‘ฮั้ว สว.’ เกมเสี่ยง สีน้ำเงิน งัดแผนสอง สู้หักดิบ ‘ปรับครม.’

‘ฮั้ว สว.’ เกมเสี่ยง สีน้ำเงิน งัดแผนสอง สู้หักดิบ ‘ปรับครม.’

เกมช่วงชิงเก้าอี้และยื้อยุดอำนาจทางการเมืองระหว่างเพื่อไทย และภูมิใจไทย มีราคาที่ต้องจ่ายสูงลิบทั้งคู่ ไม่ว่าฝ่ายใดจะกำชัย หรือเพลี้ยงพล้ำ ในจังหวะปรับครม. ที่เริ่มมีเค้าชัดเจนขึ้น

KEY

POINTS

  • และแล้ววันนี้ก็มาถึง หมายเรียก เน-หนู และบรรดาลูกเทพ กับหมายเรียกฮั้ว สว. ที่ส่งถึงบ้าน 
  • ในจังหวะขยับปรับครม. เก้าอี้ มท.1 ทำท่าเปลี่ยนจะถูกทาสีแดงทับสีน้ำเงิน กับเงื่อนไขหักดิบ และเดิมพันเป็นฝ่ายค้าน 
  • การเปิดปฏิบัติการดูดสส.ก๊วนมะขามหวาน และ ไทยสร้างไทย อาจเป็นแผนหนึ่งของสีน้ำเงินที่จะถูกนำมาใช้ในระยะอันใกล้ 

 

บรรยากาศในพรรคร่วมรัฐบาล ความตึงเครียดพุ่งสูงปรี๊ดคู่ขนานไปกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งท่าทีของรัฐบาลเริ่มขึงขังต่อผู้นำเพื่อนบ้านขึ้นเป็นลำดับ หลังอดทนใจเย็นมานาน 

เกมเขย่าขวดปรับครม. ตามไทม์ไลน์ที่กำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ ปฏิบัติการหักดิบยึดเก้าอี้กระทรวงมหาดไทย จากอ้อมอกอนุทิน ชาญวีรกูล แห่งภูมิใจไทย มีโอกาสสูงและเป็นไปได้ค่อนข้างมาก ว่าจะถูกนำมาใช้ 

ดูปฏิกิริยาของแกนนำค่ายสีน้ำเงิน ก็เหมือนได้สัญญาณไม่สู้ดีนักหรือไม่ จนทำเอานั่งไม่ติด ต้องโชว์พลังให้เห็นความมั่นใจ ว่ารับมือสถานการณ์ตรงนี้ได้ และเหมือนมีแผนสองสำรองไว้แล้ว หากสถานการณ์ไม่เป็นใจ  

ภาพการพูดคุยของเนวิน ชิดชอบ กับ สันติ พร้อมพัฒน์ หัวหน้าก๊วนมะขามหวาน ถูกปล่อยออกมาในจังหวะที่ภูมิใจไทย เจอมรสุมรุมเร้า ทั้งเรื่องการปรับครม. และสุ่มเสี่ยงยุบพรรค จากเคสฮั้ว สว. หลังคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง คณะที่26 ออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องในขบวนการ ล็อต7 จำนวน20คน ที่ล้วนเป็นเบอร์ใหญ่ เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนพรรคสีน้ำเงิน ทั้งในทางพฤตินัยและนิตินัย 

แกนนำพรรคภูมิใจไทยหลายคนต่างยืดอกยอมรับ ว่าโดนหมายเรียก เช่น อนุทิน ที่ระบุพร้อมไปตามหมายเรียก แม้จะรู้ว่าเป็นเรื่องการเมือง มาจากใครอะไรอย่างไร “คนในวงการรู้กันอยู่แล้ว แต่เราพูดไม่ได้ ก็สู้ไปตามกฎหมาย”  

