ครึ่งเทอมรัฐบาล ‘ช็อกมินต์’ขม ปมร้อน-เกมร้าว เขย่า 'แพทองธาร'

ครึ่งเทอมรัฐบาล ‘ช็อกมินต์’ขม  ปมร้อน-เกมร้าว เขย่า 'แพทองธาร'

จากจุดเริ่มต้นของ “รัฐบาลช็อกมินต์” ภายใต้สูตร “ผสมข้ามขั้ว” อันหวานละมุน เมื่อเวลาผ่านไป อาจถึงคราว “ขม”

KEY

POINTS

  • จุดเริ่มต้นของ “รัฐบาลช็อกมินต์” ภายใต้สูตร “ผสมข้ามขั้ว” อันหวานละมุน เมื่อเวลาผ่านไป อาจถึงคราว “ขม”
  • ทั้งศึก “2 ก๊ก”ในพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นพรรคดีเอ็นเอ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ยามนี้ขยายปมร้าวกว้างขึ้นทุกที
  • เกมการเมืองที่เล่นกันแรงถึงขั้นปล่อยข่าวบีบรวมไทยสร้างชาติออกจากพรรคร่วมรัฐบาลทำให้ต้องลุ้นว่าบทสรุปของพรรคดีเอ็นเอ “ลุงตู่” จะแค่ถูกแยกขั้วเลือกข้างระหว่างนักการเมือง หรือจะถึงขั้นปิดตำนานในสนามการเมืองรอบหน้า
  • สงครามประสาท“แดง-น้ำเงิน” แต่คลื่นลมที่ดูเหมือนจะสงบนิ่งชั่วขณะ ยังมีสัญญาณพายุที่เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้งอย่าลืมว่า เวลานี้ต่างฝ่ายต่างติดบ่วง"นิติสงคราม"

จากจุดเริ่มต้นของ “รัฐบาลช็อกมินต์” ภายใต้สูตร “ผสมข้ามขั้ว” อันหวานละมุน เมื่อเวลาผ่านไป อาจถึงคราว “ขม” เพราะด้วยสภาวะที่ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จ เวลานี้จึงได้เห็นภาพการชิงไหวชิงพริบกันเป็นรายวัน 

กระแส “ปรับ ครม.” จนถึงนาทีนี้ ยังคงยื้อยุดฉุดกระชากกันไปมา อย่างไม่มีใครยอมใคร ไม่ต่างจากรอยร้าวในซีกรัฐบาลที่นับวันจะหนักข้อขึ้นทุกที 

ทั้งศึก “2 ก๊ก” ในพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นพรรคดีเอ็นเอ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ยามนี้ขยายปมร้าวกว้างขึ้นทุกที

ฝั่ง “สุชาติ ชมกลิ่น” รมช.พาณิชย์ รองหัวหน้าพรรค ที่มีแบ็กอัพเป็นนายทุน เปิดเกมแตกหัก ล่าชื่อ สส.21 คน เสนอนายกฯ “แพทองธาร ชินวัตร” ให้เปลี่ยนตัวรัฐมนตรี

 ขณะที่ “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค ให้สัมภาษณ์ซัดกลับอย่างดุเดือด เป็น “เอกสารเถื่อน”

“การที่บอกว่ารัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่มีความรู้ ไม่มีความสามารถ ไม่มีจริยธรรม ซึ่งลงชื่อโดย นายสุชาติ เห็นข้อความในเอกสารหรือไม่ แต่หากเห็นแล้ว ก็แปลว่า กำลังรับรอง และด่าตัวเองอยู่”

คล้อยหลัง 1 วัน ฝั่ง “สุชาติ” ก็ซัดกลับดุเดือด อ้างว่าฝั่ง “เลขาฯ ขิง” เคยเปิดดีล “ขอให้จับมือกัน ช่วยกันขับหัวหน้าพรรคออกไป แล้วเขาจะเป็นหัวหน้าพรรคเอง”

ครึ่งเทอมรัฐบาล ‘ช็อกมินต์’ขม  ปมร้อน-เกมร้าว เขย่า 'แพทองธาร'

