ขมวดเงื่อนปมพิรุธ ตึก Skyy9 จับตา ‘ส้มตะวันออก’ รวบ ‘รมช.เฮ้ง’

ขมวดเงื่อนปมพิรุธ ตึก Skyy9 จับตา ‘ส้มตะวันออก’ รวบ ‘รมช.เฮ้ง’

ขมวดเงื่อนปมซับซ้อน กรณีกองทุนประกันสังคม ควักเงินกว่า 6.9 พันล้านบาท ไปตั้ง "กองทุนทรัสต์" เพื่อเข้าซื้อ "บริษัท" ให้ได้มาซึ่งอาคาร Skyy9

KEY

POINTS

  • ขมวดเงื่อนปมซับซ้อน กรณีกองทุนประกันสังคม ควักเงินกว่า 6.9 พันล้านบาท ไปตั้ง "กองทุนทรัสต์" เพื่อเข้าซื้อ "บริษัท" ให้ได้มาซึ่งอาคาร Skyy9
  • ก่อนถูก 2 สส.ปชน. นำโดย "ไอซ์" รักชนก ศรีนอก และ "เนม" สหัสวัต คุ้มคง ลุยตรวจสอบ เปิดปูมสารพัดข้อพิรุธ จนทำเอาถูก "รมช.เฮ้ง" สุชาติ ชมกลิ่น ฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาทในศาลอยู่ตอนนี้
  • เงื่อนปมสำคัญของเรื่องคือ ไฉนจึงมีการ "เร่งรีบ" เคาะเงินลงทุนเฉียด 7 พันล้านบาทไปซื้อบริษัทเพื่อให้ได้มาซึ่งตึกแห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายข้อกังขา ตามบทสรุปผลสอบข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ ที่ปัจจุบัน "รมว.แรงงาน" ชงเรื่องไปที่ "มหาดไทย" ดำเนินการต่อแล้ว
  • ที่น่าสนใจ ความเคลื่อนไหวของ "ก๊กส้ม" ภาคตะวันออกในเรื่องนี้ สะท้อนไปถึงการเดินเกมการเมือง หวังรุกฆาต "ก๊วนมังกรน้ำเค็ม" ของ "สุชาติ" ชมกลิ่น ในลักษณะยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัวหรือไม่ ต้องติดตาม

อุณหภูมิทางการเมืองขณะนี้กำลังร้อนแรง ไม่แพ้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ความตึงเครียดระหว่าง 2 พรรคร่วมที่เล่น “สงครามเย็น” ใส่กันมาพักใหญ่ระหว่าง “ก๊กแดง” และ “ก๊กน้ำเงิน” ดูท่าจะจบลงด้วยการเจรจาบนโต๊ะ เปิดดีลใหม่ในการปรับ ครม.ครั้งถัดไป ที่ว่ากันว่าจะมีการ “ยึดมหาดไทย” กลับมาสู่อ้อมอก “เพื่อไทย

ทว่า ในส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคร่วมรัฐบาลอีกพรรคอย่าง “รวมไทยสร้างชาติ” ดูเหมือนว่า รอยร้าวภายในจะเริ่มปริแตกให้คนภายนอกรับรู้กันแล้ว ระหว่าง “ก๊วนนอมินี” รบแทน “บิ๊กเนมหลังฉาก” กับ “กลุ่มรักลุงตู่เดิม” ซึ่งมี 2 ขุนพลที่เปิดหน้ารบกัน นำโดย “เสี่ยเฮ้ง" สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ รองหัวหน้าพรรค และ “บิ๊กตุ๋ยพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรค โดยบทสรุปของรอยร้าวนี้ ขึ้นอยู่กับ “เดอะ ขิงเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เลขาธิการ รทสช.ว่าจะเลือกอยู่ “ข้างไหน”