เกมเพิ่มเสียงสส.ของภูมิใจไทย อาจถูกตีความในทันทีว่าพรรคนี้กำลังวางหมากรองรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหรือไม่  หากถูกเขี่ยพ้นวงโคจรอำนาจ

ความพยายามดึงเสียง สส. ที่มีโอกาสสูงจะโหวตสนับสนุนรัฐบาลเพื่อไทย จึงอาจถูกบิ๊กสีน้ำเงินหยิบมาใช้ เพื่อสกัดเสียงของรัฐบาลให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 

พูดง่ายๆ คือ ถ้าสถานการณ์บังคับ ให้ต้องเป็นฝ่ายค้านจริง ก็ต้องมีมาตรการตอบโต้ หรือสวนกลับ เพื่อทำให้รัฐบาลอยู่ในภาวะปริ่มน้ำให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้  

เพราะไม่บ่อยครั้งนักที่เนวิน จะยอมให้มีรูปตัวเองหลุดกระจายเป็นข่าวแบบตั้งใจเหมือนครั้งนี้ที่มีการนัดคุยกับสันติ ซึ่งคุมเสียง6สส.เพชรบูรณ์ พลังประชารัฐ หมากนี้เหมือนตีตราจองว่าก๊วนมะขามหวานเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเรียบร้อย ก่อนจะมีการปล่อยภาพภาพอนุทิน เดินคู่กับสันติ ออกมาสำทับ หลายคนที่เห็นก็พอเดาถูกว่าใช้โรงแรมดังในซอยรางน้ำ ฐานบัญชาการสำคัญของค่ายน้ำเงิน เป็นสถานที่พูดคุยนั่นเอง 

กรณี 2สส. อุดรธานี พรรคไทยสร้างไทย อย่าง อดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ และหรั่ง ธุระพล เปิดหน้าเปิดตัวไปต้อนรับอนุทินและคณะเมื่อสุดสัปดาหืที่ผ่านมา ในการลงพื้นที่อุดรฯ ก็น่าจะยิ่งตอกย้ำแนวทางเพิ่มเสียงของภูมิใจไทย ที่ต้องการใช้งานในระยะอันใกล้นี้ ยังไม่น่าจะเป็นการเตรียมตัวเลือกตั้งครั้งต่อไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เพื่อไทยและกล้าธรรม ต่างอ้างว่าตัวเองคุมเสียงของฝ่ายค้านอย่างไทยสร้างไทย มาตลอด

แต่สถานการณ์การเมืองสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว หากเกมหักดิบภูมิใจไทยเกิดขึ้นจริง แรงกระเพื่อมหรือเอฟเฟ็กต์ก็อาจย้อนกลับมากระแทกนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ได้ ไม่ทางใดทางหนึ่ง 

การเลือกตั้งเร็วกว่ากำหนดอาจเกิดขึ้นได้ บางก๊วนที่ค่ายน้ำเงินดีลโชว์ตัวเอาไว้ ก็อาจต้องพับแผนทำพรรคใหม่ จำเป็นต้องย้ายมาร่วมงาน เพราะเวลามันฉับพลันทันด่วน เตรียมตัวไม่ทัน

เกมช่วงชิงเก้าอี้และยื้อยุดอำนาจทางการเมืองระหว่างเพื่อไทย และภูมิใจไทย มีราคาที่ต้องจ่ายสูงลิบทั้งคู่ ไม่ว่าฝ่ายใดจะกำชัย หรือเพลี้ยงพล้ำ ในจังหวะปรับครม. ที่เริ่มมีเค้าชัดเจนขึ้น

รัฐมนตรีหลายคนเหมือนได้สัญญาณบางอย่างมาแล้ว ช่วงสุดสัปดาห์นี้ ต่อเนื่องไปถึงต้นสัปดาห์หน้า คิวงานโล่ง เลยต้องจับตาว่าเพื่อสแตนบายกำหนดการณ์สำคัญอะไรหรือไม่