสาน เมื่อต้นปี 2568 ตอกย้ำว่า มนต์ทักษิณยังไม่เสื่อม แต่ไม่ขลังเหมือนเก่าแล้ว

กว่า 2 ทศวรรษมาแล้ว พรรคการเมืองของทักษิณ ครองแชมป์ สส.อีสานมาโดยตลอด ซึ่งเป็นสมรภูมิเลือกตั้งที่มีจำนวน สส.มากที่สุด

ฉะนั้น กระแสชาตินิยมเชิงอนุรักษ์ จะสลายฐานเสียงค่ายสีแดงได้หรือไม่ คงจะต้องรอดูอีกสักระยะหนึ่ง

และเฉพาะมี 3 ปัจจัยเสี่ยงที่ “นายใหญ่” ต้องรีบแก้ไข

• ปัจจัยแรก ปรากฏการณ์แม่ทัพภาคที่ 2 ในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นไฟไหม้ฟางหรือเป็นไฟสุมขอน กัดเซาะเพื่อไทยไปเรื่อยๆ
   
• ปัจจัยที่สอง การปรับ ครม.แพทองธาร 2 ไร้แรงกระเพื่อมจาก สส.อีสาน ซึ่งไม่ได้ตำแหน่ง รมต.เพิ่ม แต่ลึกๆ เหมือนซ่อนระเบิดไว้ใต้น้ำ 
   
• ปัจจัยที่สาม ทักษิณ และแพทองธาร ต้องเปิดเกมรุกดำเนินนโยบายรูปธรรมที่ชาวบ้านจับต้องได้ เช่น การปราบปรามยาเสพติด เพื่อตรึงมวลชน และดึงคะแนนนิยมคืนกลับมา

วัยรุ่นอีสานมีทางเลือก
 

แม้ภาพรวมจากผลสำรวจนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)ในทุกภาค ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ และพรรคประชาชน จะมีคะแนนนิยมนำโด่ง แต่กระแสชาตินิยม ก็ทำให้กองเชียร์สีส้มมีอาการลังเลเหมือนกัน

คำประกาศกร้าวของ พล.อ.บุญสิน ที่เคยโด่งดังในโซเชียล “แผ่นดินกูอยู่ตรงนี้มานานแล้ว ถ้าจะเอา ก็ดวลกัน ก็จบ ไม่เห็นจะยากอะไร” ฟังดูอาจไม่ถูกใจ สส.พรรคส้ม เพราะสะท้อนแนวคิดอนุรักษนิยมสุดโต่ง

ช่วงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียด มีแกนนำพรรคประชาชน และผู้นำคณะก้าวหน้า พยายามเสนอแนวคิด “ชาตินิยมแบบก้าวหน้า” เพื่อสะกิดเตือนใจผู้คนไม่ให้ไปหลงใหลได้ปลื้มกับกองทัพมากจนเกินไป 

เหนืออื่นใด พรรคสีส้มยังกังวล กระแสชาตินิยมเชิงอนุรักษ์ จะไปไกลจนสนับสนุนให้กองทัพก่อรัฐประหาร 

สัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคประชาชน กำลังเจอคำถามจากกองเชียร์ และอาจลดทอนคะแนนนิยมของพรรคเสียด้วยซ้ำไป

1. ข่าวปั่นเรื่องพรรคสีส้มเตรียมให้ อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯ ดูเหมือนว่า เรื่องนี้จะเข้าทางพรรคสีแดง จึงมีการขยายประเด็นส้มไร้เดียงสา ออกไปอย่างกว้างขวาง

2. กระแสชาตินิยมในกลุ่มนักเรียน นิสิตนักศึกษา ปฏิเสธไม่ได้ว่า นักเลือกตั้งสายพันธุ์ “วัยรุ่นสร้างตัว” ได้เข้ามาเก็บเกี่ยวดอกผลจากประเด็นชาตินิยม 

ดังนั้น การเลือกตั้ง สส.สมัยหน้า พรรคประชาชน อาจจะไม่ผูกขาดคะแนนเสียงกลุ่มคนรุ่นใหม่เหมือนปี 2566 เพราะคนเจน Z ภาคอีสานกำลังมีไอดอลเป็นก๊วนวัยรุ่นสร้างตัว

ที่น่าสนใจ พรรคการเมืองขนาดกลาง กลายเป็นศูนย์รวมนักการเมืองประเภทวัยรุ่นสร้างตัว และมี “กองทัพศิลปิน” เพื่อดึงเสียงเยาวชนคนรุ่นใหม่อยู่ที่ จ.มหาสารคาม 

สำหรับพรรคภูมิใจไทย ที่เข้ามาโหนกระแสชาตินิยม ก็ถือได้ว่า เสมอตัว ไม่บวกหรือไม่ลบในหมู่คนอีสาน แต่ระยะยาว ค่ายสีน้ำเงินก็ยังมีปัญหาเรื่องกระแสพรรค

สรุปว่า ปรากฏการณ์ “แม่ทัพมนต์แคน” และกระแสชาตินิยม กระทบต่อฐานเสียงพรรคเพื่อไทยโดยตรง และเปิดทางให้นักเลือกตั้งสายพันธุ์ใหม่เข้ามาแย่งตลาดวัยรุ่นจากพรรคสีส้มได้

 

(ภาพจาก มมส) 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์