กู้ศรัทธา‘แพทองธาร’ ซื้อใจทหาร ‘ฮุน เซน’ ยกระดับ ปั่นแตกหัก

กู้ศรัทธา‘แพทองธาร’ ซื้อใจทหาร ‘ฮุน เซน’ ยกระดับ ปั่นแตกหัก

หากนายกฯ ต้องการลบคำสบประมาท ก็ต้องสร้างผลงาน โชว์ภาวะผู้นำที่เข้มแข็ง เด็ดขาด ให้มากกว่าที่เป็นอยู่อีกหลายเท่า ในวันที่ยังมีกลไกอำนาจรัฐหลายมิติให้บริหารจัดการ จากจุดนี้ก็ขึ้นกับความสามารถที่แท้จริงแล้ว ว่าจะพลิกวิกฤติเป็นโอกาส หรือพลิกวิกฤติไม่พ้นวิกฤติ   

KEY

POINTS

  • ภัยคุกคามทางการเมืองของรัฐบาลแพทองธาร และทักษิณ ปฏิเสธไม่ได้ว่าคือฮุน เซน ผู้กุมความลับตระกูลชินวัตร 
  • ศึกนอกจากกัมพูชา ส่งผลต่อเนื่องถึงศึกในให้ร้อนฉ่า
  • ม็อบดูมีเค้าจุดติด สภาฯ กำลังจะเปิดสมัยประชุม ศึกซักฟอกรออยู่ และนิติสงคราม จุดชี้เป็นชี้ตายนายกฯ
  • กลยุทธ์เรียกความเชื่อมั่นของอิ๊งค์ นอกจากขึงขังใส่ฮุน เซน ยังพยายามซื้อใจกองทัพ แต่สถานการณ์ก็ยังลุ่มๆดอนๆ  

สถานการณ์ของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ยังวางใจอะไรไม่ได้ โดยเฉพาะการรับมือประเด็นร้อนชายแดนกัมพูชา ที่ตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง ท่าที ผู้นำไทย และฮุน เซน หลังมีคลิปเสียงหลุดพูดคุยระหว่างกัน ก็ยิ่งสร้างบรรยากาศแห่งความไม่ไว้วางใจให้มากขึ้นไปอีก

กลยุทธ์กอบกู้วิกฤติศรัทธาของแพทองธาร นอกจากลงพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่พื้นที่ช่องบก เยี่ยมฐานมรกต และได้ถือโอกาสขอโทษ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 หลังมีกรณีพูดกับฮุน เซน ว่าเขาไม่ใช่พวกเรา จนถูกโจมตีจากประชาชนอย่างหนัก

ถ้าวัดเรตติ้งระหว่างนายกฯ และแม่ทัพภาค 2 รวมถึงทหารแนวหน้าที่ตรึงกำลังชายแดนกัมพูชา แน่นอนว่า ฝ่ายหลังย่อมมีภาษีดีกว่า ได้ความไว้เนื้อเชื่อใจจากประชาชนมากกว่าผู้นำหลายขุม

การเดินสายซื้อใจทหาร จึงเห็นได้จากการลงพื้นที่แต่ละครั้ง และต้องการสื่อสารไปยังประชาชนเพื่อลดอารมณ์โกรธ เน้นย้ำว่ารัฐบาลและกองทัพเป็นหนึ่งเดียวกัน รวมถึงการให้อำนาจพิจารณามาตรการเหมาะสมในการตอบโต้กัมพูชา เช่น มาตรการปิดด่านตลอดแนว งดเดินทางเข้าออก ทั้งยานพาหนะ นักท่องเที่ยว เว้นอำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม และการศึกษา เป็นต้น

คิวลงพื้นที่ของ นายกฯ ล่าสุดที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก็ได้สื่อสารกับกำลังพลชัดเจนว่า “รัฐบาลพร้อมสนับสนุนและดูแลเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละเพื่อประเทศ ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่ลืมความเป็นอยู่และสวัสดิการของทหารแนวหน้า” และเน้นย้ำเสมอว่ามีอะไรขอให้บอก รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเต็มที่

