'ภัณฑิล' เผยล่าชื่อ สส.ชงศาล รธน.ถอดถอน 'พิเชษฐ์' พ้นรองประธานสภา

'ภัณฑิล' เผยอยู่ระหว่างล่าชื่อ สส.ยื่นศาล รธน.ถอดถอน 'พิเชษฐ์' พ้นรองประธานสภาฯ สัปดาห์หน้า ยันกล่าวหาส่อทุจริต ไม่เกี่ยวปมผิดจริยธรรม
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2568 ที่อาคารอนาคตใหม่ นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. เขตคลองเตย-วัฒนา พรรคประชาชน (ปชน.) แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีการยื่นถอดถอน นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ออกจากตำแหน่ง จากกรณีการตั้งโครงการของบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรที่ส่อไปในทางทุจริต
โดยภายหลังการแถลงข่าว นายภัณฑิล กล่าวว่า ในการจัดงบประมาณปี 69 นายพิเชษฐ์ได้มีการของบเพิ่มเป็น 593ล้านบาท ซึ่งในเนื้อหามีการของบเหมือนเดิมคือจัดกิจกรรมสัมมนาแต่จำนวนมากขึ้น เป้าหมายในการจัดโครงการมากขึ้น การใช้งบประมาณที่ส่อทุจริตเช่นนี้เราต้องรีบยับยั้งก่อนที่เกิดความเสียหายมากกว่านี้ จึงต้องการยื่นไปที่ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าการกระทำของนายพิเชษฐ์ เข้าข่ายการกระทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา144 วรรคสองหรือไม่ แต่ไม่เกี่ยวกับการให้ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ขาดเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรม ขณะนี้มีการรวบรวมรายชื่อจาก สส. และอยู่ในขั้นตอนการเตรียมเอกสาร โดยคาดว่าจะมีการดำเนินการภายในสัปดาห์หน้า
นายภัณฑิล กล่าวอีกว่า ส่วนที่จะต้องมีการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญก่อนนั้น เนื่องจากกังวลว่ากระบวนการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ค่อนข้างใช้เวลา จึงเป็นห่วงว่าทั้งเจ้าหน้าที่สภาเอง และผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของนายพิเชษฐ์ จะได้รับผลกระทบจากการใช้งบประมาณแบบนี้ จึงต้องรีบจัดการ
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยส่วนตัวกับนายพิเชษฐ์หรือไม่ นายภัณฑิล กล่าวว่า นายพิเชษฐ์พยายามจะนัดตนไปเดินดู แต่ยืนยันว่าในฐานะ สส.ที่ใช้สภาอยู่แล้ว รู้จักทุกซอกทุกมุม เดินเองโดยที่ไม่ต้องขอนายพิเชษฐ์ และนายพิเชษฐ์ไม่จำเป็นจะต้องมาเป็นไกด์ โดยภายหลังอภิปรายในสภา นายพิเชษฐ์ได้เดินมาหาตนที่ห้องอาหาร โชคดีว่า มีเพื่อนสมาชิกหลายคนอยู่ตรงนั้น ทำให้ไม่สามารถคุยอะไรที่ไม่เหมาะสมได้ ส่วนความพยายามติดต่อหลังไมค์อื่น ๆ นั้น ต้องพูดตรงๆ ว่าในเมื่อทางพรรคประชาชนจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เราจะไปคุยอะไรกัน คงไม่เหมาะ ถ้าจะติดต่อหลังไมค์
นายภัณฑิล กล่าวเพิ่มเติมว่า นี่ไม่ใช่เรื่องของจริยธรรม แต่เป็นเรื่องการทุจริต ก็อยากทราบว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร เพราะเรื่องสามัญสำนึก ประชาชนได้ตัดสินแล้วว่า การใช้งบประมาณแบบนี้ไม่ตอบโจทย์ประชาชน เป็นเรื่องการทุจริต เอางบลงพื้นที่ตัวเอง ทั้งที่ฝ่ายนิติบัญญัติเรามีหน้าที่ในการออกกติกา ตรวจสอบงบประมาณ ถ้าเราชงเอง ตบเองก็ไม่ได้
"นี่ไม่ใช่ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแต่เป็นการเอาเงินเข้าตัวเอง ต้องการมีงบกลางของตัวเองเอาไว้ใช้ การให้สัมภาษณ์ของนายพิเชษฐ์ที่ระบุถึงเรื่องศักดิ์ศรี หรือเปรียบเทียบกับส่วนอื่นว่าสภาได้แค่ 8 พันล้านบาท ก็อยู่ที่หลักการว่าเงินที่ได้มานั้น ก็เป็นเงินภาษีประชาชน จะนำไปใช้แบบนี้ไม่ได้" นายภัณฑิล กล่าว
เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบเรื่องจริยธรรมในส่วนของสภาด้วยหรือไม่ นายภัณฑิล กล่าวว่า เป็นคนละหัวข้อ ขอยังไม่ขยายความต่อตรงนี้ เพราะเป็นเรื่องการตีความ ซึ่งถูกใช้กันมาหลายครั้งในทางการเมือง นี่เป็นเรื่องทุจริตตรง ๆ อยู่แล้ว







