ถอดรหัส 'เพื่อไทย' ยุติ‘กาสิโน’ พ.ร.บ.‘คอมเพล็กซ์’ ถึงทางตัน

"เพื่อไทย" วางเกมถอยร่าง พ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล้กซ์ ที่มี "กาสิโน" 10% ออกไปก่อน เพื่อลดแรงปะทะที่จะสร้างความขัดแย้งให้กับ "รัฐบาลแพทองธาร"
KEY
POINTS
- "รัฐบาลเพื่อไทย" เผชิญเกมในและนอกสภาผ่านองคาพยพ สส.และ สว. “ก๊กสีน้ำเงิน” และ "ม็อบรวมพลังแผ่นดิน" ที่รอคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์
- วิปพรรคเพื่อไทย และวิป ครม.มองสถานการณ์ที่ไม่ปกติ หากรัฐบาลยังเร่งเกมดัน ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ อาจเสี่ยงปลุกชนวนขัดแย้งกับรัฐบาล
- ร่าง พ.ร.บ.คอมเพล็กซ์ สัดส่วน กาสิโน 10% เสี่ยงถึงทางตัน เจอเกมต้านจากฝ่ายค้านและแรงเบรกของ สว.สีน้ำเงิน
- มีการประเมินวงในพรรคเพื่อไทย หากจะผลักดันร่างกฎหมายเรือธงกู้เศรษฐกิจอาจถูก สว.ยับยั้ง จนเสี่ยงดองกฎหมายไว้ 180 วัน
ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ.... หรือเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย หมายมั่นว่าจะเป็นนโยบายเรือธงลำใหม่ ในการกู้เศรษฐกิจ แต่สัญญาณล่าสุด ปรากฎว่า เพื่อไทยต้องดึงเกม ถอยร่างกฎหมายนี้ออกจากวาระร้อน อย่างไม่มีกำหนด
เมื่อกระแสรอบด้าน ทั้งการเมือง การม็อบ กำลังยกขึ้นมาเป็นประเด็น ในการคว่ำรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร
แม้เสถียรภาพรัฐบาลเพื่อไทย ที่ผนึกกำลังพรรคร่วม 11 พรรค จะมีเสียงร่วมกัน 255 มากกว่ากึ่งหนึ่งเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร 495 เสียง อีกทั้งยังได้เสียงจาก สส.พันธุ์ลึกลับ มาผสมโรงหนุนรัฐบาลได้อีก ไม่ต่ำกว่า 10 เสียง ซึ่งสามารถประคองสถานะรัฐบาลไปต่อได้ก็ตาม
ทว่า สถานะของนายกฯ “แพทองธาร ชินวัตร” ยังคงเผชิญสารพัดปัญหา เป็นเป้าตำบลกระสุนตก ถล่มใส่อยู่ตลอดเวลา
ไล่ตั้งแต่เกมยึดอำนาจกระทรวงมหาดไทยจาก “พรรคภูมิใจไทย” มาถึงการปั่นกระแสคลั่งชาติจากผู้นำกัมพูชา ที่เปิดคลิปเสียงเจรจาทางข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา
ขณะที่ “ม็อบเครือข่ายรวมพลังแผ่นดิน” ปลุกกระแสจากปมความขัดแย้งไทย-กัมพูชา โหนกระแสชุมนุมใหญ่ 28 มิ.ย.2568 กลายเป็นอาวุธหนักของเครือข่าย “รัฐพันลึก” ซึ่งรอวันรัฐบาลเพลี่ยงพล้ำ จึงค่อยขยับแรงเปิดเกมรุกเพื่อโค่นล้ม “นายกฯ แพทองธาร”
ยังไม่นับเกมในและนอกสภาผ่านองคาพยพ “ก๊กสีน้ำเงิน” ที่มีทั้ง สส.พรรคภูมิใจไทย 69 เสียง และ สว.สีน้ำเงินไม่ต่ำกว่า 130 เสียง คอยเดินเกมตรวจสอบรัฐบาลผ่านการยับยั้งตามกลไกของรัฐธรรมนูญ
ล่าสุด “พรรคภูมิใจไทย” เตรียมวางเกมเกมล้มรัฐบาลทันทีหลังเปิดสมัยประชุมรัฐสภา ด้วยการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้งคณะตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151
ขณะที่ “ทิวา การกระสัง” ทนายความจาก จ.บุรีรัมย์ ก็ยื่นร้องต่อ กกต.เพื่อขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคเพื่อไทย กรณีคลิปเสียงผู้นำไทย-กัมพูชา เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ฝ่าฝืนต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ทั้งหมดทั้งมวลคือศึกหนักที่รัฐบาลเพื่อไทยต้องเผชิญหลังเปิดสมัยประชุมรัฐสภา ขณะที่อายุของรัฐบาลก็ยิ่งนับถอยหลังรอวันเลือกตั้งใหญ่
ถึงแม้ ร่าง พ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ กำหนดเงื่อนไขให้มีพื้นที่ของกาสิโน เพียงร้อยละ 10 แต่เมื่อเจอเกมปั่นกระแสล้มรัฐบาลนอกสภา รวมทั้ง “ภูมิใจไทย” ก็ผสมโรงประกาศคัดค้านทันทีที่เป็นฝ่ายค้าน
