ครบ 27 ปี 'กกต.' ยันเลือกตั้งโปร่งใส มีแค่ปัญหาทางธุรการ

'เลขาฯแสวง' ลั่น 27 ปี กกต.เจอการเมืองมาทุกรูปแบบ ยังไม่ถึงเป้าหมาย 'ปฏิรูปการเมือง' ยันระบบเลือกตั้งโปร่งใส ที่ผ่านมาอาจมีปัญหาทางธุรการบ้าง
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แถลงเนื่องในวันครบรอบ 27 ปี ของสำนักงาน กกต.ว่า ถ้าเปรียบกับคนเราก็เหมือนผ่านวัยหนุ่มสาวมาแล้ว โดยเจอการเมืองมาทุกรูปแบบ อย่างไรก็ตามได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนสื่อมวลชน ทั้งนี้งานของ กกต. เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เป็นเครื่องมือที่ทำให้การเมืองของประเทศเป็นไปด้วยดี
"เราเกิดเพราะบ้านเมืองเราต้องการการเมืองที่ดี ต้องการปฏิรูปการเมือง ซึ่งกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญมาทั้ง 3 ฉบับ ในเรื่องของการปฏิรูปการเมืองแสดงว่ามันยังไม่ไปไหน ไม่ได้ใกล้เป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญปี 40, 50 หรือ 60 ก็ยังพูดเรื่องการปฏิรูปการเมือง เราแทบจะว่าได้ว่าเป็นหน่วยงานหลักหรือหน่วยงานเจ้าภาพ แต่งานเราจะสำเร็จไม่ได้ เพราะการเมืองจะดีได้ ต้องดีด้วยพลเมือง ไม่ใช่ดีได้ด้วยกกต. เราแค่เป็นหน่วยงานที่เข้ามารับเป็นสื่อกลางในการทำงานตรงนี้" นายแสวง กล่าว
นายแสวง กล่าวอีกว่า ในการทำการเมืองที่ดีมีงานหลักๆที่กกตจะต้องทำอยู่ 3 เรื่อง
1. การเตรียมพลเมืองที่เอื้อต่อ การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราอยากได้การเมืองแบบไหนคนก็ต้องมีลักษณะเป็นแบบนั้นนี่คือโจทย์ใหญ่ สำนักงานกกตเป็นเจ้าภาพในการขับเคลื่อนให้พลเมือง มีคุณลักษณะหรือวัฒนธรรมการเมืองที่เอื้อต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
2. สนับสนุนพรรคการเมือง ประเทศ ประชาธิปไตยทุกประเทศที่ศิวิไลแล้วพรรคการเมืองเป็นสถาบันหลักในการพัฒนาการเมือง เราก็หวังว่าจะได้ร่วมมือกับพรรคการเมืองในการทำงานตรงนี้ให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันหลักในการพัฒนาการเมืองของประเทศตามที่ทุกฝ่ายมุ่งหวังไว้
3. การจัดการเลือกตั้ง ที่ศิวิไลแล้วพรรคการเมือง ซึ่งในการจัดการเลือกตั้งอาจจะมีปัญหาในทางธุรการ แต่ตนยืนยัน ณ ตรงนี้ว่าการเลือกตั้งของประเทศไทย มีกระบวนการโปร่งใสที่สุด โดยสิ่งที่เรากำหนดไว้ในการเลือกตั้งทุกครั้งทุกประเภท มี 4 หลัก คือหลักแรกคือความโปร่งใสซึ่งเป็นเรื่องสากล อยู่ในปฏิญญาสากล หลักที่ 2 ความเป็นอิสระ คือประชาชนลงคะแนนอย่างเป็นอิสระไม่อยู่ภายใต้การนัดหรือภายใต้การบังคับของใครหรือองค์กรใด หลักที่ 3 คือการมีส่วนร่วม ให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างมีคุณภาพและปริมาณ และหลักที่ 4 คือการอำนวยความสะดวก
“ถ้าการเลือกตั้งมีข้อสงสัยหรือ มีเหตุอันควรสงสัยเราก็จะติดผลสอบสวนเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม โดยให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาและผู้ร้องเรียน ให้โอกาสในการชี้แจงจนได้ข้อเท็จจริงจนสิ้นกระแสความ เราทำงานบนข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง” นายแสวง กล่าว
นายแสวง กล่าวด้วยว่า ส่วนที่จะทำต่อไป ซึ่งในปี 67 มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา การเลือกตั้งท้องถิ่น 2 ประเภท และต่อจากนี้ก็จะมีการเลือกสมาชิกและนายกอบต. และเลือกผู้ว่ากทม. และเมืองพัทยา ซึ่งอยากให้ประชาชนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งเข้ามามีส่วนร่วม ส่วนสำนักงาน กกต.จะทำงานการเลือกตั้งทุกงาน
"ขอย้ำด้ว้ยว่าเราทำงานทุกวัน ไม่เคยหยุดนิ่ง แม้กระทั่งเสาร์อาทิตย์ ยังทำงานในเรื่องของการให้ความรู้ ร่วมกับประชาชน เราขอแสดงเจตจำนงไว้ตรงนี้ เรามีความมั่นคงที่จะทำหน้าที่ร่วมกับประชาชนพรรคการเมืองข้าราชการ องค์กรต่างๆ ที่จะทำการเมืองให้ดีเพื่อให้การบริหารจัดการบ้านเมืองดี ซึ่งจะเกิดผลกับประชาชนคนไทยทุกคนเมื่อเราเห็นความสำคัญว่าการเมืองมีผลต่อชีวิตเราอย่างไร" เลขาธิการ กกต.กล่าว