‘ทักษิณ’ ชนวนร้อน - แรงปะทุ ชั้น 14 ศึกปะทะ ‘หมอvsการเมือง’

“การเมือง” ที่กำลังปั่นป่วนจากเกมชิงไหวชิงพริบ ยังมีอีกหลายฉากหลายตอนให้ต้องลุ้นกันเป็นรายวัน “2ไทม์ไลน์” ที่ต้องจับตา
KEY
POINTS
- ท่ามกลางนิติสงครามที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ มี “2 ไทม์ไลน์” ที่ต้องจับตาคือ วันที่ 12 มิ.ย.68 ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ขณะที่วันที่ 13 มิ.ย.68 ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนกรณีการส่งตัว และรักษา “ทักษิณ” ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ
- ท่ามกลางเกมงัดข้อผ่าน “สงครามตัวแทน” ในเวลานี้ฝั่ง “นายใหญ่เพื่อไทย” ส่งบทผ่าน “รัฐมนตรีสมศักดิ์” สู้กลับแพทยสภา ขณะที่ “ฝั่งหมอ” เปิดเกมโต้ล่ารายชื่อ ติดแฮชแท็ก #เซฟแพทยสภา
- จังหวะเดียวกัน เกมเคลื่อนมวลชน ต่างนัดหมายชุมนุมในช่วงเวลาดังกล่าว
- ศึก “หมอ” กับ “การเมือง” อาจกำลังสุมเชื้อไฟการเมืองให้ลุกโชน
นาทีนี้ต้องถือว่า “รัฐบาลแพทองธาร” กำลังกรำศึกหนัก จากสารพัด “ศึกนอก-ศึกใน” ที่กำลังตีประชิด ทั้งประเด็น “เศรษฐกิจ” ท่ามกลางความผันผวนทั้งใน และนอกประเทศ ไม่ต่างจาก “การเมือง” ที่กำลังปั่นป่วนจากเกมชิงไหวชิงพริบ ยังมีอีกหลายฉากหลายตอนให้ต้องลุ้นกันเป็นรายวัน
วันที่ 9 มิ.ย.68 สรพล วีระเมธีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน บล.กสิกรไทย เปิดเผยสถานการณ์ ตลาดหุ้นไทย แกว่งในกรอบแคบ ด้วยมูลค่าการซื้อขายน้อยมาก เนื่องจากตลาดอยู่ระหว่างติดตามนัดเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ และจีนที่กรุงลอนดอนในสัปดาห์นี้
ขณะเดียวกัน ก็ยังจับตาสถานการณ์การเมืองในประเทศ ทั้งการปรับคณะรัฐมนตรี และการนัดไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณี “ทักษิณ ชินวัตร” พักรักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ ในวันที่ 13 มิ.ย.68 นี้
สะท้อนให้เห็นว่า ท่ามกลางนิติสงครามที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ มี “2 ไทม์ไลน์” ที่ต้องจับตาคือ วันที่ 12 มิ.ย.68 ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา โดยมีวาระร้อนที่ “แพทยสภา”จะต้องลงมติ ยืนยันมติเดิมเมื่อวันที่ 8 พ.ค.68 ที่ให้ลงโทษแพทย์ 3 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งตัว และรักษา “ทักษิณ” ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ หรือไม่
โดยเสียงที่จะยืนยันมติเดิมของแพทยสภา ให้ลงโทษแพทย์ทั้ง 3 คน จะต้องใช้จำนวน 2 ใน 3 ของกรรมการแพทยสภา คือ ต้องได้ 47 เสียงขึ้นไปจากทั้งหมด 70 เสียง
จับอาการ “นายใหญ่เพื่อไทย” ไล่ตั้งแต่การปรากฏตัวเมื่อวันที่ 27 พ.ค.68 ในเวทีปาฐกถาพิเศษ “ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน” ซึ่งมีสำนักงาน ป.ป.ส. ภายใต้การนำของ “ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม เป็นเจ้าภาพ
ถูกมองว่า เป็นการเซตวาระขึ้นมาเป็นการเฉพาะ เพื่อให้ “นายใหญ่” โชว์ตัวสยบข่าวลือหนีออกนอกประเทศ พร้อมตอบทุกประเด็นที่ผู้คนอยากรู้ โดยเฉพาะปมร้อนชั้น 14 ซึ่งเกมการเมืองกำลังเปิดฉากรุกอยู่ในเวลานี้
