สว.สำรองปูดแจกกล้วย 5-10 ล้านแลกล้มคดีฮั้ว สว. ให้กำลังใจ กกต.ทำต่อ

สว.สำรองปูดแจกกล้วย 5-10 ล้านแลกล้มคดีฮั้ว สว. ให้กำลังใจ กกต.ทำต่อ

กลุ่ม สว.สำรอง ปูดมีแจกกล้วย 5-10 ล้าน แลกล้มคดีฮั้ว สว. ขอ กกต.ยืนหยัดไม่หวั่นกระแสกดดัน ด้านสำนักงานฯ แพร่ข้อมูล ดำเนินการเสร็จ 436 เรื่อง อยู่ระหว่างทำ 155 เรื่อง

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะ สว.สำรอง นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว เดินทางเพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนกรณีการ ฮั้ว สว. โดย พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า คณะกรรมการสืบสวนไต่สวนชุดที่ 26 ซึ่งขณะนี้ได้มีการเรียก สว.เข้ารับทราบข้อกล่าวหา และชี้แจงข้อเท็จจริง คาดว่าจะมีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการซึ่งเป็นชุดสุดท้ายในเร็วๆ นี้ และสัปดาห์หน้าจะสรุปสำนวนไปยังฝ่ายกฎหมาย เพื่อส่งไปยังคณะอนุกรรมการวินิจฉัย เมื่อพิจารณาเสร็จแล้วก็จะส่งเรื่องไปยัง กกต.ทั้ง 6 คน เพื่อมีมติส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งดำเนินการ

“แต่ในระหว่างทางมีมือที่มองไม่เห็น ปากที่มองไม่เห็นพยายามส่งเสียงมา รวมถึงมือฮั้วยังส่งกล้วยเข้ามายัง กกต. ทาง สว.สำรองจึงมีความเป็นห่วง และขอให้ กกต. ทั้ง 6 คน ซึ่งทราบข่าวมาว่ามี 2 คนจะลาออก ขอให้นิ่งจากกระแสกดดันต่างๆ และใช้สติปัญญาความกล้าหาญ และตั้งใจการทำภารกิจการตรวจสอบกระบวนฮั้ว สว.ให้เรียบร้อย ก่อนที่จะตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งเพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนที่ กกต. บางคนจะครบวาระ รวมถึงขอให้ตัดสินใจบนพื้นฐานข้อเท็จจริง ขาวคือขาว ดำคือดำ” พล.ต.ท.คำรบ กล่าว

ขณะที่ นายอัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล หนึ่งในกลุ่ม สว.สำรอง กล่าวว่า สว.สำรองมาวันนี้เพื่อต้องการให้นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ได้ยืนหยัดทำหน้าที่ในการตรวจสอบกระบวนการฮั้วเลือก สว. โดยใช้ข้อมูลของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน ชุดที่ 26 ที่กำลังจะสรุปสำนวนเพื่อส่งให้ กกต.พิจารณา ทาง สว.สำรองขอให้กกต.ทั้ง 6 คน ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างซื่อสัตย์สุจริต ตรงไปตรงมา โดยไม่หวั่นเกรงกระแสข่าวกดดันให้ กกต.ลาออก และไม่ทิ้งอุดมการณ์ ขณะนี้มีกระแสข่าวว่ามีความพยายามอย่างหนักในการที่จะเคลียร์ และใช้อามิสสินจ้างโดยใช้เงินทองมาล้มการตรวจสอบการเลือก สว.ในครั้งนี้ เป็นจำนวนเงินกว่า 7 หลัก จึงขอให้ กกต.อย่าหลงกล

“มีความพยายามติดต่อเพื่อขอเคลียร์คดีนี้ให้ล้มการเอาผิดขบวนการฮั้ว สว. มีการเสนอให้เงิน 5-10 ล้านบาท แต่มีข้าราชการที่เห็นแก่ประเทศชาติไม่ปล่อยปละละเลยในเรื่องนี้ จึงไม่ตอบรับ และบอกว่ากระบวนการเดินทางไปไกลแล้ว กำลังจะเสร็จสิ้นด้วยการนำคนผิดไปลงโทษ โดยการเสนอเงินให้ต่อรายซึ่งรวมๆ ทั้งสิ้นเป็นเงินนับพันล้านบาท จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ทุกรายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา” นายอัครวัฒน์ กล่าว

