'พรรคร่วม'สู้กลับเมินแลกโควตา 'ภูมิใจไทย' หัก 'เพื่อไทย'

'พรรคร่วม'สู้กลับเมินแลกโควตา 'ภูมิใจไทย' หัก 'เพื่อไทย' ไม่ปรับครม.ผลงานผ่านเคพีไอพรรค รทสช.‘พีระพันธุ์-เอกนัฏ’สายแข็ง เก้าอี้เดิม
KEY
POINTS
- โจทย์ใหญ่ของ "ทักษิณ - เพื่อไทย" ในเกมปรับครม. อยู่ที่ปฏิบัติการยึด "กระทรวงมหาดไทย" คืนจาก "พรรคภูมิใจไทย" หยุดการขยายเครือข่ายของ "เครือข่ายสีน้ำเงิน"
- ก่อนหน้านี้ท่าทีของ "อนุทิน ชาญวีรกูล" ค่อนข้างโอนอ่อน ยอมถอยให้ ทว่าล่าสุด "เนวิน ชิดชอบ" ผู้นำตัวจริง เตรียมสู้กลับ กอดดีลเดิม
- จับตาการเคลื่อนเกมของ "เนวิน" ผ่าน "ภูมิใจไทย" อาจจะออกมติพรรค เพื่อแสดงเจตจำนงค์ไม่แลก - ไม่เปลี่ยน ทุกกระทรวงที่ "รัฐมนตรี" จาก "ภูมิใจไทย" นั่งอยู่
กระแสข่าวปรับ คณะรัฐมนตรี วนลูปมากว่า 6 เดือน ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่งผลให้บรรดาข้าราชการกระทรวงเกียร์ว่าง รอความชัดเจน ส่วน“ภาคธุรกิจ”ลังเลที่จะลงทุน เพราะเกรงว่านโยบายรัฐบาลจะแตกต่างไปจากเดิม
เหตุผลสำคัญ อยู่ที่ความเห็นของ “ 2 นายกฯ” ไม่ตรงกัน อดีตนายกฯ ทักษิณ ต้องการหักดิบ “พรรคภูมิใจไทย” ยึดกระทรวงมหาดไทยคืนจาก อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยนั่งอยู่ พร้อมท้าชน “เครือข่ายสีน้ำเงิน”
แตกต่างจาก นายกฯแพทองธาร ที่พยายามประคับประคองไม่ให้ “พรรคร่วมรัฐบาล” เดินเข้าสู่จุดแตกหัก เพราะสงครามชิงอำนาจระหว่างขั้วสีแดง และขั้วสีน้ำเงิน นอกจากจะเดิมพันอำนาจแล้ว ยังเดิมพันความอยู่รอดปลอดภัยของ “ตระกูลชินวัตร” ด้วย
ทว่า ปฏิบัติการ “เครือข่ายสีน้ำเงิน - ครูใหญ่สีน้ำเงิน” ยังเดินเกมรุกไม่มีหยุด โดย"พรรคสีน้ำเงิน” วางเครือข่ายฝังรากลึกระดับท้องถิ่น ล้ำแดน“พรรคสีแดง”ไปมาก รวมถึง “สว.สีน้ำเงิน” ที่เดินหน้าปฏิบัติการ วางคนของเครือข่ายสีน้ำเงินเข้าสู่ “องค์กรอิสระ”
จังหวะก้าวของ “เครือข่ายสีน้ำเงิน” บีบให้ “ทักษิณ - ตระกูลชินวัตร” ต้องสู้กลับ ด้วยการเดินเครื่องคดี “ฮั้ว สว.” เดินหน้าทลายเครือข่ายท้องถิ่นสีน้ำเงิน ด้วยการปรับครม. และเตรียมยึดกระทรวงหลักจากภูมิใจไทย
แม้ท่าทีของ "นายกฯแพทองธาร” ในช่วงก่อนเดือน มิ.ย. จะยืนยันเสียงแข็ง ว่ายังไม่ปรับ ครม. แตกต่างจากช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา “เบอร์หนึ่งตึกไทยคู่ฟ้า” เริ่มเปลี่ยนท่าที โดยแบ่งรับแบ่งสู้ว่า กำลังพิจารณาปรับ ครม.
