เปิด!เอกสาร 'กองทัพ' แจง ต่างชาติ ปมไทย-กัมพูชา ป้องอธิปไตย ตัดอาชญากรรมโลก

เปิดหนังสือ "กองทัพ" แจงผู้ช่วยทูตทหาร 42 ประเทศ 26 สำนักงาน เปิด-ปิดด่านไทย-กัมพูชา ป้องอธิปไตย ตัดวงจรสกัดอาชญากรรม-สแกมเมอร์
-พนัน-ค้ามนุษย์ สร้างผล
กระทบทั่วโลก
9 มิ.ย.2568 กองทัพไทยเปิดหนังสือแจ้งขั้นตอนการปฏิบัติของกองทัพว่ากำลังดำเนินการอะไร ต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาผู้ช่วยทูตทหาร 42 ประเทศ สำนักงานผู้ช่วยทูตทหารไทยต่างประเทศ 26 สำนักงานว่า
ศูนย์อํานวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ศอ.ปชด.) การสนับสนุนกองทัพบกและกองทัพเรือในการป้องกันอธิปไดยและปกป้องประชาชนชาวไทย ต่อกรณีสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
จากสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณตามแนวชายแดนไทยกับกัมพูชา โดยปัจจุบันมีกําลังติดอาวุธ ของฝ่ายกัมพูชาได้วางกําลังรุกล้าอธิปไตยของไทย
ทั้งนี้ รัฐบาล กระทรวงกลาโหมและกองทัพบก ได้ใช้ความพยายาม อย่างถึงที่ สุดในการคลี่คลายความตึงเครียดตามแนวชายแดน โดยใช้กลไกทวิภาคีที่มีการตกลงกันไว้ กับกัมพูชา แต่ไม่ได้รับการตอบสนองในเชิงบวกจากฝ่ายกัมพชา ทั้งยังปรากภว่ากัมพูชาได้มีการเพิ่มเติมกําลังพล อาวุธและยุทโธปกรณ์เข้ามาประชิดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และมีการดัดแปลงที่มั่นทางทหารซึ่งอาจมีความเสี่ยง ที่เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบแก่พี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน กองทัพบกและกองทัพเรือ ภายใต้มติสภาความมั่นคงแห่งชาติและตามนโยบายของกระทรวงกลาโหม จึงได้กําหนดมาตรการควบคุมการเปิด-ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภทเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณาภาพแห่งดินแดน ซึ่งเป็นไปตามคําสังกองทัพบก (เฉพาะ) ที่ 806/2568 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2568 และคําสั่งกองทัพเรือ (เฉพาะ) ที่ 447/2568 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2568 ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนมาตรการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนดังกล่าว จึงให้หน่วยงานภายใต้กลไก ศอ.ปชด. ดําเนินการดังนี้
1. ให้จังหวัดชายแดนในฐานะศูนย์สังการชายแดนไทยกับประเทศเพือนบ้านด้านกัมพูชา และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ให้การสนับสนุนกองกําลังสุรนารี กองกําลังบูรพา และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี
2. ให้สํานักงานตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้มงวดการผ่านเข้า-ออก ตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ของบุคคลและกลุ่มบุคคล โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการกระทําความผิดที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีและบ่อนการพนัน อาทิ พื้นที่ชายแดนอําเกอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ อําเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว อําเภอโป่งนําร้อน จังหวัดจันทบุรี และอําเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด
นอกจากนั้นยังปรากฏข่าวสารว่ามีบุคคลและกลุ่มบุคคลยังคงมีการกระทําผิดด้านอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี และการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นการบ่อนทําลายสภาพเศรษฐกิจและสังคม ทั้งภายในประเทศไทย และประเทศต่างๆ ทั่วโลก ดังนั้นเพื่อให้การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ศอ.ปชด. จึงมีมาตรการ ดังนี้
1. แจ้งให้ฝ่ายกัมพูชาเร่งรัดปราบปรามผู้ก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ในทุกพื้นที่ทันที จับกุมและบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระท่าความผิดรวมถึงผู้สนับสนุนทั้งหมด
2. จะได้ยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามฯ อาทิเช่น การตัดกระแสไฟฟ้า การระงับสัญญาณ อินเตอร์เน็ตที่ส่งเข้าไปในพื้นที่ที่เป็นบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ การควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ที่อาจจะใช้การก่ออาชญกรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ โดยจะได้นําเสนอมาตรการดังกล่าวต่อ สภาความมั่นคงแห่งชาติต่อไป
ทั้งนี้ ศอ.ปชด. จะอำนวยการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กําหนดข้างต้น ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และเพื่อรักษาผลประโยชน์แห่งชาติโดยไม่ให้กระทบต่อการดำรงชีวิตประจ้าวัน ของพี่น้องประชาชนบริเวณชายแดน พร้อมทั้งจะได้ติดตามสถานการณ์อย่างไกล้ชิดและพิจารณาเพิมเติมมาตรการ ที่จําเป็นจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายต่อไป