ผบ.ทบ. ย้ำ กอ.รมน. เสริมภารกิจ ชายแดนไทย-กัมพูชา เฝ้าระวัง กลุ่มไม่หวังดี

ผบ.ทบ. ย้ำ กอ.รมน. เสริมภารกิจ ชายแดนไทย-กัมพูชา เฝ้าระวัง กลุ่มไม่หวังดี

ผบ.ทบ. ย้ำ กอ.รมน. หนุนภารกิจ ทภ.1-ทภ.2 ดูชายแดนไทย-กัมพูชา เข้มงานการข่าว เฝ้าระวังแรงงานผิดกฎหมาย-กลุ่มไม่หวังดี

25 มิถุนายน 2568 ที่กองอำนวยการรักษาภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษก กอ.รมน. เปิดเผยว่า พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) เป็นประธานการประชุมหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. ครั้งที่ 7/2568 โดยมี พลเอกเอกรัตน์ ช้างแก้ว ผู้ช่วย ผอ.รมน., พลเอกธงชัย รอดย้อย เลขาธิการ กอ.รมน. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและหัวหน้าหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. และ ทบ. เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคารรื่นฤดี กอ.รมน.(ส่วนกลาง) สำหรับ กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัด เข้าร่วมประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (VTC)
 
โดยในที่ประชุมหน่วยที่เกี่ยวข้องได้ร่วมชี้แจงสรุปสถานการณ์ความมั่นคง อาทิ การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปัจจุบันพบอาชญากรรมออนไลน์ลดลงแต่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

ส่วนปัญหายาเสพติดมีการจับกุมตรวจยึดได้อย่างต่อเนื่อง พบมีการลักลอบมากขึ้นจึงเน้นย้ำหน่วยที่เกี่ยวข้องเพิ่มการลาดตระเวนชายแดน ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ยังคงเกิดเหตุอย่างต่อเนื่องเน้นย้ำการเพิ่มการป้องกัน การข่าว เร่งสร้างความเข้าใจต่อประชาชนในประเด็นสันติภาพ รวมถึงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

ช่วงท้าย พลเอกพนา ได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานที่ได้ร่วมชี้แจงการปฏิบัติ รวมถึงข้อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จึงได้สั่งการให้ กอ.รมน. เสริมและสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของกองทัพ โดยใช้กลไกระดับภาค (ผอ.รมน.ภาค) และระดับจังหวัด (รอง ผอ.รมน.จังหวัด) สนับสนุนและเสริมการปฏิบัติภารกิจของ กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งอยู่ภายใต้บริบทของสถานการณ์แบบผสมผสาน (Hybrid)  รวมถึงได้เน้นย้ำในการใช้ศักยภาพของมวลชนในพื้นที่ให้ในการเสริมสร้างความเข้าใจ ลดความขัดแย้ง และสนับสนุนภารกิจด้านความมั่นคงตามแนวทางอย่างสันติ 

นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำความสำคัญของงานข่าวกรอง ทั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อเฝ้าระวังกลุ่มแรงงานผิดกฎหมาย ผู้ลักลอบเข้าเมือง หรือกลุ่มบุคคลไม่หวังดี

พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยใช้เครือข่ายข่าวสารและมวลชนในชุมชนให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการแจ้งเตือน และสนับสนุนการปฏิบัติการเชิงรุกด้านความมั่นคงอย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์