'คณะรวมพลังแผ่นดิน' มอบ คปท. ไล่ 'แพทองธาร' รอเคลื่อนใหญ่ ส.ค.นี้

"คณะรวมพลังแผ่นดิน" นัดเคลื่อนไหวใหญ่ ส.ค. เป้าหมายไล่รัฐบาล "จตุพร" ย้ำหากมีประเด็นกาสิโน อาจนัดหมายก่อนเวลา พร้อมฝาก "ปชน." ทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้เต็มจริง
ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย แถลงย้ำถึงจุดยืนของคณะรวมพลังแผ่นดิน คือไม่เอารัฐประหารและไม่เอาน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ทั้งนี้ในการเคลื่อนไหวของกลุ่มพบว่ารัฐบาลได้ตั้งวอร์รูม ขณะเดียวกันยังพบว่ามีวอร์รูมฝ่ายค้านด้วย ขอฝากไปยังพรรคเพื่อไทยหากรังเกียจรัฐประหาร แต่ทำไมถึงรับเสียงสว. 152 เสียง ที่โหวตรับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ได้อย่างไร รวมถึงรับพรรครวมไทยสร้างชาติมาเป็นรัฐบาลได้อย่างไร คนในพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ที่ปรึกษานายกฯ ลืมมองไปที่ ครม. ว่าคนที่กล่าวหาทั้งหมดจากการตระบัดสัตย์ข้ามขั้ว ล้วนอยู่ในรัฐบาลทั้งสิ้น เกลียดเผด็จการ แต่นอนกอดกับเผด็จการ เกลียดรัฐประหาร แต่กลับรับกับสิ่งที่เผด็จการส่งมาให้
นายจตุพร กล่าวด้วยว่าตนขอฝากไปยังพรรคประชาชนว่า ตนได้แสดงตนรับผิดชอบ ไม่ใช่ยุให้คนอื่นชุมนุมแต่ไม่รับผิดชอบ การรัฐประหารไม่มีใครกวักมือให้ทหารออกมาได้ แต่การรัฐประหารเกิดจากรัฐบาลทุจริต ฉ่อฉล แทรกแซงองค์กรอิสระ สร้างความแตกแยก หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รวมถึงการขายชาติ ทั้งนี้ยืนยันว่าบนเวทีไม่เคยเรียกร้องให้มีการรัฐประหาร ตนมองว่าการรัฐประหารจะไม่เกิดหากพรรคฝ่ายค้านทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน เพราะมี3 กรณีน่าสงสัย คือ อภิปรายไม่ไว้วางใจประเด็นหลบเลี่ยงภาษีตั๋วพีเอ็น การรุกที่เขาใหญ่ และสนามกอล์ฟอัลไพน์ และบอกจะใช้ยุทธการโรยเกลือ แต่ผมมองว่าไม่มีเกลือเหลือแต่สารส้ม เพราะหากยื่นทั้ง 3 ประเด็นต่อศาลรัฐธรรมนูญประเด็นจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งนายกฯ เชื่อว่านายกฯ จะไปก่อนมีประเด็นคลิปสนทนาสมเด็จฮุน เซน
นายจตุพร กล่าวด้วยว่าก่อนหน้านั้นได้ยื่นเรื่องจริยธรรมกับกรณีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประเด็นเขากระโดงและนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน กรณีการใช้งบประมาณ เว้นไว้แค่ น.ส.แพทองธาร นอกจากนั้นแล้วยังพบว่าไม่สนับสนุนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตามที่พรรคภูมิใจไทยเสนอ
นายจตุพร กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มด้วยว่า 2 ก.ค. ตัวแทนของคณะ นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ นายสมชาย แสวงการ อดีตสว. นายเจษฎ์ โทณวณิก นักกฎหมายจะเดินทางไปยัง ป.ป.ช.เพื่อทวงถามความคืบหน้าต่อกรณีคดีความผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ประเด็นโยกงบประมาณประจำปีเพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ในโครงการแจกเงินดิจิทัล นอกจากนั้นจะให้เวที เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) ที่ตั้งเวทีใกล้ทำเนียบรัฐบาลเป็นเวทีเคลื่อนไหว และหากจังหวัดใดมีความพร้อมจะยกคณะชุดใหญ่ไปเปิดเวทีปราศรัย นอกจากนั้นในเงินบริจาคที่มีกว่า 30 ล้านบาทเพื่อมอบให้กับกองทัพภาคสองนั้นจะนัดหมายอีกครั้ง เบื้องต้นคาดว่าจะมอบที่ปราสาทตาเมือนธม ส่วนการชุมนุมใหญ่จะเกิดขึ้นในกลางเดือนส.ค.
"ทั้งนี้การชุมนุมใหญ่ ขับเคลื่อนใหญ่ ต้องดูสถานการณ์อีกครั้ง แต่ข้อเรียกร้องใหญ่คือให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่และ 2 พรรคร่วมถอนตัว ซึ่งถูกปฏิเสธทั้งหมด ดังนั้นการนัดหมายที่จะเกิดขึ้นคือยกระดับไล่รัฐบาล และปฏิเสธการรัฐประหาร แต่หากมีประเด็นที่เกิดขึ้นระหว่างนี้ เช่น กาสิโน จะนัดหมายกันอีกครั้ง" นายจตุพรกล่าว
ขณะที่ นายแก้วสรร อติโพธิ แนวร่วมคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย กล่าวถึงคำววินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่รับคำร้องคดีถอดถอน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ว่า ศาลรัฐธรรมนูญทำตามกฎหมาย ไม่ได้แก้สถานการณ์หรือสร้างสถานการณ์ใดๆ ส่วนการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของ น.ส.แพทองธาร เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย และเมื่อศาลได้พิจารณาพยานและไต่สวนแล้ว ผลจะเป็นอย่างไรจะผิดหรือไม่แล้วแต่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณา
“เราดีใจที่ศาลทำงานตามกฎหมาย ส่วนการไต่สวนตามอำนาจต้องถามน.ส.แพทองธารและคนที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อเท็จจริงเราไม่อาจล่วงละเมิดศาลได้ จะไม่เคลื่อนไหวบีบบังคับ หรือแสดงความดีใจใดๆ เพราะจะเข้าข่ายแทรกแซงศาล” นายแก้วสรร กล่าว
นายแก้วสรร กล่าวต่อว่า สำหรับการเปิดสภาฯ วันที่ 3 ก.ค. นี้ขอให้จับตาการพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมทางการเมือง ที่พบว่าพรรคประชาชนร่วมเสนอให้นิรโทษกรรมในคดีมาตรา 112 ด้วย ซึ่งต้องจับตาว่าพรรคเพื่อไทยจะสนับสนุนด้วยหรือไม่ เพราะมีคนในพรรคมีคดี112 ด้วย และหากพรรคเพื่อไทยสนับสนุนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคประชาชน ขอให้ระวังระบอบสีแสดจะเกิดขึ้น คือ แดง บวก ส้ม







