'แสวง' แจงครั้งแรกปมถูกโยงฮั้ว สว. ปัดมือมืดบีบ ปธ.กกต.ลาออก

'แสวง' แจงครั้งแรกปมถูกโยงฮั้ว สว. ปัดมือมืดบีบ ปธ.กกต.ลาออก

'เลขา กกต.' แจงครั้งแรกปมถูกโยงฮั้ว สว. ลั่นพร้อมแจงทุกหน่วยงาน ปัดโต้ผ่านสื่อ ยังเหลืออีก 30 วันสอบเรื่องร้องเรียน ถ้าไม่จบต่อเวลาได้ ปัดมือมืดบีบประธาน กกต.ไขก๊อก

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อร้องเรียนการฮั้วเลือก สว. ว่า เรื่อง สว. น่าจะเป็นที่สนใจของประชาชนอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ขอชี้แจงว่า การเลือก สว.นั้น มีทั้งงานในส่วนที่ กกต.ทำหน้าที่ในงานตรวจสอบกรณีมีข้อร้องเรียนว่าการเลือก สว. เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ อีกด้านหนึ่ง กกต. ก็ถูกตรวจสอบเช่นกัน ซึ่งปรากฏตามข่าว 

นายแสวง กล่าวว่า ในส่วนของการตรวจสอบเรื่องความไม่สุจริต เที่ยงธรรมนั้นจริงๆ กกต.ได้ดำเนินการมาตามอำนาจหน้าที่ตามระเบียบสืบสวนสอบสวนมาโดยตลอด ตั้งแต่มีการประกาศผลการเลือก สว. เมื่อวันที่ 10 ก.ค 2567 ซึ่งตอนนั้นกกต.ได้แถลงว่า กกตได้ทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และตำรวจ โดยเมื่อผ่านมาครึ่งปี ก็ได้ปรับมาทำเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะวิธีการที่ดำเนินการในช่วงแรกเป็นการดำเนินคดีแยกเป็นรายบุคคล ซึ่งทำให้มองไม่เห็นความสัมพันธ์กัน และเมื่อมีการปรับรูปแบบมาทำร่วมกับดีเอสไอ โดยตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษขึ้น มาก็จะทำให้เห็นการทำงานภาพรวม เห็นความเชื่อมโยง 

“ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำงานของคณะกรรมการสืบสวนคณะพิเศษชุดที่ 26 ซึ่งได้ทำงานร่วมกันมาราวๆ  90 วัน แล้ว ทำทุกวัน ทั้งกลางวัน กลางคืน นั่นหมายความว่าเราจะเร่งการทำงานแต่ก็ต้องให้ ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้โอกาสในการมาชี้แจง ด้วยความที่การเลือกสว.มีความสลับซับซ้อน มีหลายชั้น ทั้งชั้นอำเภอ  จังหวัด และประเทศ รวมถึงมีรูปแบบ แต่เลือกที่สลับซับซ้อนเหมือนกัน แต่ขอยืนยันว่าคณะกรรมการสอบสวนยังทำงานทุกวันอย่างเอาใจใส่” เลขาธิการ กกต. กล่าว

นายแสวง กล่าวอีกว่า ส่วนกรอบเวลานั้นกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ แต่สำนักงานกำหนดเวลา ให้ตัวเองดำเนินการแล้วเสร็จ ภายใน 1 ปี ซึ่งจนถึงตอนนี้เหลือประมาณ 30 วัน ถือว่ายังมีเวลา และคณะกรรมการชุดสืบสวนฯ ก็เข้าใจ แต่หากเวลาเกินไปก็ไม่เสียหาย คณะกรรมการสืบสวนฯ สามารถขยายเวลาโดยให้เหตุผลและความจำเป็น ทั้งนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สิ้นกระแสความ ครบถ้วนสมบูรณ์และให้โอกาสทุกคนได้มาชี้แจง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็มีการเร่งรัดอยู่ 

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกต กกต.ทำงานล่าช้า และพูดถึงความเชื่อมโยงของตัวเลขาธิการ กกต. กับผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในขบวนการฮั้ว สว. นายแสวง กล่าวว่า ในส่วนที่เราถูกตรวจสอบ คือตัวเลขาธิการ กกต. ในฐานะผู้อำนวยการการเลือก สว.ระดับประเทศ ถ้าเห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ของ ผอ.การเลือกระดับประเทศ ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ผู้ร้องก็มีสิทธิไปร้องเรียน ที่ผ่านมาก็มีการไปร้องเรียนไว้หลายหน่วยงาน บางหน่วยงานก็จบแล้ว เช่น กรณีที่ร้องต่อศาลก็จบแล้ว 