แต่เหมือนอย่างที่สุภาษิตโบราณว่าไว้ “ศัตรูของศัตรูคือมิตร” มีความเคลื่อนไหวจาก “ก๊กส้ม” ภาคตะวันออก นำโดย “สส.ท้อป” ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน (ปชน.) ที่ “กังขา” กระแสข่าวว่า จะมีการปรับ “เอกนัฏ” พ้นเก้าอี้รัฐมนตรี และเอา “เสี่ยเฮ้ง” มาเสียบ รมว.อุตสาหกรรม แทน ทั้งที่มีกระแสข่าวว่าในพื้นที่ภาคตะวันออก มี “กลุ่มทุนจีน” ผิดกฎหมาย อาจพัวพันกับ “บิ๊กเนมการเมือง” บางคนในพรรคร่วมรัฐบาล

การออกมากางปีกยืนเคียงข้าง “เอกนัฏ” กลาย ๆ ของ สส.ปชน.ครั้งนี้ อาจเป็นไปได้ว่า บทบาทของ “เอกนัฏ” ที่ผ่านมา แม้จะสังกัด รทสช. ซึ่งมีทัศนคติและอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างกับ “ก๊กส้ม” แบบคนละขั้ว แต่ภารกิจเพื่อชาติ จึงได้จับมือร่วมกันทำงานกับ สส.ปชน.ภาคตะวันออกหลายคน เดินหน้าทลาย “ทุนจีนเทา-อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ” มาด้วยกันตลอดในรอบปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกับ “ชุดสุดซอย” ที่หลายครั้งมี สส.ปชน.ชี้เป้าให้

นอกจาก “สส.ท้อป” แล้ว “เอกนัฏ” ล้วนมีความสัมพันธ์อันดีกับ สส.ปชน.ภาคตะวันออกหลายคนจากการปราบปราม “ทุนจีนเทา” ในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ด้วยอายุอานาม ล้วนใกล้เคียงกับ สส.ก๊กส้ม ที่เป็น “วัยหนุ่ม-คนรุ่นใหม่” ต้องการทำการเมืองใหม่ สร้างความเปลี่ยนแปลง แม้จะปักธงคนละผืนกันก็ตาม

คล้อยหลัง “สส.ท้อป” ตั้งคำถามไปไม่นาน “สส.เนม” สหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรค ปชน. ในฐานะ “ไม้เบื่อไม้เมา” กับ “เสี่ยเฮ้ง” มายาวนาน ได้เตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน หอบไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีกองทุนประกันสังคม ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) อนุมัติเงินผ่าน “กองทุนทรัสต์” เฉียด 7 พันล้านบาท นำไปลงทุนซื้อ “บริษัท” เพื่อให้ได้มาซึ่งอาคาร Skyy9

ในทางการเมืองนอกจาก “สส.เนม” จะเป็น “ศัตรูหมายเลขหนึ่ง” ของ “เสี่ยเฮ้ง” เนื่องจากอยู่ในพื้นที่เดียวกัน และแย่งชิงฐานเสียงเดียวกันแล้ว ในทางข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบเงื่อนปมอาคาร Skyy9 แม้จะไม่ปรากฏ “ร่องรอย” ว่าชื่อของ “เสี่ยเฮ้ง” เข้าไปเกี่ยวข้องพัวพัน แต่ความเคลื่อนไหวในการซื้ออาคาร Skyy9 ครั้งนี้ เกิดขึ้นในยุค “เสี่ยเฮ้ง” นั่งเก้าอี้ รมว.แรงงาน 

โดยเขาและ “สส.ไอซ์” รักชนก ศรีนอก สส.กทม. ปชน. ที่ร่วมกันขับเคลื่อนขุดคุ้ยเรื่องนี้ด้วยกันมาตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ปัจจุบันเขาและเธอถูก “สุชาติ” ฟ้องต่อศาลอาญา กล่าวหาฐานหมิ่นประมาท ปัจจุบันศาลประทับรับฟ้อง และ “สุชาติ” เข้าไปให้ถ้อยคำในฐานะโจทก์มาแล้วเมื่อไม่นานมานี้

