'อธิบดีกรมการปกครอง' ให้พื้นที่พิจารณาอพยพคน7 จว.ติดชายแดนกัมพูชา

'อธิบดีกรมการปกครอง' ให้พื้นที่พิจารณาอพยพคน7 จว.ติดชายแดนกัมพูชา

"อธิบดีกรมการปกครอง" ยันขวัญกำลังใจประชาชน7 จว.ติดชายแดนกัมพูชา เต็มร้อย​ ลั่น ในพื้นที่ประเทศไทย​ ทุกคนต้องปลอดภัย​ มอบ​ พื้นที่พิจารณาอพยพ

5 มิ.ย.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง  กล่าวถึง การเตรียมความพร้อมรับมือหากเกิดสถานการณ์ความรุนแรงใน พื้นที่ชายแดน ไทยกัมพูชา ว่า ปกติเรามีแผนซักซ้อมเรื่องการอพยพอยู่แล้วเพื่อเตรียมความพร้อม จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ ใน 7 จังหวัดติดชายแดนไทย -กัมพูชา แม้จะไม่มีสถานการณ์ ก็มีการซักซ้อมเป็นปกติอยู่แล้ว และหากสถานการณ์บานปลาย สามารถอพยพได้ทันที ในพื้นที่มีการแบ่งความรับผิดชอบ​ ส่วนหลุมหลบภัย ยืนยันว่ามีจำนวนเพียง เพียงแต่ต้องกำหนดจุด​ ว่าหากต้องอพยพต้องออกจากจุดใด เพราะบางหมู่บ้าน หลุมหลบภัย ก็มีไม่เพียงพอ

ทั้งนี้นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะลงพื้นที่ ภายหลังเดินทางกลับจากภารกิจต่างประเทศ​ พร้อมทั้งยอมรับว่าทุกจุด​ มีความเสี่ยงทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะ ช่องบก​ อำเภอน้ำยืน​ จังหวัดอุบลราชธานีเท่านั้น เพราะทางกระทรวงมหาดไทยได้ออกประกาศแจ้งเตือนไปทั้ง 7 จังหวัด

เมื่อถามว่ามี การอพยพ เด็ก สตรี​ ผู้สูงอายุ ออกจากพื้นที่ไปบ้างแล้วใช่หรือไม่ อธิบดีกรมการปกครองกล่าวว่า แล้วแต่พื้นที่จะพิจารณา หากเห็นว่ามีความเสี่ยงก็อพยพได้​ ส่วนพื้นที่ เกาะกูด​ จังหวัดตราด​ นั้น ที่มี การซักซ้อมกลางทะเล โดยใช้กระสุนจริงของกองทัพเรือกัมพูชา เป็นการดำเนินการอยู่ในพื้นที่ของเขา

อธิบดีกรมการปกครอง​ ยังย้ำถึงขวัญและกำลังใจของประชาชนในพื้นที่ ว่าเต็มร้อย​อยู่ แต่ก็ต้องตั้งอยู่ด้วยความไม่ประมาท ในพื้นที่ประเทศไทยทุกคนต้องมีความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย ของภาครัฐและเอกชน

ส่วนการจัดชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านหรือ​ ชรบ.​ อธิบดีกรมการปกครองระบุว่า ถือเป็นกำลังของคนที่อยู่ในพื้นที่ ที่ได้รับการฝึก แล้วมาดูแลประชาชน รวมถึงอาสาสมัครรักษาดินแดน​ หรือ​ อส. และกำนัน​ ผู้ใหญ่บ้าน 

ส่วนอนาคตหากมี การปิดด่าน อธิบดีกรมการปกครอง​ ระบุว่า ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล