เสธ.หิ เปิดเหตุผล ภารกิจสำคัญ รทสช.จำเป็นร่วมรัฐบาลต่อ

เสธ.หิ เปิดเหตุผล ภารกิจสำคัญ รทสช.จำเป็นร่วมรัฐบาลต่อ ชี้ตัดสินใจร่วมรัฐบาลเพื่อผลประโยชน์ระยะยาวของประชาชน บอกเสียสละแม้ต้องแลกกับกระแสนิยม
ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรววงพลังงาน "พีระพันธุ์" โพสต์ข้อความระบุว่า แม้ไม่มีใครรู้ แต่เรารู้ รู้ว่าเรานั้นทำเพื่อใคร ในเรื่องของการไปต่อในการตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ก่อให้เกิดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์และไม่พอใจจากแฟนคลับบางพวก ผมเองนั้น ในตอนแรกไม่อยากจะแสดงความคิดเห็นอะไรออกมา เพราะคิดว่า พูดไปในเวลานี้ จะมีใครฟังหรือเปล่า
โดยต้องขอบคุณ แฟนคลับบางท่าน ที่ส่งข้อความมาให้กำลังใจ ตามที่ผมได้โพสต์ให้ท่านได้ดูก่อนหน้านี้แล้ว แสดงว่า ยังมีคนที่มีความเข้าใจในเรื่องนี้อยู่ ผมขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ขอย้ำนะครับ ว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมดังนี้
1. ปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นความตั้งใจที่จะทำลาย ท่านนายกรัฐมนตรีของไทยจากผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน ถึงขนาดใช้วิธีการที่ไม่เคยมีผู้นำประเทศไหนในโลกใช้มาก่อน ผู้นำประเทศอื่นๆ ย่อมพิจารณาได้เองว่า เกียรติภูมิและความน่าเชื่อถือของผู้นำประเทศเพื่อนบ้านของไทยท่านนี้ เป็นเช่นไร
2. ความพยายามของท่านนายกรัฐมนตรีของไทยเรา ที่จะพยายามแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างประเทศ โดยพยายามใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวเพื่อให้อีกฝ่าย ที่ตนเองคิดว่าเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพนับถือ ให้ความเมตตาและลดความแข็งกร้าว เพื่อจะนำไปสู่การเจรจา ผมพิจารณาแล้ว ว่ายังไม่มีเจตนาถึงขั้นที่จะขายชาติ ตามที่ถูกกล่าวหา
3. หลังจากผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน นำคลิปการเจรจาที่ไม่เหมาะสมออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชน โดยไม่คำนึงถึงมารยาททางการเมืองระหว่างประเทศ ทำให้เกิดปัญหาซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีจะต้องดำเนินการแก้ไข ดังนี้ 3.1 ท่านแม่ทัพภาค 2 ซึ่งเป็นผู้ถูกเอ่ยนามในบทสนทนาโดยตรง
3.2 กองทัพบก และทหารตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกเหล่าทัพ เนื่องจากแม่ทัพภาค 2 ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ ข้าราชการทหาร เพื่อปกป้องประเทศชาติตามกฏหมายและจิตสำนึก 3.3 ประชาชน ผู้เป็นเจ้าของประเทศนี้ร่วมกันทุกคน
ในข้อ 3.1 และ 3.2 ท่านนายกรัฐมนตรี ได้มีการขอโทษและแสดงออกอย่างชัดเจนแล้ว ทางท่านแม่ทัพภาค 2 และกำลังพลทหารตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ ย่อมเป็น ผู้พิจารณาเองว่าจะให้อภัยหรือไม่
ส่วนในข้อ 3.3 นั้น เป็นข้อที่ยากที่สุด ที่ท่านนายกรัฐมนตรีจะต้องแสดงออกให้ประชาชนได้เห็นว่า ท่านพร้อมปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงอื่นใดกับทางประเทศเพื่อนบ้าน เหมือนกับที่ผู้นำประเทศนั้นพยายามจะสื่อสารให้คิดไปในทำนองดังกล่าว
ดร.หิมาลัย ระบุต่อว่า ซึ่งในส่วนนี้ทั้งหมดเป็นส่วนที่ท่าน นายกรัฐมนตรี จะต้องดำเนินการแก้ไขด้วยตัวเอง ในส่วนของรัฐบาลนั้น มีงานเร่งด่วนที่จะต้องรีบดำเนินการ คือการผ่านร่างงปประมาณ ปี 69 เพื่อใช้ในการบริหารประเทศ ซึ่งถ้าหากต้องยุบสภาฯ ในช่วงนี้งบประมาณปี 69 ก็ต้องหยุดชะงัก และเริ่มต้นใหม่หลังจากรัฐบาลใหม่ ซึ่งน่าจะใช้เวลาต่อจากนี้ไปอีกประมาณ 9 เดือน ทำให้การบริหารประเทศ ต้องหยุดชะงักลง อย่างเปล่าประโยชน์ แต่หากผ่านงบประมาณแล้ว การบริหารประเทศ ก็จะสามารถดำเนินต่อไปได้
ในส่วนของ พรรครวมไทยสร้างชาตินั้น มีกฎหมายพลังงานหลายฉบับที่จะต้องพยายามนำเข้า ครม. และสภาฯ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ เพื่อเป็นประโยชน์กับประชาชนให้มากที่สุด โดยเฉพาะกฎหมายโซลาร์รูฟเสรี อยู่ในขั้นตอนที่พร้อมจะนำเข้า ครม. และเข้าสภาฯ ในวาระที่จะถึงนี้ ซึ่งถ้ากฎหมายฉบับนี้ผ่าน อย่างน้อย ประชาชนและผู้ประกอบการ ก็จะมีพลังงานทางเลือกสำหรับพึ่งพาตนเองได้ และหากโชคดี กฎหมายที่เกี่ยวกับน้ำมัน,ไฟฟ้าและก๊าซหุงต้ม สามารถนำเข้าสภาฯได้ทัน ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อประชาชน
"แน่นอนครับ ในการตัดสินใจร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยต่อไป จะต้องโดนกระแสการต่อต้านและไม่พึงพอใจของประชาชน ซึ่งผมคิดว่า ท่าน พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ย่อมทราบดี ว่าการตัดสินใจเช่นนี้ของท่าน อาจทำให้กระแสนิยมของท่านและพรรคตกลง แต่เมื่อเทียบกับโอกาสที่จะฝากกฎหมายดีๆไว้ให้ประเทศนี้ และผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับในระยะยาว ย่อมเป็นสิ่งที่นักการเมืองที่ดีพึ่งกระทำ"
"ผมขอสดุดี ในความกล้าหาญและเสียสละของ ท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ในครั้งนี้ ขอขอบคุณ แฟนคลับ ที่ส่งข้อความให้กำลังใจและแสดงถึงความเข้าใจการตัดสินใจมาให้ผม ทำให้ผมมีความกล้าพอที่จะเขียนบทความนี้ขึ้น เพื่อแสดงถึงจุดยืนของตัวเอง และขอเป็นหนึ่งกำลังใจที่จะเคียงข้างให้ท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ผลักดันกฎหมายพลังงานเพื่อประชาชนได้เป็นผลสำเร็จ"