 

มองตามหน้าเสื่อวันนี้ รวมไทยสร้างชาติแบ่งเป็น 2 ขั้วอย่างชัดเจน  คือฝั่ง “หัวหน้าพี-เลขาฯ ขิง” มี สส.ในมือ 15 คน แบ่งเป็น สส.บัญชีรายชื่อ 7 คน เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ วิทยา แก้วภราดัย ชัชวาลล์ คงอุดม จุติ ไกรฤกษ์ ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง อนุชา บูรพชัยศรี และศิริวรรณ ปราศจากศัตรู

ส่วน สส.เขต ประกอบด้วย ภาคกลาง 2 คน คือ อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และ พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร สส.นครปฐม 

ภาคเหนือ 2 คน คือ พงษ์มนู ทองหนัก สส.พิษณุโลก คนสนิทจุติ ไกรฤกษ์ และสัญญา นิลสุพรรณ สส.นครสวรรค์ สังกัดซุ้มหิมาลัย ผิวพรรณ

ภาคใต้ สส.สุราษฏร์ธานี 3 คน สายชุมพล กาญจนะ คือ กานสินี โอภาสรังสรรค์ ลูกสะใภ้ชุมพล วชิราภรณ์ กาญจนะ ลูกสาวชุมพล  และธานินท์ นวลวัฒน์  รวมถึง นิติศักดิ์ ธรรมเพชร สส.พัทลุง ลูกชาย วิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง

ขณะที่สาย “สุชาติ” และ “นายทุน” มี สส.ตามรายชื่อ ที่ปรากฏผ่านสื่อ 21 คน แยกเป็น สส.บัญชีรายชื่อ 6 คน ได้แก่ สุชาติ ชมกลิ่น พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ เกชา ศักดิ์สมบูรณ์ เกรียงยศ สุดลาภา ชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ และธนกร วังบุญคงชนะ

สส.เขต 15 คน แยกเป็นซุ้มเสี่ยเฮ้ง 3 คน คือ จิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส.ชลบุรี ธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ สส.เพชรบุรี และอภิชาติ แก้วโกศล สส.เพชรบุรี 

สายภาคกลางอีก 2 คนคือ อนุชา นาคาศัย สส.ชัยนาท และกุลวลี นพอมรบดี สส.ราชบุรี

สส.ภาคใต้ ได้แก่ ศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช ถนอมพงษ์ หลีกภัย สส.ตรัง และวัชระ ยาวอหะซัน สส.นราธิวาส

สส.สุราษฎร์ธานี 3 คนคือ พันธ์ศักดิ์ บุญแทน  ปรเมษฐ์ จินา และพิพิธ รัตนรักษ์

หากรวมกับ “3 สส.ชุมพร” คือ วิชัย สุดสวาทดิ์  สันต์ แซ่ตั้ง และสุพล จุลใส ที่ก่อนหน้านี้ออกมาปฏิเสธ ว่าไม่ได้ร่วมลงชื่อในหนังสือดังกล่าว ก็จะเป็น 21 คน ตามที่ปรากฏหน้าสื่อ

ครึ่งเทอมรัฐบาล ‘ช็อกมินต์’ขม  ปมร้อน-เกมร้าว เขย่า 'แพทองธาร'

 น่าสนใจว่า ในส่วนของ “พันธศักดิ์” และ “ปรเมษฐ์” ที่ปรากฏชื่อใน 21 สส. ที่สุชาติรวบรวมทีม เป็น สส.ในซุ้ม “กำนันศักดิ์” พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว อดีตนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ที่ลาออกจากพรรครวมไทยสร้างชาติ เวลานี้เป็นแม่ทัพภาคใต้ พรรคกล้าธรรม 

จึงต้องจับตา เส้นทางการเมืองที่ได้รับการโอบอุ้มโดย “กำนันศักดิ์” ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา “2 สส.” จะเลือกเดินต่อไปในทิศทางใดหลังจากนี้ 

 ถึงปิดคราวตำนานพรรคดีเอ็นเอ “ลุงตู่”? 