ทำให้ “เพื่อไทย” ต้องพลิกเกมใหม่ ด้วยการถอยร่างกฎหมายดังกล่าวออกไป ซึ่งก่อนหน้านี้ วิปพรรคเพื่อไทย และวิป ครม.ได้ตกลงกันว่า ด้วยสถานการณ์ที่ไม่ปกติ หากรัฐบาลยังเร่งเกมดัน ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ย่อมมีความเสี่ยงที่จะทำให้เข้าทาง “ม็อบนอกสภา” และ “พรรคฝ่ายค้าน” ได้
ดังนั้น การเลื่อนร่าง พ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปอย่างไร้กำหนด เพื่อรักษาอายุของรัฐบาลผสมให้ไปต่อได้จนผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ก่อน จึงเป็นทางบังคับที่ต้องเลือก
ร่างกฎหมายกลุ่มว่าด้วยการสร้างเสริมสังคมสันติสุข หรือ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะถูกเลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อน เพราะวิปรัฐบาลมองว่า กฎหมายดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือประชาชนทั่วไป
หากยิ่งผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไปต่อ ก็เสี่ยงที่จะถูกปลุกกระแสโหวตคว่ำได้
ด้วยเสียงรัฐบาลที่ปริ่มน้ำ อาจได้เสียงสนับสนุนที่ไม่เพียงพอต่อการโหวตรับหลักการ จากทั้งพรรครวมไทยสร้างชาติหรือแม้แต่พรรคประชาชาติที่มีจุดยืนไม่สนับสนุนกาสิโน
ที่สำคัญ หากร่างกฎหมายนี้คว่ำลงในวาระแรก และยังถูกตีความว่าเป็นกฎหมายว่าด้วยการเงิน ก็อาจทำให้นายกฯ ต้องรับผิดชอบด้วยการยุบสภาฯ ได้
คนการเมืองในซีกรัฐบาลพรรคเพื่อไทย มองว่า หากผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวได้ก็ตาม ก็ยังพบว่ามีอุปสรรคจากแรงต้านในกลไกรัฐสภาพอสมควร
ไล่ตั้งแต่ “พรรคภูมิใจไทย” จะปลุกกระแสต้านอย่างหนักไม่เห็นด้วยกับการเปิดบ่อนกาสิโน สัญญาณตรงนี้ยังส่งตรงถึงองคาพยพสีน้ำเงินอย่าง สว.ในแถวสอง คอยยับยั้งกฎหมายเรือธงของ “เพื่อไทย”หลังกฎหมายผ่าน 3 วาระในชั้นของสภาผู้แทนราษฎรไปได้
ด่านต่อไป “เพื่อไทย” ยังคงเผชิญเกมขวาง ของ สว.สีน้ำเงินที่พร้อมยับยั้งร่างกฎหมายเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แน่นอนหากสองสภาเห็นไม่ตรงกัน กฎหมายดังกล่าวจะถูกดองไว้ 180 วันถึงค่อยนำมาพิจารณาต่อในสภาผู้แทนราษฎร
ประเมินไทม์ไลน์แล้วเกมผลักดันนโยบายเรือธง “เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวตรงนี้ จึงไม่น่าจะทันภายในอายุของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่จะครบวาระในปี 2570
ร่าง พ.ร.บ.ที่มีสัดส่วน “กาสิโน” เพียงร้อยละ 10 เรียกว่าชั่วโมงนี้ ถือได้ว่าถึงทางตันของเพื่อไทยแล้ว เพราะยิ่งผลักดันต่อไป หากเดินหน้าลุยไฟไปต่อ ก็จะยิ่งสุมเชื้อไฟขัดแย้งให้เป็นเงื่อนไขโค่นล้มนายกฯ แพทองธาร ได้อย่างรวดเร็ว
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย ประเมินสถานการณ์ว่า “ร่าง พ.ร.บ.คอมเพล็กซ์” ที่มีกาสิโน ไม่น่าจะผลักดันได้สำเร็จในรัฐบาลชุดนี้ เพราะเพื่อไทยจำเป็นต้องตัดสารพัดเงื่อนไขความขัดแย้งออกไปก่อน แล้วรักษาอำนาจรัฐบาลให้กลับมาอยู่ในอำนาจ เพื่อรอการสะสมสรรพกำลังจากการใช้งบประมาณรายจ่ายปี 2569 ก่อน
ขณะที่เกมสภาฯ ผ่านงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ก็ไม่ใช่งานง่ายของรัฐบาล ต้องไม่ลืมว่ายังมีแขนขากลไกเครือข่าย “สีน้ำเงิน” อย่าง สว.คอยเป็นอาวุธทิ่มแทง“พรรคเพื่อไทย”อยู่ตลอดเวลา
หลังจากแตกหัก เวลานี้ค่ายแดงไม่ว่าจะขยับไปทางไหน คงจะต้องสู้รบกับค่ายสีน้ำเงิน ไปจนถึงการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้
แค่รบกับ“ภูมิใจไทย”ในสนามเลือกตั้ง แต่ละเขตก็เหนื่อยยากอยู่แล้ว หากยังต้องมาสู้เกมใหญ่ ที่อิงกับกระแสถล่ม และความนิยมกับ“ค่ายสีส้ม”ด้วยแล้ว เลือกตั้ง รอบหน้า“เพื่อไทย” อาจไม่เหมือนเดิม