โดยท่าทีของฮุน เซน ในวันเดียวกับที่แพทองธาร มีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ชายแดน ได้ตอบรับคำเชิญของผู้บังคับบัญชากองทัพ ให้ดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารสูงสุด ลงทุนปัดฝุ่นหยิบชุดทหารมาใส่ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพกองทัพกัมพูชา แถมประกาศกร้าวว่ากองทหารไม่ควรกลัวในการโจมตีของศัตรูที่รุกรานเรา

สัญญาณที่ฮุน เซน ส่งออกมา นอกจากถูกมองว่าพยายามยั่วยุไทยแล้ว ยังดูเหมือนต้องการส่งบอกว่าพร้อมยกระดับแตกหักกับไทย เพราะการตอบรับตำแหน่งเสนาธิการทหารสูงสุด ครั้งนี้ คงคิดเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากเตรียมลงมาวางแผนการรบด้วยตัวเอง 

สวนทางกับท่าทีฝ่ายไทย ที่เน้นให้ทหารตั้งรับอย่างอดทน แต่ก็พร้อมตอบโต้ หากฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธก่อน ส่วนมาตรการตอบโต้อื่นๆ ก็มีตามความเหมาะสม ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายปฏิบัติในแต่ละพื้นที่จะเสนอให้นายกฯ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา 

เช่น กรณี ผู้ว่าฯ สระแก้ว นำเสนอนายกฯ หลายเรื่อง ทั้งให้ทบทวนโควตานำเข้ามันสำปะหลัง ขอให้ยกเลิกการยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านแดนคนละ 1,000 บาท ในช่วงสงกรานต์ ชะลอหรือให้ยกเลิกกิจกรรมความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา 75 ปี ออกไปโดยไม่มีกำหนด ระงับความช่วยเหลือแบบให้เปล่าทุกกรณี ยกเว้นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และทบทวนโครงการก่อสร้างต่างๆ จะเห็นได้ว่าฝ่ายไทยยังมีไพ่ในมือหลายใบที่สามารถตอบโต้และกดดันกัมพูชาได้โดยไม่ต้องรบ

ทว่า สถานการณ์ภายในของรัฐบาลลูกทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่ในสภาพไม่สู้ดีนัก ปัจจัยรุมเร้าหนักอึ้งเต็มไปหมด ทั้งในและนอกสภา จนหลายฝ่ายนับถอยหลังแล้วว่าแพทองธาร อาจจะอยู่ในตำแหน่งได้อีกไม่นาน

ไม่ต่างจากฮุน เซน ที่ก่อนหน้านี้ ทำนายว่า ประเทศไทยจะเปลี่ยนผู้นำในอีก 3 เดือนข้างหน้านั้น เพื่อกำลังปั่นกระแส โดยเฉพาะกับกองทัพไทยเพื่อให้ไขว้เขว ว่าการเมืองกำลังจะเปลี่ยนแปลง หวังให้เกิดภาวะชะงักงัน หรือวิตกกังวล จนอยู่ในภาวะห่วงหน้าพะวงหลังหรือไม่

บทบาทของนายกฯ เรื่องชายแดน นับตั้งแต่มีคลิปเสียงหลุด ดูเหมือนจะทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการเป็นฝ่ายสนับสนุนอยู่ข้างหลังฝ่ายความมั่นคงและกองทัพในการรับมือภัยคุกคามจากกัมพูชา 

หากนายกฯ ต้องการลบคำสบประมาท ก็ต้องสร้างผลงาน โชว์ภาวะผู้นำที่เข้มแข็ง เด็ดขาด ให้มากกว่าที่เป็นอยู่อีกหลายเท่า ในวันที่ยังมีกลไกอำนาจรัฐหลายมิติให้บริหารจัดการ จากจุดนี้ก็ขึ้นกับความสามารถที่แท้จริงแล้ว ว่าจะพลิกวิกฤติเป็นโอกาส หรือพลิกวิกฤติไม่พ้นวิกฤติ