สถานการณ์ในพรรค รทสช. ถึงนาทีนี้ยังต้องลุ้น เมื่อมีการวิเคราะห์กันว่า ทั้งกรณีที่ “วิชัย สุดสวาสดิ์” สส.ชุมพร ออกตัวในนาม สส.ชุมพรทั้ง 3 เขต ปฏิเสธไม่ได้ร่วมลงชื่อเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี หรือกรณีก่อนหน้านี้ ที่มี สส.ออกมาโต้แย้ง ว่าถูกเคลมชื่อ 

ส่วนหนึ่งอาจเกิดจาก หลงกล“มังกรน้ำเค็ม” ไล่เลียงมา ตั้งแต่การปล่อยรูปดินเนอร์มื้อค่ำ จนถึงกรณีล่าชื่อ อีกส่วนอาจมาจากบรรดาคีย์แมนทั้ง “หน้าฉาก” และ “หลังฉาก” ที่อยู่ระหว่างเปิดดีลเจรจาต่อรอง เกลี้ยกล่อมให้เปลี่ยนใจ หรืออีกส่วนอาจเป็นเพราะยังไม่อยากเปิดตัวชัดเจน เนื่องจากวาระรัฐบาล อีก 2 ปีที่เหลือ อะไรๆ อาจเปลี่ยนแปลงได้เสมอ 

โดยเฉพาะกลุ่ม สส.ภาคใต้ ซึ่งรอบที่ผ่านมา หลายพื้นที่ได้กระแส "ลุงตู่" อาจอยู่ในช่วงชั่งน้ำหนักบวก ลบ คูณ หาร ประเมินความคุ้มค่า รวมถึงผลประโยชน์ตอบแทน

แน่นอนว่า ศึก “2 ก๊ก” ที่กำลังเกิดขึ้นในพรรครวมไทยสร้างชาติเวลานี้ แต่ล่าสุด มีสัญญาณจาก “นายกฯ แพทองธาร” หลังได้รับหนังสือพร้อมรายชื่อ 21 สส. โดยบอกว่า เป็นเรื่องของพรรค รทสช. ที่ต้องไปเคลียร์กันเอง 

เกมการเมืองที่เล่นกันแรงถึงขั้นปล่อยข่าวบีบรวมไทยสร้างชาติออกจากพรรคร่วมรัฐบาลทำให้ต้องลุ้นว่าบทสรุปของพรรคดีเอ็นเอ “ลุงตู่” จะแค่ถูกแยกขั้วเลือกข้างระหว่างนักการเมือง หรือจะถึงขั้นปิดตำนานในสนามการเมืองรอบหน้า

 สงคราม “แดง-น้ำเงิน” คลื่นลูกใหม่

ไม่ต่างจากศึกดุลอำนาจแดง-น้ำเงิน ท่ามกลางข่าวคราว “ปรับ ครม.” แม้ล่าสุดเกมกระชับอำนาจ “สีน้ำเงิน” ที่เพื่อไทยต้องการยึดคืนกระทรวงมหาดไทยกลับไปอยู่ในการดูแลในฐานะพรรคแกนนำ ตามความต้องการของ “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่เพื่อไทย หวังปั๊มผลงานในช่วงครึ่งเทอมหลัง

ทว่า ล่าสุดได้ถูกตัดบท ด้วยท่าทีขึงขังของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่พูดถึงประเด็นปรับ ครม.เก้าอี้ รมว.มหาดไทย ว่า ไม่มีอะไรต้องตกลงกันแล้ว ทุกอย่างจบตั้งแต่กิน ‘ช็อกมินต์’ 

พร้อมเน้นไปที่การพูดคุยกับ “นายกฯ แพทองธาร” ผู้มีอำนาจสูงสุด แทนที่จะเป็น “นายใหญ่เพื่อไทย” ผู้ออกมาเปิดประเด็นยึดคืนกระทรวงมหาดไทย

