ป.ป.ช.ฟันเสมียนฯ มทบ.31 เรียกหัวละ 5.5 แสน แลกเป็นทหารสัญญาบัตร

ป.ป.ช.ฟันเสมียนฯ มทบ.31 เรียกหัวละ 5.5 แสน แลกเป็นทหารสัญญาบัตร

ป.ป.ช.ชี้มูลผิด ‘เสมียนแผนกประวัติ’ มทบ.31 กรณีกล่าวหาเรียกค่าดำเนินการ นำบุคคลเข้ารับราชการ เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร หัวละ 5.5 แสน

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดเสมียนแผนกประวัติ มณฑลทหารบกที่ 31 เรียกค่าดำเนินการเพื่อนำบุคคลเข้ารับราชการ  โดยนายสุพจน์ ศรีงามเมือง รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 6 ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 เปิดเผยเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด ซึ่งเป็นเรื่องที่สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 ดำเนินการไต่สวน จำนวน 1 เรื่อง มีรายละเอียด ดังนี้

กรณีกล่าวหา เสมียนแผนกประวัติ มณฑลทหารบกที่ 31 ค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ กับพวก เรียกค่าดำเนินการเพื่อนำบุคคลเข้ารับราชการเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร โดยมีผู้ถูกกล่าวหาดังต่อไปนี้ 1. นางสาวอังคนา ภูทองทิพย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเสมียนแผนกประวัติ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และ 2. นายณัฏฐพงศ์ เจริญศรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2

ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เรียกค่าดำเนินการเพื่อนำบุคคลเข้ารับราชการเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร โดยผู้เสียหายได้รับทราบมาจากคนรู้จักว่ามีบุคคลเป็นทหารมาบอกว่าสามารถนำบุคคลเข้ารับราชการเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรได้ โดยเรียกค่าดำเนินการคนละ 550,000 บาท โดยจะต้องจ่ายเงินก่อนจำนวน 275,000 บาท และเมื่อได้รับคำสั่งบรรจุเข้ารับราชการแล้วจะต้องเสียเงินอีกจำนวน 275,000 บาท 

โดยจะใช้เวลาดำเนินการนับจากวันที่ได้จ่ายเงินงวดแรกประมาณ 6 เดือน ถึงหนึ่งปี ผู้เสียหายจึงได้ตกลงว่าจะให้ลูกของผู้กล่าวหาเข้าเป็นทหาร ซึ่งมีผู้หลงเชื่อว่าจะบรรจุได้จำนวน 2 ราย จ่ายเงินจำนวนรายละ 275,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหาย 550,000 บาท ให้กับผู้ถูกกล่วหาที่ 1 ไป ภายหลังจากที่ได้มีการโอนเงิน ปรากฏว่าเมื่อผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้รับเงินไปแล้วกลับไม่สามารถที่จะดำเนินการได้จริงตามที่ตกลงไว้ ในส่วนของผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีพฤติการณ์ที่รับทราบหรือรู้เห็นกับการกระทำของถูกกล่าวที่ 1 เป็นลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ หรือให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวก

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติ ดังนี้ 1. การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบมาตรา 91 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 171 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และมีมูลความผิดทางวินัย ฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการทหาร พ.ศ.2521 มาตรา 15 ประกอบระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยผู้ซึ่งไม่สมควรจะดำรงอยู่ในยศทหารและบรรดาศักดิ์ พ.ศ. 2507 ข้อ 2.9

2. การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบมาตรา 91 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 171 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมาตรา 91