ตามมาด้วยสัญญาณจาก “ทักษิณ” ที่เปิดฉากฟาดฝั่งหมอ งัดไลน์หลุดเปิดประเด็น “จริยธรรม” ของบุคคลที่มี “ตำแหน่งสูงมาก” เสมือนเป็นตราประทับให้ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแพทยสภา ต้อง “วีโต้” มติแพทยสภาโดยปริยาย
อีกหนึ่งไทม์ไลน์ที่ต้องจับตาคือ วันที่ 13 มิ.ย.68 ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนกรณีการส่งตัว และรักษา “ทักษิณ” ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ
ล่าสุด มีสัญญาณมาจาก “นายใหญ่เพื่อไทย” ที่อาจจะไม่ไปปรากฏตัวที่ศาลในวันดังกล่าว โดยจะส่งทนายไปแทน
แน่นอนว่า ท่ามกลางเกมงัดข้อผ่าน “สงครามตัวแทน” ในเวลานี้ฝั่ง “นายใหญ่เพื่อไทย” ส่งบทผ่าน “รัฐมนตรีสมศักดิ์” หยิบยกประเด็นความถูกต้องชอบธรรมของมติแพทยสภาฯ 4 ประเด็น
1. อนุกรรมการจริยธรรมรับเรื่องร้องเรียน พิจารณาแล้วบอกว่ามีมูล จึงส่งเรื่องต่อให้คณะอนุกรรมการชุดที่ 2
2. อนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ถูกร้องที่ 1 (นพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข) ไม่มีความผิด ผู้ถูกร้องที่ 2 (พญ.รวมทิพย์) มีความผิด ให้ว่ากล่าวตักเตือน ผู้ถูกร้องที่ 3 (พล.ต.ท.นพ.โสภณรัชต์) มีความผิด ให้ภาคทัณฑ์ และผู้ถูกร้องที่ 4 (พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์) ไม่มีความผิด แล้วส่งเรื่องต่อให้คณะอนุกรรมการชุดที่ 3
3.อนุกรรมการกลั่นกรองจริยธรรม มีการเปลี่ยนแปลงโทษ ก่อนเสนอเรื่องให้แพทยสภา
4. แพทยสภา พิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ถูกร้องที่ 1 ไม่มีความผิด ผู้ถูกร้องที่ 2 มีความผิด ให้ว่ากล่าวตักเตือน ผู้ถูกร้องที่ 3 มีความผิด ให้พักใช้ใบอนุญาต และผู้ถูกร้องที่ 4 มีความผิด ให้พักใช้ใบอนุญาต
“ระยะเวลาสั้นๆ โทษถูกเปลี่ยนแปลงไปจากการพิจารณาอย่างไร ผมไม่ทราบ แต่โทษมีการเปลี่ยนแปลงไปจากอนุกรรมการสอบสวน ไปถึงอนุกรรมการกลั่นกรองฯ ไปถึงคณะกรรมการแพทยสภา จึงอยากรู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงเพราะอะไร” สมศักดิ์ ตั้งคำถาม
รมว.สธ. ยังมองว่า “หากปล่อยให้มีมาตรฐานในการลงโทษแพทย์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ จะทำให้เดือดร้อนกันไปหมด” หากการดำเนินการออกมาเป็นตามธรรมชาติ ก็จะไม่มีการออกมาโวยวาย ในอดีตตนก็ไม่ได้ยับยั้งอะไร เพราะไม่มีการร้องเรียนหรือร้องขอความเป็นธรรม เมื่อไม่มีการติดใจก็ผ่าน แต่เมื่อมีการขอความเป็นธรรมก็ควรพิจารณา
ขณะที่ “ฝั่งหมอ” เปิดเกมโต้กลับ ล่ารายชื่อ ติดแฮชแท็ก #เซฟแพทยสภา พร้อมขอให้ยืนยันมติในการพิจารณาให้ดำรงความถูกต้อง และเป็นธรรมตามมาตรฐานจริยธรรมของแพทยสภาอย่างครบถ้วน
จังหวะเดียวกัน เกมเคลื่อนมวลชน ต่างนัดหมายชุมนุมทั้งกลุ่ม คปท. และกองทัพธรรม ในวันที่ 11 มิ.ย.68 เพื่อให้กำลังใจแพทยสภา โดยนัดรวมตัวที่สะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล ก่อนเคลื่อนขบวนไปที่กระทรวงสาธารณสุข
ขณะที่ “หมอตุลย์” นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยประกาศเชิญพี่น้องแพทย์ และประชาชน มาร่วมให้กำลังใจ สนับสนุนแพทยสภาในวันที่ 12 มิ.ย.2568
ทั้งหมดทั้งมวลสะท้อนชัดถึงแรงปะทุ ระหว่าง“หมอ” กับ “การเมือง” ที่กำลังสุมเชื้อไฟการเมืองให้ลุกโชนในเวลานี้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์