'โฆษก รทสช.' เชื่อสถานการณ์พรรคจะดีขึ้น หลังผู้ใหญ่คุยกัน

"โฆษก รทสช." บอก เป็นเรื่องของ "เอกนัฎ-สุชาติ" คุยเพื่อเคลียร์ปัญหากัน ประเมินทิศทางของพรรคจะดีขึ้นเรื่อยๆ เมินบทสรุปซ้ำรอย พปชร.
ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส. ราชบุรี และโฆษก รทสช. กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งภายในพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการนัดประชุมอะไรเพื่อแก้ปัญหา เพราะอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร และสส.ลงพื้นที่ ขณะที่ในกลุ่มไลน์พรรคไม่ได้พูดคุยอะไร เข้าใจว่านายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ฐานะเลขาธิการพรรค ได้ชี้แจงผ่านสื่อต่างๆ ไปครบถ้วนแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง
เมื่อถามว่ากังวลว่าจะกระทบฐานเสียงหรือไม่ นายอัครเดช กล่าวโดยเชื่อว่าประชาชนในพื้นที่ต้องติดตาม และฟังเลขาธิการพรรค โดย สส.ทุกคนเคารพในการทำหน้าที่ของเลขาธิการพรรค ทั้งฝั่งที่มีชื่อและไม่มีชื่อในหนังสือขอให้ปรับรัฐมนตรีในโควตาพรรค เข้าใจว่ายังอยู่ในพรรครวมไทยสร้างชาติ
เมื่อถามว่ากรณีที่เลขาธิการพรรค ระบุว่าเอกสาร ที่เปิดออกมาเป็นการปลอมลายเซ็นของสส. นายอัครเดช กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของ สส. เจ้าของลายเซ็นที่ต้องเอามาชี้แจงเอง ตนตอบไม่ได้ ว่าเป็นลายเซ็นจริงหรือไม่ ซึ่งตนยังไม่ได้พูดคุยกับเพื่อนสส.รวมถึงหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคฯ ยังไม่ได้มีการสื่อสารทางไลน์ของพรรค แต่คิดว่าคงจะมีการสื่อสารทางอื่น คือโทรศัพท์พูดคุยกันมากกว่า เหมือนอย่างที่เลขาธิการพรรคฯ บอกว่า ได้โทรคุยกับสส.แต่ละคน ซึ่งรายละเอียดต้องรอเลขาธิการพรรคฯ ออกมาชี้แจงจึงจะชัดเจน
เมื่อถามว่านายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ประกาศว่า ไม่สามารถพูดคุยกับนายเอกนัฏได้ นายออัครเดช กล่าวว่าโดยหลักใหญ่ ตนคิดว่าคงจะต้องพูดคุยกัน เพราะการพูดคุยเป็นเวทีในการแก้ปัญหา ปัญหาการเมืองต้องใช้การเมืองแก้ปัญหา เพราะทั้งนายเอกนัฏ และนายสุชาติก็เป็น รัฐมนตรีและ ผู้ใหญ่ของพรรคทั้งคู่ ดังนั้นการคุยกันจะเป็นทางออกในการแก้ปัญหา
เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีความพยายามล็อบบี้เพื่อนล้มนายพีระพันธ์ุหรือไม่ นายอัครเดชกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นสส.ของพรรคไม่เคยได้ยินดีลนี้ แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรต้องไปถามจากนายสุชาติ ตนตอบแทนไม่ได้
เมื่อถามว่าจะเร่งแก้ไขปัญหาภายในพรรคอย่างไร นายอัครเดช กล่าวว่า เชื่อว่าสถานการณ์ของพรรค จะค่อยๆดีขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะทุกคนได้แสดงความคิดเห็นออกมาแล้ว หลังจากนี้ น่าจะเป็นเวทีการพูดคุยกันในพรรค เมื่อเปิดสมัยประชุมสภา คงเรียกประชุมพรรคและพูดคุยแก้ปัญหา และเชื่อว่าหากมีการพูดคุยกันสถานการณ์ภายในพรรคจะดีขึ้น และคิดว่าพรรครวมไทยสร้างชาติยังไปต่อได้ โดยพยายามทำให้พรรคเป็นที่พึ่งของประชาชน
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะซ้ำรอยพรรคพลังประชารัฐ นายอัครเดชกล่าวว่า บริบทของ 2 พรรคต่างกัน ไม่เหมือนกัน ทั้งบุคคลและสถานการณ์ และเหตุการณ์ต่างๆ ดังนั้นตนคิดว่าอย่าไปด่วนสรุป ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะเหมือนพรรคพลังประชารัฐ เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติมาถึงจุดนี้ได้ จากการสนับสนุนของประชาชน เมื่อมีปัญหา จึงคิดว่าผู้บริหารพรรค จะต้องกลับไปคิดถึงประชาชน
"คาดหวังว่าจะมีการพูดคุยกันในพรรค โดยไม่ได้พูดคุย กันทั้งสองฝ่าย เพราะเลขาธิการพรรคบอกแล้วว่าไม่มีฝ่าย พร้อมจะดูแลสส.ทั้ง 36 คน แต่อาจจะมีการคลาดเคลื่อนและสื่อสาร ที่ไม่ครบถ้วนบ้าง ก็ต้องพูดคุย จึงเชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ" นายอัครเดช กล่าว
เมื่อถามว่าคิดว่านายสุชาติ จะใช้โมเดลเหมือนพรรคกล้าธรรมที่แยกตัวออกจากพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายอัครเดช ย้ำว่า บริบทของ 2 พรรคไม่เหมือนกัน ตนไม่เคยได้ยินว่า นายสุชาติจะใช้โมเดลพรรคกล้าธรรม ทั้งนี้ตนมองว่าทั้งนายสุชาติและนายเอกนัฎมีเจตนาดี ที่อยากให้พรรคทำงานให้กับประชาชน จึงคาดว่าการพูดคุยจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้.