หากจับอาการจากทางฝั่งเพื่อไทย ผ่านสงครามตัวแทน ไม่ว่าจะเป็น “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ก็ยืนกรานเช่นเดียวกันว่า  “พรรคที่มาร่วมรัฐบาลเห็นด้วย พรรคนั้นก็เข้ามา การคุยเพื่อตั้งรัฐบาล ไม่ใช่คุยว่าจะให้ตำแหน่งอะไรกับใคร ต้องเข้าใจก่อนว่า เราคุยเรื่องนโยบายที่จะทำงาน ถ้าเห็นด้วยก็มาร่วม ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องมาร่วม” ภูมิธรรม สวนกลับในมุมเพื่อไทย ที่ยึดการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ไม่ใช่ตำแหน่ง

ถึงเวลานี้ แม้จะมีกระแสศึก “2 ก๊ก” รวมไทยสร้างชาติมากลบกระแส สงครามประสาท “แดง-น้ำเงิน” แต่คลื่นลมที่ดูเหมือนจะสงบนิ่งชั่วขณะ ยังมีสัญญาณพายุที่เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง 

อย่าลืมว่า เวลานี้ต่างฝ่ายต่างติดบ่วง"นิติสงคราม" ทั้งกรณี “นายใหญ่” ที่มีกรณีชั้น 14 ค้างคาอยู่ในองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไหนจะเดือนก.ค.ที่ศาลนัดไต่สวนในคดี ม.112 

ขณะที่ “ฝ่ายสีน้ำเงิน” เองก็ติดบ่วงในคดีโพยฮั้ว สว.ซึ่งมีผู้ถูกออกหมายเรียกไปแล้ว 6 ล็อต บรรดา “ตัวละครลับ” ทยอยถูกเปิดชื่อออกมาเป็นระยะ หากเกมการเมืองเล่นกันแรง ก็อาจรุกหนักไปถึงขั้น "ยุบพรรค" กันเลยทีเดียว  

เวลานี้ จึงได้เห็นการวางเกมของ “นายใหญ่สีน้ำเงิน” ผ่านสงครามตัวแทน ในหลายฉาก ยกตัวอย่างกรณีที่  “ชาดา ไทยเศรษฐ์” สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ฉะเดือดกลางสภาฯ ถล่มยับนโยบายแจกเงินดิจิทัลหมื่นบาท “เรือธง”พรรคเพื่อไทย โดยส่งเสียงเตือนว่า ต้องแจก ไม่แจก “นายกฯเท้ง” มาแน่!

ครึ่งเทอมรัฐบาล ‘ช็อกมินต์’ขม  ปมร้อน-เกมร้าว เขย่า 'แพทองธาร'

ล่าสุด ยังมีกรณีที่ไล่บี้กลาง กมธ.งบประมาณ ถล่มนโยบายการคลัง ซึ่งอยู่ในกำกับดูแลพรรคเพื่อไทย 

หรือแม้แต่กรณี “สว.สีน้ำเงิน” นำทีมโดย “มงคล สุระสัจจะ” ประธานวุฒิสภา สายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์ นำทีมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา(วิปวุฒิสภา) แถลงเรียกร้องให้นายกฯ แพทองธาร เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ให้มีการอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาทเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา

จึงไม่พ้น ถูกตีความถึงการฉวยจังหวะ เดินเกมรุกของฝั่งสีน้ำเงิน สู้กลับด้วยการหยิบยกประเด็นไทย-กัมพูชามาขยี้แผลในสภาฯ 

หากไล่เช็กชื่อผู้ที่อยู่ในวงแถลงดีๆ แม้จะดำเนินการในนามวิปวุฒิสภา แต่ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็น “สว. สายสีน้ำเงิน” ที่ถูกหมายเรียกในคดีโพยฮั้ว สว.แทบทั้งสิ้น

สถานการณ์ครึ่งเทอมหลังของรัฐบาลแพทองธาร ที่เผชิญวิบากการเมืองรอบด้าน อาจไม่คาดคิดว่า จาก“ช็อกมินต์” ที่รสหวานละมุน กำลังมีรสขมผสมอย่างไม่รู้ตัว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์