ศาลฎีกาฯสืบพยานคดีชั้น 14 แพทย์-พยาบาล รพ.ราชทัณฑ์ ให้ปากคำ

ศาลฎีกาฯสืบพยานคดีชั้น 14 แพทย์-พยาบาล รพ.ราชทัณฑ์ ให้ปากคำ

ศาลฎีกาฯไต่สวนปมบังคับโทษ 'ทักษิณ' สืบพยานแพทย์-พยาบาล รพ.ราชทัณฑ์ ทนายความเตรียมประวัติรักษาอาการป่วยที่ ตปท.โชว์ศาล เตรียมบัญชีพยานไว้ 4 ปาก

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2568 ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (อม.) ถ.ราชดำเนินใน ศาลนัดไต่สวน คดีหมายเลขดำ บค.1/2568 กรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือกรณี "ชั้น 14"

โดยนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ เปิดเผยเกี่ยวประวัติการรักษาต่างประเทศของนายทักษิณ ว่า เป็นข้อมูลการเจ็บป่วย ถือเป็นความลับ เป็นข้อมูลที่ได้รับความคุ้มครอง และนายทักษิณได้สงวนสิทธิ แต่เป็นประเด็นที่ศาลอยากรู้ว่าเจ็บป่วยจริงหรือไม่ หรือเป็นการอ้างเลื่อนลอย ตนจึงได้เตรียมประวัติการรักษาต่างประเทศเสนอต่อศาลด้วย นอกเหนือจากประวัติการรักษาของ รพ.ราชทัณฑ์ เพราะไม่มั่นใจว่าราชทัณฑ์เตรียมเอกสารประวัติการรักษาสมบูรณ์หรือไม่ และเพื่อไม่ให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัย

นายวิญญัติ กล่าวด้วยว่า กรมราชทัณฑ์ ได้เห็นประวัติการรักษาไปแล้ว ประเด็นนี้อาจเป็นเรื่องที่ต้องแสดงหลักฐานต่อศาล พร้อมให้ความร่วมมือต่อศาล ส่วนบัญชีพยานที่ได้นำเสนอพร้อมคำชี้แจงของนายทักษิณ ได้อ้างพยานไปเพิ่ม 10 ปาก แต่ขอยังไม่เปิดเผยรายละเอียดในตอนนี้ เพราะยังไม่แน่ใจว่าศาลอนุญาตหรือไม่ ขอให้ศาลได้พิจารณาพยาน10 ปากที่ได้อ้างไปก่อนว่าจะเอาอย่างไร และจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง ส่วนในการไต่สวนวันนี้ เป็นพยานที่ศาลเรียกมา 5 ปาก เป็นกลุ่มแพทย์ที่ทำการตรวจร่างกาย และแพทย์เวร รวมถึงพยาบาลที่สถานพยาบาลในเรือนจำและ แพทย์พยาบาลทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์

ทั้งนี้ คาดว่าการไต่สวนจะเสร็จสิ้นไม่ช่วงเที่ยงก็บ่าย ส่วนที่ศาลขอประวัติการรักษาจากผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แล้วนั้น ตนยังได้นำประวัติการรักษาฉบับสมบูรณ์เตรียมพร้อมมายื่นให้ศาลอีกด้วย เพื่อให้สอดรับกับการกล่าวอ้างของทนายจำเลย ว่าโดยไม่ขอระบุรายละเอียดว่าเป็นประวัติการรักษาจากประเทศอะไรก็ถือว่าเป็นข้อมูลด้านสุขภาพรักษาส่วนตัว

'หมอวรงค์' เข้าฟังไต่สวนด้วย อยากติดตามความชัดเจน

วันเดียวกัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เดินทางมาเพื่อรับฟังการไต่สวนกรณีดังกล่าว โดยให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ตนเข้ามาร่วมฟังการไต่สวนคดีชั้น 14 ที่ได้ติดตามมานานพอสมควร และเชื่อว่า ภายหลังการไต่สวนคดีนี้จะมีความชัดเจนเพิ่มมากขึ้น และได้อ่านรายละเอียดของคดีหลายประเด็น ซึ่งมีการอ้างถึงมาตรา 55 ในการส่งนักโทษไปรักษาการภายนอก กับ พ.ร.บ.มาตรา 55 มีความขัดแย้งกัน ซึ่งตนอ่านเจอว่ากฎกระทรวงมีความขัดแย้งกับ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ มาตรา 55 ที่กำหนดว่ามีอาการเจ็บป่วยทางจิต หรือโรคติดต่อ ให้ส่งไปสถานพยาบาลโดยเร็ว แต่ใน พ.ร.บ.กล่าวไว้ว่าให้ส่งไปพบแพทย์โดยเร็ว ซึ่ง 2 ประเด็นนี้มีความขัดแย้งกัน ความเห็นส่วนตัวของตนมองว่าการใช้กฎกระทรวงดังกล่าวใช้ไม่ได้ จึงอยากมาฟังประเด็นนี้

เมื่อถามว่า มีเรื่องของการแทรกแซงกระบวนการหรือไม่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณเดือน มี.ค.แต่ข้อมูลที่ได้รับเพิ่งได้เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา และเราตรวจสอบว่าเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง ซึ่งตนมองว่าคนที่เอาข้อมูลมาให้ต้องการให้เป็นการปรามกระบวนการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และตนทราบว่ากำลังมีการตรวจสอบหลังจากที่เราได้เผยแพร่ข้อมูลนี้ออกไป ซึ่งตนขอยังไม่พูดรายละเอียดตรงส่วนนี้ แต่ตนทราบว่ามีการขยับในการตรวจสอบประเด็นนี้แล้ว

เมื่อถามว่า มีความกังวลอะไรหรือไม่ในวันนี้ นพ.วรงค์ กล่าวว่า วันนี้เข้าสู่กระบวนการการไต่สวนแล้ว เห็นว่าผ่านขั้นตอนการแทรกแซงมาแล้ว ดังนั้น การที่สื่อสารเรื่องแทรกแซงออกมาเพราะต้องการสื่อสารให้รู้ว่าในอดีตเคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้น ซึ่งโชคดีที่ตอนนี้ขบวนการเข้าสู่กระบวนการไต่สวน ขอขอบคุณและชื่นชมศาลฎีกาที่ให้สื่อมวลชนเข้าไปรับฟังการไต่สวน เพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้ไปพร้อมกัน จนถึงวันที่ศาลมีคำพิพากษาออกมา ประชาชนจะได้เรียนรู้และเข้าใจ นอกจากนี้ยังพบว่าสำนักงาน ป.ป.ช.ในฐานะโจทก์ มี นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.มาพร้อมกับเอกสารใส่ในกระเป๋าลาก เพื่อเข้าชี้แจงต่อศาล