สำหรับแนวทางปรับ ครม.ตามแนวทางของมีบารมีเหนือพรรคเพืี่อไทย “ทักษิณ" ต้องการแลกกระทรวงกับ “ภูมิใจไทย” ซึ่งต้องเจรจากันให้ลงตัว
โจทย์ที่เปิดออกมา คือ “มหาดไทย” ที่เพื่อไทยอยากได้กลับ ส่วนจะเอากระทรวงใดไปแลก ขึ้นอยู่กับการต่อรอง เพราะมีกระแสวัดใจออกมาจากภูมิใจไทยเช่นกันว่า หากเอากระทรวงคมนาคมมาแลก เพื่อไทยจะยอมหรือไม่
ขณะเดียวกัน ก็มีการโดยหินถามทางกันไปมาว่า หากเป็นกระทรวงพาณิชย์ พ่วงโควตา รมว. หรือ รมช. อีกหนึ่งเก้าอี้ มีความเป็นไปได้แค่ไหน แต่ยังไม่มีสัญญาณตอบรับจากภูมิใจไทย
อย่างไรก็ตาม “สูตรแลกกระทรวง” ยังมีอีกหลายแนวทาง ที่ระหว่าง 2 พรรคนี้ จะยื่นหมูยื่นแมวกัน ขึ้นอยู่กับว่า “ทักษิณ - เนวิน” ตัวจริงเสียงจริงของสองฝ่าย ต้องเปิดโต๊ะเจรจากันให้ได้เสียก่อน ทุกอย่างจึงจะคลี่คลาย
จับตามติภท.ยึดโควตากระทรวงเดิม
สำหรับท่าทีของ “อนุทิน” ที่อยู่ในอาการไหวหวั่น จากเดิมที่เคยโอนอ่อนตามคำขู่ของ “ค่ายสีแดง” พร้อมที่จะถูกปรับเปลี่ยน แม้ต้องกระเด็นพ้น “มหาดไทย” หากได้คุม “กระทรวงเกรดเอ”อื่น ก็ไม่มีปัญหา
ทำให้ถูกตีความว่า ภูมิใจไทยอาจต้องสยบยอม เพราะหวังจะอยู่ในสมการพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป
ทว่า ล่าสุด "ครูใหญ่เนวิน" มีความชัดเจน พร้อมสู้กลับ โดยก๊อกแรก ไม่ยอมรับเงื่อนไข ตามที่ “ทักษิณ” จะยึดคืน “มหาดไทย”
ยุทธศาสตร์ของภูมิใจไทย จึงเตรียมเปิดเกมสู้กลับ โดยจะใช้มติพรรค ยืนยันโควตารัฐมนตรีเดิม กระทรวงเดิม โดยไม่มีการสลับสับเปลี่ยนแม้แต่กระทรวงเดียว เนื่องจาก “ภูมิใจไทย” มีดัชนีชี้วัดความสำเร็จ หรือ KPI การทำงานของ“รัฐมนตรี” ในทุกกระทรวง
โดยพร้อมจะยืนยันว่า การทำงานของรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย อยู่ในเกณฑ์ผลงานดี ไม่มีปัญหาการทำงาน จึงไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี
จับตาว่า ภายในสัปดาห์นี้ “เนวิน - ลูกพรรคสีน้ำเงิน” จะขับเคลื่อนกำลังรบเต็มรูปแบบ เพื่อสกัด “ทักษิณ - เพื่อไทย” ไม่ให้รุกกินแดนโดยมีสถานะ “พรรคร่วมรัฐบาล” เป็นเดิมพัน
ลูกพรรคพท.ขยับขอแทรกโควตา
ขณะเดียวกัน บรรยากาศภายในพรรคเพื่อไทย เริ่มมี “นักวิ่ง” สบโอกาสในช่วงปรับ ครม. พยายามเดินสายพูดคุยกับ “เจ้าของโค้ดลับ” ทั้ง V1 - V2 - V3 เพื่อส่ง “พ่อ - พี่ - น้อง” ให้มีชื่ออยู่ในโผรัฐมนตรี
โดยส่วนใหญ่ เป็นชื่อ“รัฐมนตรีหน้าเก่า” ที่เคยดำรงตำแหน่งในยุครัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน อาทิ จักรพงษ์ แสงมณี อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ชลน่าน ศรีแก้ว อดีต รมว.สาธารณสุข สุทิน คลังแสง อดีตรมว.กลาโหม
