DNA‘ลุงตู่’ พันธุกรรมยุ่งเหยิง เฮ้งกร้าว พังพีฯ เขย่า‘รทสช.’

เส้นทางการเมืองแบบสุชาติ ที่เปี่ยมไปด้วยความทะเยอทะยาน และพร้อมแลกกับทุกความสัมพันธ์ จะทะยานต่อไปได้มากน้อยแค่ไหน บางทีเจ้าตัวก็อาจจะยังไม่มีคำตอบ
KEY
POINTS
- รวมไทยสร้างชาติ แบ่งแยกชัดเจน2ฝ่าย กำลังยื้อแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีกันฝุ่นตลบ
- แรงกระเพื่อมภายพรรค จากก๊วนสุชาติ เป็นตัวบ่งบอกได้อย่างดี ว่าต้องการนั่งว่าการเพื่อเก็บกระสุนไว้ใช้เลือกตั้งครั้งหน้า
- สไตล์ของพีระพันธุ์ ที่ห่างเหิน สส. ก็ยิ่งเปิดช่องให้ฝ่ายตรงข้ามในพรรคมีพลัง เขย่ารมว.พลังงาน
สภาพภายในพรรครวมไทยสร้างชาติ นาทีนี้ดูไม่จืด กับปรากฎการณ์ 2 ก๊ก ช่วงชิงการอำนาจการนำ และตำแหน่งรัฐมนตรี
ปฏิบัติการ 21 สส. นำโดยสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ รองหัวหน้าพรรค ที่ล่าชื่อชงนายกฯ ปรับครม. เปลี่ยนตัว
เป้าใหญ่คือ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค และเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค
ไม่ต้องแปลกใจในท่าทีสุชาติ ที่เล่นใหญ่โชว์พลัง หวังขึ้นชั้นรัฐมนตรีว่าการ การรวบรวมเสียง สส.ในพรรค เพื่อสร้างอำนาจต่อรองจึงเข้าทาง แถมได้พันธมิตร คือนายทุนใหญ่หนุนหลัง เพราะมีศัตรูคนเดียวกัน คือพีระพันธุ์ เลยจูบปากไปกันได้
การได้เป็น รมช.พาณิชย์ รอบนี้ของสุชาติ ก็เพราะออกอาการฮึดฮัด มีสส.ต้องดูแล จนผู้บริหารพรรคยอมเปลี่ยนตัว เสนอชื่อไปแทน อนุชา นาคาศัย ที่ขณะนั้นนั่ง รมช.เกษตรฯ และก็ได้นายทุนคนนั้นช่วยดันอีกแรง จนได้โลดแล่นมาถึงวันนี้
จังหวะที่กำลังพิจารณางบประมาณปี 69 และนับถอยหลังใกล้เลือกตั้งไปทุกขณะ ในความคิดสุชาติ อาจมองว่า แค่ รมช.คงไม่เพียงพอ เพราะจำเป็นต้องสะสมกระสุนสู้ศึก เลยต้องสร้างแรงกระเพื่อมอีกรอบ ทำนองว่า ได้คืบจะเอาศอก เพราะเคยทำมาแล้วและได้รับการตอบสนอง
สไตล์ของพีระพันธุ์เอง ความแข็งก็กลายเป็นจุดอ่อนได้ จึงเปิดช่องให้ลูกพรรคที่ไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ แท็กทีมเตะตัดขา ในจังหวะที่งานยังคามือ ทั้งร่างกฎหมายควบคุมกิจการน้ำมัน ร่างกฎหมายสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) และร่างกฎหมายส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งก็เจอแรงต้านจากฝ่ายเสียประโยชน์ หัวหน้าพีฯ เลยสะบักสะบอม รับศึกหนัก ทั้งการบ้านและการเมือง
พรรค DNA ลุงตู่ หลังไร้ผู้นำจิตวิญญาณ ทำเอาพันธุกรรมผ่าเหล่าผ่ากอจนดูยุ่งเหยิง ไม่เหมือนตอนลุงยังอยู่ พูดอะไรใครก็ฟัง แต่พอลุงไม่อยู่ อาการฟิวส์ขาดก็เกิดกับพีระพันธุ์เป็นแถว สัญชาตญาณนักการเมือง แย่งชิง ฟาดฟันเพื่อผลประโยชน์ ล้วนทำได้ทุกอย่าง
ความอ่อนแอของรวมไทยสร้างชาติ ที่ฐานเสียงหลักอยู่ภาคใต้ กำลังเข้าทางพรรคคู่แข่งอื่นๆ ที่เจาะพื้นที่สำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ กระแสตัวบุคคลอาจไม่มีให้โหนอีกแล้ว
สส.ปัจจุบันหลายคนที่เพิ่งเป็นสมัยแรก โดยเฉพาะที่ร่วมเฟรมโชว์ตัวกับสุชาติ ก็อาจเป็นกังวลว่า รอบหน้าจะสอบตก หรือไม่ถูกส่งลง ก็เลยไม่ต้องคิดอะไรมาก
น้ำบ่อนี้จึงสำคัญกว่าน้ำบ่อหน้า ใครหยิบยื่นอะไรให้ ก็ต้องคว้าไว้ก่อน หลายคนอาจไม่ทันเกมล่าชื่อ เลยมีคนลูบปาก เพราะมีข้อสังเกตว่า เอกสารเซ็นชื่อที่หลุดออกมา ว่ากันว่า วัตถุประสงค์จริงๆ ใช้เพื่อการณ์หนึ่งในเรื่องรับเรื่องแจก แต่กลับถูกใครบางคนหยิบฉวยแอบอ้างหาประโยชน์ทางการเมือง
3 สส.ชุมพร ที่ออกมาปฏิเสธ ว่าไม่เคยลงชื่อสร้างเงื่อนไขให้นายกฯ ปรับครม. ก็อาจหลงกล หรือไม่ทันเหลี่ยมคูใครบางคนหรือไม่
การเร่งเกมแตกหักของสุชาติ ตามมาด้วยเดิมพันทางการเมืองของตัวเองสูงลิบ เพราะไม่มีใครการันตีได้ว่า จะได้อัพเกรดเก้าอี้รัฐมนตรีใหญ่ขึ้นตามต้องการ หรือจะไม่เหลือแม้แต่ รมช.
การออกอาวุธแทนนายทุนหลังม่าน แน่นอนว่าผลตอบแทนอาจล่อตาล่อใจ บ้านใหม่ของก๊วนสุชาติ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด คงไม่แคล้วเป็นพรรคโอกาสใหม่ แต่ถ้ารอบนี้พังพีฯ ล้มเหลว นายทุนจะเลือกใช้งานต่ออีกหรือไม่
สถานการณ์เลือกตั้งรอบหน้าในพื้นที่ชลบุรี แม่ทัพเฮ้งน่าจะลากเลือดอย่างเลี่ยงไม่ได้ ต้องเจอทั้งบ้านใหญ่คุณปลื้ม จากพรรคเพื่อไทย และบ้านน็อคดาวน์ สีส้ม พรรคประชาชน ที่กระแสยังแรง
2 แนวรบนี้ สำหรับบ้านใหม่ของเฮียเฮ้ง ที่เปิดศึกยืดเยื้อกันมา จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่า เส้นทางการเมืองแบบสุชาติ ที่เปี่ยมไปด้วยความทะเยอทะยาน และพร้อมแลกกับทุกความสัมพันธ์ จะทะยานต่อไปได้มากน้อยแค่ไหน บางทีเจ้าตัวก็อาจจะยังไม่มีคำตอบ