'วันนอร์' แนะย้ายวันประชุม 'กมธ.' หวังเป็นทางแก้เกม ล่มประชุมสภา

"ประธานสภาฯ ยอมรับ สภาฯวันแรกประชุมล่ม เหตุ เสียงข้างมากปริ่มน้ำ ถูกเกมตรวจสอบองค์ประชุม แนะให้ย้ายวันประชุมกมธ. -ขอวิป2ฝ่ายหารือกัน
ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสภาฯ นัดแรก เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ล่ม ว่า การประชุมวันแรกที่ไม่ครบองค์ประชุมเนื่องจาก มีการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นัดพิเศษ ซึ่ง สส.ที่เป็นรัฐมนตรีต้องเข้าร่วมประชุม นอกจากนั้นยังมีการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)สามัญ และ กมธ.วิสามัญ อยู่ด้วย ทั้งนี้หน้าที่เข้าประชุมต้องเป็นของ สส.ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ดังนั้นการประชุมสภาฯครั้งถัดไปวิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาล ควรคุยกันว่าจะทำอย่างไรให้องค์ประชุมสามารถเดินหน้าได้ เพราะการประชุมสภาฯ ยังมีกฎหมายสำคัญที่ค้างการพิจารณาหลายฉบับ
"หากต่อไปมีการนับองค์ประชุมแบบนี้ การประชุม กมธ. อาจต้องไปประชุมวันอื่นที่ไม่ใช่วันพุธและ วันพฤหัสบดี และต้องดูเวลาให้เหมาะสม อันนี้ต้องแก้กันไป”ประธานสภาฯกล่าว
เมื่อถามว่าเมื่อรัฐบาลที่มีเสียงข้างมากปริ่มน้ำ อาจต้องโดนนับองค์ประชุมตลอดควร แก้ควรแก้ปัญหานี้อย่างไร 'วันนอร์' กล่าวว่า รัฐบาลจะเสียงข้างมากหรือเสียงปริ่มน้ำ คงไม่เกี่ยวกับการประชุมเพราะรัฐบาลเสียงข้างมากก็ล้มได้ หากสมาชิกอยู่ในห้องประชุมไม่ครบ ส่วนนี้ก็ต้องปรับ สภาฯ ก็ต้องดำเนินการประชุมตามระเบียบวาระ ส่วนองค์ประชุมก็เป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน เพราะหน้าที่สำคัญของสมาชิกสภาฯคือประชุมในสภาฯเป็นหลัก
เมื่อถามว่า จะทำให้การทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติสะดุดลงหรือไม่ ประธานสภาฯ กล่าวว่า คงไม่มีปัญหา ทุกคนที่เป็นสมาชิกคงอยากให้การประชุมเดินไปด้วยดี และปัญหาที่เกิดขึ้นต้องแก้ไข โดยเป็นหน้าที่ของสมาชิกฯ ที่ต้องมาประชุมสภาใหญ่เป็นหลัก
เมื่อถามว่ากรณีที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ชิงปิดประชุมก่อนรู้ผลองค์ประชุม เหมาะสมหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ประธานในที่ประชุมจะพิจารณาดูว่าถ้าประชุมต่อไปจะครบองค์ประชุมหรือไม่ถ้านับไปไม่ครบการปิดประชุม พักการประชุม หรือนับองค์ประชุมสามารถทำได้ ซึ่งเป็นกระบวนการของสภาที่สามารถทำได้ เพราะเห็นว่าถ้านับองค์ประชุม จะเสียเวลา เมื่อปิดประชุมไปจะได้ไปทำกิจกรรมอย่างอื่น จึงสามารถเลิกประชุมก่อนได้
เมื่อถามถึงความเห็นของข้อเสนอให้มีนายกฯ เฉพาะกิจ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ในฐานะประธานสภาฯ ต้องเป็นกลางทางการเมือง การคุยและปรับปรุงรัฐบาลเป็นหน้าที่ของแต่ละฝ่ายตนไม่สามารถแสดงความเห็น ว่าเหมาะสมหรืออย่างไรได้ ถ้าไปตามกรอบรัฐธรรมนูญ ข้อบังคับและกฎหมาย ทุกฝ่ายสามารถดำเนินการได้ ประชาธิปไตยก็เป็นอย่างนี้ ก็สามารถปรับได้เพื่อประโยชน์ของประชาชน







