เดิมพัน‘2นาย’ใครถอย-รุก ภท.โยนโจทย์‘ทักษิณ’กล้าหัก?

เดิมพัน‘2นาย’ใครถอย-รุก  ภท.โยนโจทย์‘ทักษิณ’กล้าหัก?

เดิมพัน‘2นาย’ใครถอย-รุก ปรับครม.ภท.โยนโจทย์ วัดใจ‘ทักษิณ’กล้าหัก? ถอดสมการ‘น้ำเงิน-ส้ม’ บีบ‘เพื่อไทย’จบแล้วครับนาย?

KEY

POINTS

  • “บทสรุป” ที่ยัง “ไม่สรุป” ถูกโยนโจทย์กลับไปที่ “นายใหญ่” ว่าจะเปิดเกมแตกหัก หรือจะปล่อยให้ยืดเยื้อออกไปเช่นนี้เรื่อยๆ
  • การเมือง ไม่มีอะไรที่บังเอิญ 2 ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นภายในวันเดียวกัน ย่อมถูกตีความไปที่ "เกมเอาคืน" อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น  
  • จังหวะของ “พรรคสีน้ำเงิน” ในเวลานี้ ถูกจับตาว่า พร้อมที่จะถอยไปเป็นฝ่ายค้านจริง หรือแท้จริงแล้วภูมิใจไทยที่พยายามเดินสายเปิดตัวสส.ต่างพรรค โชว์เสียงในมือในเวลานี้ จะแค่ต้องการวัดใจว่า “นายใหญ่” จะกล้าผลักภูมิใจไทยเป็นฝ่ายค้านหรือไม่

สงคราม“แดง-น้ำเงิน”  ส่อแววเปิดตำนาน “มันจบแล้วครับนาย” เวอร์ชั่นใหม่  ท่ามกลางฉากรุก-เกมรบที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ เห็นชัดถึงแรงปะทะที่ต่างฝ่ายต่าง“รบพุ่ง” แบบไม่มีทีท่าว่าจะประนีประนอมรอมชอมกันได้โดยง่าย

ทั้งปฏิบัติการหักดิบ ยึดคืนกระทรวงมหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย กลับไปอยู่ในการดูแลของพรรคแกนนำ ตามบัญชา“ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่เพื่อไทย  

ที่ว่ากันว่า บทสนทนาระหว่าง “หลานอิ๊งค์”แพทองธาร ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี และ “อาหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย  บนตึกไทยคูฟ้า ทำเนียบรัฐบาล  ช่วงเย็นวันที่ 16 มิ.ย.  เป็นเพียงการ “แจ้งเพื่อทราบ” ไม่ใช่การ “เจรจาต่อรอง” 

ไม่ต่างจากฝ่าย “อนุทิน” ที่แทบไม่ต้องเดาให้ยุ่งยาก เพราะได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ ยึด “ปฏิญญาช็อกมินต์” เมื่อครั้งจัดรัฐบาล

จึงทำให้ “บทสรุป” ที่ยัง “ไม่สรุป” ถูกโยนโจทย์กลับไปที่ “นายใหญ่” ว่าจะเปิดเกมแตกหัก หรือจะปล่อยให้ยืดเยื้อออกไปเช่นนี้เรื่อยๆ

เดิมพัน‘2นาย’ใครถอย-รุก  ภท.โยนโจทย์‘ทักษิณ’กล้าหัก?

ภายใต้เกมที่ดูเหมือนจะบังเอิญแต่ไม่บังเอิญ หมายเรียกล็อต 7 คดี “โพยฮั้วสว.” จำนวน 20 คน  ถูกปล่อยออกมาวันเดียวกันกับที่นายกฯ นัดพูดคุยกับ “อนุทิน” และเป็นวันเดียวกับที่พรรคภูมิใจไทย นัดประชุมกรรมการบริหารพรรค และสส.ท่ามกลางการจับตาไปที่การประกาศทิศทางของ “พรรคสีน้ำเงิน” ต่อเกมหักดิบที่เกิดขึ้นในเวลานี้

หากไล่ลึกทั้ง 20 รายชื่อ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นตัวละครสำคัญทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น  เนวิน ชิดชอบ  “ครูใหญ่สีน้ำเงิน”  อนุทิน  ไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์พรรคภูมิใจไทย และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ลูกชายครูใหญ่ รวมไปถึงสส.และอดีตสส.กลุ่มบ้านใหญ่  

 ภายใต้บริบทการเมือง ไม่มีอะไรที่บังเอิญ 2 ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นภายในวันเดียวกัน ย่อมถูกตีความไปที่ "เกมเอาคืน" อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น  

เห็นชัดถึงอาการที่ฝั่งสีน้ำเงินเปิดเกมเร็ว รุกกลับ ทั้งตัว “อนุทิน” ที่ถูกออกหมายเรียก ส่งสัญญาณไปถึง “นายกอิ๊งค์” ระหว่างพูดคุยบนตึกไทยคู่ฟ้า เชื่ออย่างสนิทใจว่า “มีผู้ไม่หวังดี ต้องการให้มีแผล”

หรือ “กรวีร์ ปริศนานันทกุล” สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย พุ่งเป้าไปที่เกมการเมือง “เขาอาจมีโจทย์ที่อยากยุบพรรคหรือไม่ แต่จากการพิจารณาเนื้อหาที่เป็นข้อกล่าวหานั้น ไม่มีรายละเอียดใดๆ ระบุไว้ชัดเจนในพฤติการณ์”