ส่วน พ.ต.อ.มนัส นครศรี อดีตผู้ตรวจการเลือกตั้งจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า หลังจากได้ให้เวลา กกต.ในการพิจารณาเอาผิดทางวินัยนายแสวง ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ กกต. แล้วไม่มีความคืบหน้า ตนจึงมอบหลักฐานต่างๆ รวมถึงรายชื่อสว.ร้อยกว่าคนที่ถูกให้รับทราบข้อกล่าวหามามอบให้กับ พ.ต.อ.เดชเดชา เดชารชต อดีตข้าราชการตำรวจประจำศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 9 จ.ยะลา เพื่อนำไปร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดคณะกรรมการ กกต.ทั้ง 6 คนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบในวงราชการ (ปปป.) เนื่องจากเห็นว่า กกต.ปล่อยปละละเลยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิสุทธิ์ ทรัพย์วิจิตร นักร้องชื่อดังในฐานะ สว.สำรอง ได้ร้องบทเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับกล้วย ว่า “กล้วยจริงๆ มีประโยชน์มากมาย แต่ถ้ากล้วยแบบนั้นกินมากไปติดคุกแน่ กล้วยนั้นมันมีประโยชน์มากมาย ถ้าไอ้กล้วยพันธุ์นั้นกินเข้าไปติดคุกแน่ ติดคุกแน่ๆ” นอกจากนี้ ยังได้ร้องเพลงให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารในการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องเอกราชของไทย โดยร้องเพลงต้นตระกูลไทย ก่อนพูดปิดท้ายว่า “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบมิขลาด แต่ที่ดินของชาติคืนมาก่อนนะจ๊ะ” 

ทั้งนี้ วันเดียวกัน (11 มิ.ย.) สำนักงาน กกต.เผยแพร่ข้อมูลความคืบหน้าการพิจารณาคำร้อง / สำนวนเรื่องคัดค้านการเลือกสมาชิกวุฒิสภา 591 เรื่อง ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้จัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับอำเภอ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2567 ระดับจังหวัด เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2567 และระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 นั้น

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอประชาสัมพันธ์การพิจารณาคำร้อง / สำนวนเรื่องคัดค้านการเลือกสมาชิกวุฒิสภา มีจำนวนทั้งสิ้น 591 เรื่อง (ข้อมูล ณ วันที่ 9 มิถุนายน 2568) โดยมีรายละเอียดดังนี้

คำร้อง / ความปรากฏ จำนวน 591 เรื่อง

1. ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 436 เรื่อง ประกอบด้วย

1.1 พิจารณาคำร้องแล้ว จำนวน 256 เรื่อง
- สั่งไม่รับ / รวบรวมเป็นข้อมูล จำนวน 124 เรื่อง
- สั่งยกคำร้อง / สั่งยุติเรื่อง จำนวน 130 เรื่อง
- สั่งนับคะแนนใหม่ จำนวน 2 เรื่อง

1.2 วินิจฉัยชี้ขาดสำนวนแล้ว จำนวน 180 สำนวน
- ยกคำร้อง จำนวน 155 สำนวน
- ระงับสิทธิ จำนวน 2 สำนวน
- ดำเนินคดีอาญา จำนวน 10 สำนวน
- ยื่นคำร้องต่อศาล จำนวน 13 สำนวน

สว.สำรองปูดแจกกล้วย 5-10 ล้านแลกล้มคดีฮั้ว สว. ให้กำลังใจ กกต.ทำต่อ

อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 155 เรื่อง ประกอบด้วย
- สืบสวน / ไต่สวน 11 สำนวน
- สนง.กกต. เสนอสั่งไม่รับ / รายงานตรวจสอบ / รายงานตรวจมูล จำนวน 4 สำนวน
- สนง.กกต. สรุปสำนวน / จัดทำความเห็น เลขาธิการ กกต. จำนวน 39 สำนวน
- สนง.กกต. เสนอสำนวนต่อคณะอนุกรรมการวินิจฉัย ฯ จำนวน 41 สำนวน
- สนง.กกต. อยู่ระหว่างเสนอสำนวนเข้าวาระการประชุม กกต. จำนวน 60 สำนวน

ในการนี้ เมื่อคณะกรรมการสืบสวน และไต่สวนได้รับสำนวนแล้ว จะดำเนินการตามขั้นตอน
การพิจารณาคำร้อง / สำนวน ดังนี้

ขั้นที่ 1 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด เมื่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ได้รับสำนวนแล้ว ให้ดำเนินการสืบสวนหรือไต่สวน และจัดทำความเห็น เพื่อเสนอให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมีความเห็นประกอบสำนวน เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ให้จัดส่งสำนวนไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ส่วนกลาง) โดยเร็ว

ขั้นที่ 2 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(ส่วนกลาง) ได้รับสำนวนจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแล้วให้พนักงานสืบสวนและไต่สวนผู้รับผิดชอบสำนวน ดำเนินการวิเคราะห์สำนวนและจัดทำความเห็นเห็นเสนอผ่านผู้อำนวยการฝ่าย รองผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการสำนัก และเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ได้รับมอบหมาย)

สว.สำรองปูดแจกกล้วย 5-10 ล้านแลกล้มคดีฮั้ว สว. ให้กำลังใจ กกต.ทำต่อ

ขั้นที่ 3 คณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง เมื่อคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งได้พิจารณาแล้วจะทำความเห็น และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอสำนวนให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณา

ขั้นที่ 4 คณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับสำนวนจากคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งแล้ว ต้องพิจารณาชี้ขาดหรือสั่งการโดยเร็ว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์