ทว่า “นายใหญ่ - นายน้อย” เพื่อไทย ไม่ต้องการให้ “ขุนพลพรรค” ออกมาเคลื่อนไหวต่อรอง เพื่อไม่ให้กระทบต่อโจทย์หลักที่ต้องต่อรองกับ “พรรคร่วมรัฐบาล”
ต้องติดตามว่าเมื่อมี “นักวิ่ง” พยายามสอดแทรกเข้ามาอยู่ในโผรัฐมนตรีค่ายแดง “ทักษิณ - แพทองธาร” จะตอบสนองหรือไม่
"พีระพันธุ์-เอกนัฏ"โควตาเดิม
ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรครวมไทยสร้างชาติ ภายหลัง สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ออกมาเขย่า “หัวหน้าพี” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ รมว.พลังงาน และ “เลขาฯขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม โชว์รูปนัด สส. รทสช. ร่วมวงรับประทานอาหาร ส่งสัญญาณเตรียมยกทีมไปร่วมงาน “พรรคโอกาสใหม่” ทำให้ รทสช.สั่นคลอนพอสมควร
ว่ากันว่า “สุชาติ” ต้องการล้ม “พีระพันธุ์ - เอกนัฏ” จึงระดมสส.ไปร่วมงาน “บิ๊กเนมหลังม่าน” พร้อมคาดหวังว่า ดีลนี้ จะส่งผลให้ได้นั่งเก้าอี้ รมว.อุตสาหกรรม ส่วนโควตา “รมว.พลังงาน” จะกลับอยู่ในโควตาของ “บิ๊กเนมหลังม่าน” เช่นเดิม
ล่าสุด “พีระพันธุ์ - เอกนัฏ” สู้กลับ ส่งสัญญาณให้ สส. เลือดแท้ รทสช. แถวตรง โดยเช็คยอดนับจำนวน บลั๊ฟคืนทบต้นทบดอก
ศึกใน รทสช. อีกไม่นาน จะมีคำตอบว่า สส.รทสช. จะเลือกไปต่อกับ “พีระพันธุ์ - เอกนัฏ” หรือย้ายข้างไปกับ “สุชาติ - บิ๊กเนม”
"งูเห่า"ผิดนัด-"กล้าธรรม"พลาดเป้า
ด้าน"พรรคกล้าธรรม" ภายใต้การนำของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์พรรค ถือได้ว่า เสียรังวัดพอสมควร หลังจากเคยประกาศเอาไว้ว่า มี “11 สส.งูเห่า” สแตนด์บายรอสัญญาณ แต่การโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2569 ที่เป็นตัวชี้วัด กลับไร้เงา “11 สส.งูเห่า” จน “บิ๊กเพื่อไทย”ผิดหวัง และส่งผลต่อเกมปรับ ครม.ไม่ง่ายอย่างที่คาด
อีกทางหนึ่ง โอกาสที่ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม จะถูกโยกกลับไปนั่ง รมช.คลัง ก็ถูกปิดตายเช่นกัน หลังจากมือมืดแจ้งแผนลับรุกคืบกระทรวงคลัง ส่งผลให้พรรคกล้าธรรม ยังคงโควตา รมว.เกษตรฯ ต่อไป
เกมปรับ ครม.ลากยาวมาจนถึงไฟต์บังคับ ที่ต้องขยับปรับเปลี่ยนกำลังกลางทางเพื่อไปต่อ แต่การต่อรองระหว่างเบอร์ 1 เบอร์ 2 ระหว่าง"เพื่อไทย - ภูมิใจไทย” กำลังเป็นโจทย์ยาก และอาจเป็นจุดชี้ชะตา “รัฐบาลแพทองธาร”จะได้ไปต่อ หรือพอแค่นี้ ภายในเดือน มิ.ย.นี้ น่าจะได้รู้กัน