ไม่ต่างจาก “ชาดา ไทยเศรษฐ์” สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ออกโรงเตือนไปถึงคนเขียนบท “อย่าพยายามเบี่ยงเบนแล้วใช้อำนาจรัฐมาข่มขู่กัน...ภูมิใจไทยจะอยู่หรือไป ไม่เกี่ยวกับกรรมการบริหารพรรค ไม่สามารถมากดดันพรรคภูมิใจไทยได้ เราอยู่อย่างพรรคการเมืองที่มีเกียรติยศและศักดิ์ศรี”

 ทั้ง 2 ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นภายในวันเดียวกัน ทั้งปมร้อนปรับครม. หรือโพยฮั้วสว.ที่ส่อแววเล่นแรงถึงขั้นล้างกระดานสีน้ำเงิน ย่อมทิ้งไว้ซึ่งบาดแผลลึกในใจให้กับ “ครูใหญ่สีน้ำเงิน” ภายใต้เดิมพันจะ “อยู่” หรือ “ไป” หลังจากนี้ 

แม้ก่อนหน้านี้“อนุทิน” จะพูดถึงสมการที่พรรคูมิใจไทย ที่อาจพลิกขั้วไปเป็นฝ่ายค้าน หากถูกยึดคืนกระทรวงมหาดไทย แก้เกี้ยวว่า เป็นการถามนำของนักข่าว 

ทว่า หากจับอาการของ “ฝั่งสีน้ำเงิน” จะเห็นได้ชัด ถึงการส่งบทกันเป็นทอดๆ มีการปล่อยสูตร “น้ำเงิน” จับมือ “ส้ม” ออกมาเป็นระยะ  

ทั้งในส่วนของ “อนุทิน” ไล่ตั้งแต่ วันที่ 29 พ.ค.2568 ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2569 “อนุทิน”  ให้สัมภาษณ์ ถึงโอกาสจับมือพรรคประชาชน “หากอนาคตนโยบายไปกันได้ ก็ไม่ควรมีข้อจำกัด”

ถัดมาวันที่ 13 มิ.ย.2568 “อนุทิน” ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ตอบคำถามถึงความมั่นใจที่จะได้นั่งตำแหน่งรมว.มหาดไทย ด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มั่นใจ”

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หากไม่ได้จริงๆ พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “พร้อมครับ”

เดิมพัน‘2นาย’ใครถอย-รุก  ภท.โยนโจทย์‘ทักษิณ’กล้าหัก?

จนกระทั่งวันที่17 มิ.ย. “อนุทิน” อนุทินพูดอย่างชัดเจน หากถูกยึดคืน กระทรวงมหาดไทย พรรคภูมิใจไทย "พร้อมถอนตัวร่วมรัฐบาล"  

หรือในส่วนของ “ชาดา” ที่พูดเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ว่า “พรรคภูมิใจไทยมีเกียรติยศและศักดิ์ศรีจะอยู่หรือไปคนตัดสินใจคือนายกฯ แต่พรรคภูมิใจไทยเรายืนอยู่ในเกียรติยศและศักดิ์ศรี ของการเป็นพรรคการเมือง พร้อมที่จะทำงานทุกด้าน”

จังหวะของ “พรรคสีน้ำเงิน” ในเวลานี้ ถูกจับตาว่า พร้อมที่จะถอยไปเป็นฝ่ายค้านจริง หรือแท้จริงแล้วภูมิใจไทยที่พยายามเดินสายเปิดตัวสส.ต่างพรรค โชว์เสียงในมือในเวลานี้ จะแค่ต้องการวัดใจว่า “นายใหญ่” จะกล้าผลักภูมิใจไทยเป็นฝ่ายค้านหรือไม่

อย่าลืมว่า ด้วยสมการรัฐบาล 324 เสียง ท่ามกลางความปั่นป่วนในซึกรัฐบาลเวลานี้ ขณะที่กระแสพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้ท็อปฟอร์มคุมเสียงเบ็ดเสร็จเหมือนแต่ก่อน หากมีการผลักพรรคใดพรรคหนึ่งออก ต้องมั่นใจถึงจำนวนเสียงที่เหลืออยู่ เพื่อไม่ให้เจอเกมตลบหลังเอาคืนในภายหลังได้

ฉะนั้นสูตร“น้ำเงิน” จับมือ“ส้ม” ที่ถูกโยนหินออกมาในเวลานี้  ลึกๆ แล้ว ภูมิใจไทยอาจแค่ต้องการเปิดเกมขู่ ส่งสัญญาณไปยังไปถึง “นายใหญ่” หากในสมการขั้วรัฐบาลไม่มี “สีน้ำเงิน” พรรคเพื่อไทยก็ย่อมอ่อนแอลง จนกระทั่งเข้าสู่โหมดนับถอยหลังในท้ายที่สุด 

เดิมพันเกม “2 นาย” ท่ามกลางฉากรุก-เกมรบ ที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ ถึงที่สุดจะนำไปสู่การเปิดตำนาน “มันจบแล้วครับนาย”เวอร์ชั่นใหม่หรือไม่ เชื่อว่าอีกไม่นาน น่าจะได้รู้กัน