"คนที่ตรวจสอบเขาก็มีสิทธิ์ที่จะร้องให้ตรวจสอบ ส่วนเราก็มีหน้าที่ที่จะชี้แจงต่อหน่วย ไม่ได้มีการชี้แจงผ่านสื่อเพราะจะกลายเป็นเรื่องของการโต้เถียงกันไปกันมา และเป็นการไม่เคารพต่อองค์กรที่ทำหน้าที่ในการตัดสิน ในส่วนของตัวผมเองก็ได้ไปชี้แจงและพร้อมที่จะได้รับการตรวจสอบจากทุกที่ ทุกแห่ง" นายแสวง กล่าว

เมื่อถามอีกว่า ขณะนี้มีกลุ่ม สว.สำรอง เรียกร้องให้เลขาธิการ กกต. หยุดปฏิบัติหน้าที่ ระหว่างที่มีการตรวจสอบ นายแสวง กล่าวว่า อย่างที่บอกเขาอาจจะเห็นว่าเลขาธิการ กกต.มีส่วนได้เสียอะไรหรือไม่ แต่ย้ำอีกครั้งว่าการร้องเรียน ซึ่งเป็นสิทธิ์ของท่าน แต่บางครั้งในกระบวนการแบบนี้ เหมือนการร้องขอหรือการกล่าวหา บางครั้งก็ต้องมีกระบวนการ ซึ่งการที่ท่านไปร้องต่อ 2-3 หน่วยงาน ซึ่งบางแห่งที่ไปร้องเรียนไว้ก็จบไปแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า ประธาน กกต.ถูกกดดันให้ลาออก และมีมือที่มองไม่เห็น หรือมีนายพล ส. คอยสั่งการทำงานของ กกต.และองค์กรอิสระ นายแสวง กล่าวว่า ไม่มีใครมาบีบ กกต. แต่ที่อื่นตนไม่รู้ ส่วนกรณีที่ 92 สว.ร้องขอความเป็นธรรมต่อ กกต.เกี่ยวกับการทำงานของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง คณะที่ 26 นั้น ขอเรียนว่า คณะกรรมการชุดนี้ตั้งโดยคำสั่ง กกต. ซึ่งที่ปฏิบัติหน้าที่จนมาถึงปัจจุบันก็ยังไม่เห็น กกต.มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงอะไร 

ซักอีกว่า เลขาธิการ กกต.จะต้องเข้าไปชี้แจง ในส่วนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการฮั้วเลือกสว.หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนเรียกมา รวมถึงคณะกรรมการ ไต่สวนชุดที่ 26 หรือกรณีที่ผู้ตรวจการเลือกตั้งสมุทรปราการที่อ้างว่าวันเลือกระดับประเทศ ได้แจ้งเบาะแสโพยฮั้วสว. เข้าสถานที่เลือก แต่ตนไม่ได้ดำเนินการอะไร ซึ่งตนก็อยากจะชี้แจงกับทุกที่มีอำนาจ แต่ไม่อยากชี้แจงผ่านสื่อ เพราะจะเป็นการโต้กันไปโต้กันมา หรือแม้แต่เรื่องที่อดีตผู้ตรวจการเลือกตั้งสมุทรปราการได้อ้าง กกต.ก็ได้วินิจฉัยจบไปแล้ว

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าคณะกรรมการสืบสวนฯ จะสรุปสำนวนและเสนอที่ประชุม กกต. พิจารณาในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ นายแสวง กล่าวว่า ขณะที่อยู่ในชั้นคณะกรรมการไต่สวน ซึ่งมีการทำงานเป็นขั้นตอนตามไปตามระเบียบสืบสวน จะข้ามขั้นตอนไม่ได้ ดังนั้นถ้าระดับคณะกรรมการสอบสวนเสร็จ ก็จะเข้าสู่การพิจารณาในชั้นสำนักงาน และอนุวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนและข้อโต้แย้งก่อนถึงไปสู่ที่ประชุมกกต. ย้ำว่าเรื่องนี้อยู่ในชั้นคณะกรรมการสอบฯ มีความเป็นอิสระว่าจะเรียกใครเข้ามาชี้แจง