จับตา ‘พท.’ หักดิบ ‘ภท.’ ปรับ ครม. ยึด ‘มท.1’ เกลี่ย 8 โควตา เพิ่มเสียง สส.

จับตา ‘พท.’ หักดิบ ‘ภท.’ ปรับ ครม. ยึด ‘มท.1’ เกลี่ย 8 โควตา เพิ่มเสียง สส.

จับตา “เพื่อไทย” ปิดประตูล้างไพ่ “ปรับ ครม.” เขี่ย “ภท.” พ้นรัฐบาล ชี้ ได้เก้าอี้เพิ่ม เรียกเชื่อมั่น ปชช. ลดขัดแย้ง ทำนโยบายได้เต็มที่ กำชับ สส. ให้ความสำคัญในสภา เชื่อประคองรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำรอดแน่

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่17 มิ.ย.68 มีการหารือถึงการปรับ ครม. สส.ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ต้องการให้พรรคเอาตำแหน่ง รมว.มหาดไทย คืนมาจากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งจากที่ได้หารือกับผู้บริหารพรรค และ สส. ต่างก็เห็นด้วยในแนวทางนี้ ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ได้ประกาศแยกทางจากรัฐบาลแล้ว เท่ากับว่าไม่ต้องมีการเซตซีโร่ ปรับ ครม. ทั้งหมดแล้ว สุดท้ายแม้ไม่มีพรรคภูมิใจไทยอยู่ร่วมรัฐบาล เท่ากับว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะได้เก้าอี้ในสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทย คืนมาถึง 8 เก้าอี้ เช่น รมว.มหาดไทย , รมว.ศึกษาธิการ , รมว.แรงงาน , รมว.การอุดมศึกษาฯ และรัฐมนตรีช่วยอีก 4 เก้าอี้ รวมถึงรองประธานสภา 

ตรงนี้จะทำให้ สส.ของพรรคเพื่อไทย มีโอกาสเข้ามาทำงานเพื่อขับเคลื่อนนโยบายได้อย่างเต็มที่ เพราะ สส.ของพรรคที่ต่อสู้กันมาก็ควรได้มีโอกาสเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรี รวมถึงสามารถเกลี่ยให้พรรคที่จะเข้ามาช่วยเติมเสียงให้รัฐบาลได้ ซึ่งการแยกทางกับพรรคภูมิใจไทย ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี เพราะที่ผ่านมา การทำงานของพรรคภูมิใจไทย มีความขัดแย้งกับเพื่อไทย มาโดยตลอด เช่น นโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ รวมถึงนโยบายการปราบปรามยาเสพติดที่กระทรวงมหาดไทย เหมือนจะเกียร์ว่าง ไม่ทำอย่างจริงจัง รวมถึงมีการเล่นเกมใต้ดินในรูปแบบต่างๆ 

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หากรัฐบาลไม่มีพรรคภูมิใจไทย จะทำให้ภาพลักษณ์ของเราดีขึ้น เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับประชาชน สามารถทำตามนโยบายต่างๆ ได้เต็มที่ เพราะที่ผ่านมา ประชาชนจะเห็นภาพความขัดแย้งในรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทย กับภูมิใจไทย มาโดยตลอด นอกจากนี้ สส.ของพรรคก็มีโอกาสได้เป็นรัฐมนตรีมากขึ้น ส่งผลดีที่สามารถให้เราทำตามแนวทาง ตามนโยบายที่ประกาศไว้ตอนหาเสียงได้ แม้เสียงรัฐบาลจะเหลือประมาณ 260 เสียง ก็เชื่อว่าจะสามารถประคับประคองกันไปได้ 

 

ส่วนที่มีการเสนอกระทรวงสาธารณสุข หรือกระทรวงพาณิชย์ เพื่อแลกนั้น สส. ในพรรคเห็นว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากเป็นกระทรวงใหญ่ เชื่อมโยงกับประชาชนในเรื่องปากท้อง ชีวิตความเป็นอยู่ ถือเป็นฐานเสียงใหญ่ของพรรค หากปล่อยให้ไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย เท่ากับไปเพิ่มกำลังฐานเสียงให้กับเขาที่จะใช้ในการเลือกตั้งได้ ดังนั้นการปรับ ครม. ครั้งนี้ พรรคต้องมองไปที่การเลือกตั้งครั้งหน้า เป็นปัจจัยในการพิจารณาด้วย เพราะจะส่งผลถึงคะแนน ความนิยมของพรรคในอนาคตด้วย 

อย่างไรก็ตาม การไม่มีพรรคภูมิใจไทย ร่วมรัฐบาล พรรคเพื่อไทย จะต้องเจอกับนิติสงครามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พรรคเพื่อไทย จะต้องเตรียมรับมือกับคดีความทางการเมืองที่จะต้องมีมากขึ้น เพราะเขามีเครือข่ายอยู่ในองค์กรต่างๆ ส่วนงานสภา พรรคเพื่อไทย ก็ต้องจัดระเบียบให้ดี กำชับกับ สส. ให้ความสำคัญ กับกฎหมายที่จะเข้าพิจารณา เช่น ร่างพ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ กฎหมายงบประมาณ รวมถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ

“วันนี้ต้องกล้า การให้เวลากับพรรคภูมิใจไทย 48 ชั่วโมง นั้นถือว่ามากเกินไปแล้ว เพราะภูมิใจไทย ก็ยืนยันมาอย่างชัดเจนด้วยคำพูดของหัวหน้าพรรคว่าหากไม่ได้กระทรวงมหาดไทย ก็จะไม่ร่วมรัฐบาล จึงถือว่าหมดเวลาแล้วสำหรับพรรคภูมิใจไทยกับรัฐบาลนี้ และไม่มีความจำเป็นที่ต้องเอากระทรวงใดๆ ไปแลก” แหล่งข่าวระบุ

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์