ชง ป.ป.ช.สอบต่อกราวรูด 76 คนคดีตึก สตง. ประธาน คตง.-ผู้ว่าฯ โดนด้วย

ชง ป.ป.ช.สอบต่อกราวรูด 76 คนคดีตึก สตง. ประธาน คตง.-ผู้ว่าฯ โดนด้วย

ดีเอสไอ ส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.สอบต่อคดีฮั้วประมูลตึก สตง. 76 ผู้ถูกกล่าวหา พบ 'ประธาน คตง.' พ่วงผู้ว่าฯ สตง.ทั้งอดีต-ปัจจุบัน โดนด้วย

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2568 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการยื่นสำนวน "คดีตึก สตง." จำนวน 46 แฟ้ม เอกสาร 17,620 แผ่น โดยมีผู้ถูกกล่าวหาราว 76 ราย ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ 70 ราย ให้กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวน ว่า วันนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะนำสำนวนในคดีฮั้วประมูลการก่อสร้างอาคาร สตง. ไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการไต่สวน ภายหลังจากที่ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีกับ 6 ผู้บริหารเอกชน และพบมูลในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งอยู่ในคณะกรรมการฯ ทั้งคณะกรรมการควบคุม กรรมการตรวจรับ เป็นต้น

เมื่อถามว่าพยานหลักฐานจะสามารถดำเนินการเอาผิดกับกลุ่มผู้บริหารระดับสูงได้หรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ยังไม่มั่นใจว่าจะดำเนินการได้หรือไม่ เนื่องจากอำนาจการไต่สวนเป็นของ ป.ป.ช. ส่วนดีเอสไอมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานและแจ้งข้อกล่าวกับบุคลที่เกี่ยวข้อง แต่มั่นใจว่า ป.ป.ช. จะขยายผลตรวจสอบข้อเท็จจริงกับบุคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด

วันเดียวกัน ดีเอสไอ เผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า คดีดังกล่าวคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำการสอบสวนพบว่ามีพฤติการณ์และหลักฐานเกี่ยวกับการดำเนินการตามสัญญาควบคุมงาน ของกลุ่มนิติบุคคลร่วมค้า PKW โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่าในขั้นตอนการเสนอราคาและยื่นคุณสมบัติของผู้เสนอราคา มีพยานยืนยันว่ามีการปลอมลายมือชื่อและเอาชื่อบุคคลอื่นซึ่งไม่มีความสามารถเป็นไปตาม TOR มาใช้เพื่อให้ได้รับการคัดเลือก อันทำให้เกิดการแข่งขันราคาอย่างไม่เป็นธรรม

เข้าข่ายเป็นการ “ตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือโดยการกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐ หรือโดยการเอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ”

และ “เป็นการร่วมกันใช้อุบายหลอกลวงหรือกระทำการโดยวิธีอื่นใดเป็นเหตุให้ผู้อื่นไม่มีโอกาสเข้าทำการเสนอราคาอย่างเป็นธรรมหรือให้มีการเสนอราคาโดยหลงผิด” และ “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม” ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มาตรา 7 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 มาตรา 268 ประกอบมาตรา 83

โดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มีการกล่าวหาดำเนินคดีกับกิจการร่วมค้า PKW รวมแล้ว 6 ราย ประกอบกับมีบุคคล (ปกปิดนาม) จำนวน 2 ราย มากล่าวหาให้ดำเนินคดีอาญากับเจ้าพนักงานของรัฐ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ด้วย ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นการกล่าวหาเจ้าพนักงานของรัฐกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2568 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้จัดทำแฟ้มสำนวนและสรุปรายงานการสอบสวนพร้อมความเห็นเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อพิจารณาส่งสำนวนการสอบสวนไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา 61 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 30 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561

ซึ่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้พิจารณาและมีความเห็นให้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 58/2568 กรณี การจัดซื้อจัดจ้างโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) อาจมีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 ที่มีการกล่าวหาเจ้าพนักงานของรัฐ ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะไต่สวนและวินิจฉัย เป็นเหตุให้วันนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 58/2568 ได้นำสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษดังกล่าว รวม 73 แฟ้ม จำนวน 13 กล่อง เอกสาร 31,224 แผ่น ส่งมอบสำนวนการสอบสวนให้กับเลขาธิการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

วันเดียวกัน (20 มิ.ย.) ที่สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี พ.ต.ต.ยุทธนา พร้อมด้วย ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ท.อมร หงษ์ศรีทอง ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ได้นำสำนวนคดีพิเศษมาส่งมอบให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยมี นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการ ป.ป.ช. เป็นผู้รับสำนวนด้วยตัวเอง

สำหรับสำนวนคดีพิเศษนี้ ดีเอสไอได้สรุปผลการสอบสวนว่ามีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐใน 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ผู้บริหารองค์กรอิสระ 2.คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องจำนวน 10 คณะ ทั้งด้านการออกแบบ การก่อสร้าง และการควบคุมงาน 3.คณะกรรมการออกแบบและวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 27

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการ สตง. คนปัจจุบัน มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า สำนวนดังกล่าวมีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ สตง. รวมอยู่ด้วย และคดีนี้ยังอยู่ในกระบวนการสอบสวนและพิจารณาของ ป.ป.ช. ซึ่งจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า ในสำนวนการสอบสวนของดีเอสไอ ปรากฎผู้ถูกกล่าวหาราว 76 ราย ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ภายในองค์กรอิสระ 70 ราย โดยมีผู้บริหารระดับสูงของ สตง. 4 ราย คือ พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) พ.ต.อ.วัลลิพผล รังคสิริ เลขานุการของ พล.อ.ชนะทัพ, นายประจักษ์ บุญยัง อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่า สตง.คนปัจจุบัน ถูกกล่าวหาด้วย ส่วนที่เหลือเป็นผู้บริหารของกิจการร่วมค้า PKW 6 ราย