'รังสิมันต์' ข้องใจ 'นายกฯ' ใช้สัมพันธ์ส่วนตัว สงบศึก 'กัมพูชา'

ปธ.กมธ.มั่นคง จ่อประชุมลับฝ่ายความมั่นคงสัปดาห์หน้า คุ้ยปม ไทย-กัมพูชา ข้องใจ "นายกฯ" ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวสงบศึก จี้ให้ทำอย่างเปิดเผย
ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีท่าทีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ต่อการแก้ปัญหาชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา ว่า รัฐบาลสื่อสารเรื่องดังกล่าวช้ามาก ขณะที่ประชาชนคาดหวังในคำตอบในมาตการและแนวทางของรัฐบาลต่อการรับมือกับท่าทีของกัมพูชา ไม่ใช่แค่เรื่องการส่งเรื่องไปยังศาลโลกเท่านั้น เพราะมีหลายเรื่องที่กระทบกับคนไทยทั้งประเทศ
“ทุกคนรู้ว่าเรื่องไทยกับกัมพูชาต้องจบลงที่การเจรจา แต่ก่อนที่คุณจะไปเจรจา โดยเฉพาะเวทีที่รัฐบาลหวังเป็นอย่างมาก วันที่ 14 มิ.ย. ก่อนจะถึงวันนั้น จะสร้างอำนาจต่อรอง อย่างไร สิ่งนี้เป็นประเด็นสำคัญที่รัฐบาลจะต้องจำใส่ใจ และเข้าใจถ้าคุณมีอำนาจในการต่อรอง ไม่ว่าจะเจรจาเวทีไหนก็แล้วแต่ คุณจะอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบเสมอ“ นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่า สายสัมพันธ์ของนายกรัฐมนตรีกับกัมพูชา รวมถึงท่าทีการตอบคำถามของนายกฯ เมื่อ 4 มิ.ย. สะท้อนได้หรือไม่ว่ามีการดีลผลประโยชน์บางอย่าง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เมื่อเจรจากันโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว ทำให้ไม่รู้รายละเอียดว่าใช้กลไกหรือดำเนินการอย่างไร ตนในฐานะฝ่ายตรวจสอบทำให้ตรวจสอบได้ยาก อีกทั้งประชาชนไม่ไว้วางใจเรื่องความสัมพันธ์ส่วนบุคคล
"แม้จะห้ามเรื่องสัมพันธ์ส่วนบุคคลไม่ได้ แต่ควรมีกลไกที่สร้างความเชื่อมั่นและต้องชี้แจงกับประชาชนเป็นระยะ ทั้งน้ผมไม่อยากตำหนิ แต่ในแง่การเมืองระหว่างประเทศ อยากให้เกิดบรรยากาศทีมไทยแลนด์ แต่เมื่อวานท่าทีของนายกฯ เป็นท่าทีที่ไม่มีความเหมาะสม ท่านควรใจเย็น สำหรับการตอบคำถามผู้สื่อข่าว ผมมองว่าท่านได้พลิกวิกฤติให้เป็นหายนะโดยที่ไม่จำเป็น“ นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ประชาชนไม่เชื่อมั่นต่อรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสายสัมพันธ์อะไรก็แล้วแต่ ดังนั้นรัฐบาลต้องให้ความชัดเจนว่าสายสัมพันธ์ส่วนตัวจะไม่อยู่เหนือผลประโยชน์ของประเทศชาติ และรัฐบาลต้องทำให้เห็นว่าไทยมีแต้มต่อมากที่สุด ทั้งพยานหลักฐาน แผนที่ และแต้มต่อทางการเมือง
"ในเรื่องนี้ผมมีข้อเสนอ 10 ข้อ แต่ข้อที่สำคัญที่จะทำให้ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวคือ การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งอยู่ในกัมพูชา ทั้งนี้ผมมองว่าหากรัฐบาลแก้ปัญหาดังกล่าวไม่ได้เชื่อว่ามีผลกระทบเกิดขึ้น โดยในสัปดาห์หน้าผมได้นัดประชุมลับกับฝ่ายความมั่นคง เรื่องชายแดนไทยกัมพูชา" นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่าอย่าบอกว่าเป็นเรื่องความมั่นคงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เปิดเผยไม่ได้ ประเภทที่บอกว่าให้เราหุบปากเงียบๆ ต้องถามว่าที่ผ่านมาเงียบๆ ไปแล้วรัฐบาลได้ใช้โอกาส ให้เป็นโอกาสหรือไม่ ก็ไม่ กลับพลิกโอกาสให้เป็นวิกฤต และพลิกวิกฤตให้เป็นหายนะ ตนมองว่าหากเป็นแบบนี้จะไปต่อลำบาก.