กลับมาที่ข้อเท็จจริงเรื่องอาคาร Skyy9 กรุงเทพธุรกิจ นำเสนอข้อมูล และขยายผลการตรวจสอบพบข้อเท็จจริงว่า “กองทุนทรัสต์” ที่อนุกรรมการที่ปรึกษาการลงทุนสินทรัพย์นอกตลาด ตัดสินใจใช้งบเฉียด 7 พันล้านบาทไปซื้อ “บริษัท” เพื่อให้ได้มาซึ่งอาคาร Skyy9 (เดิมคืออาคาร Cas Centre) คือ บริษัท ไพร์ม ไนน์ เรียลเอสเตท จำกัด โดยมีบริษัท ไพร์ม เซเว่น จำกัด ผู้ถือหุ้นใหญ่ ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดใน “ไพร์ม เซเว่น” คือ กองทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุนไพร์ม แอสเซท โดย บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะทรัสตี เป็นกองทุนของประกันสังคม

โดยข้อมูล “อินไซด์” วงประชุมที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติวงเงินราว 7 พันล้านบาท เพื่อเข้าไปซื้อ “บริษัท” ให้ได้มาซึ่งอาคาร Skyy9 มีวงประชุมที่เกี่ยวข้อง 3 วง ได้แก่ คณะกรรมการลงทุน (Investment Committee) หรือ “บอร์ดลงทุน” มี “บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์” เลขาธิการ สปส. (ขณะนั้น ปัจจุบันเป็นปลัดกระทรวงแรงงาน) เป็นประธาน) คณะอนุกรรมการการลงทุน และคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาการลงทุนสินทรัพย์นอกตลาด โดยทั้ง 3 วงดังกล่าวได้หารือเกี่ยวกับการลงทุนอย่างน้อย 3 ครั้ง ระหว่างเดือน ส.ค.-พ.ย. 2565 ก่อนชงบอร์ดกองทุนประกันสังคม (บอร์ดใหญ่) ตัดสินใจเคาะลงทุนให้ได้มาซึ่งตึก Skyy9

ประเด็นที่น่าสนใจ ใน 2 วงประชุมคือ “บอร์ดลงทุน” และคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาการลงทุนสินทรัพย์นอกตลาด ปรากฏชื่อ “ธีระพันธุ์ พืชผล” ที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในประเทศสิงคโปร์ เขาเคยมีตำแหน่งเป็นนักวิชาการแรงงานชำนาญการ กองบริหารการลงทุน สปส. และเป็นหนึ่งใน อนุกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการ ในอนุกรรมการที่ปรึกษาการลงทุนสินทรัพย์นอกตลาด เข้าไปนั่งในวงประชุมด้วย และเขาคือบุคคลที่ สส.ปชน.ชี้เป้ากล่าวหาว่าเป็น “นายรู” เข้าไปมีบทบาทกับการลงทุนของ สปส.ในการซื้อ Skyy9

บทบาทของ “ธีระพันธุ์”ในวงประชุม“บอร์ดลงทุน” พบว่า เขาจะเป็นผู้เสนอและรายงานข้อมูลการประชุมต่าง ๆ อย่างน้อย 3 ครั้งที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจลงทุนซื้อ Skyy9 (ระหว่างเดือน ส.ค.-พ.ย. 2565) เนื่องจากเขาเป็นหนึ่งในอนุกรรมการที่ปรึกษาการลงทุนสินทรัพย์นอกตลาดที่เข้าประชุมใน “บอร์ดลงทุน” ด้วย

ในส่วนการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศนั้น เมื่อก่อตั้ง “กองทุนทรัสต์” ขึ้นมาแล้ว ได้แต่งตั้งให้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC เป็น “ผู้จัดการกองทรัสต์” และ “กรุงไทย” เป็น “ทรัสตี” โดย MFC คือ “ผู้เสิร์ฟข้อมูล” เกี่ยวกับการลงทุนในอาคาร Cas Centre (ชื่อเดิม Skyy9) ให้แก่ “บอร์ดลงทุน-อนุที่ปรึกษาฯ” พิจารณา ซึ่ง MFC ได้คัดเลือกอาคาร Cas Centre มาให้บอร์ดพิจารณา ก่อนจะมีการเคาะเลือกอาคารแห่งนี้มาทำเป็น Skyy9 ในเวลาต่อมา

นอกจากนี้ในไทม์ไลน์การซื้อขายตึกดังกล่าว เกิดขึ้นระหว่างปี 2561-2565 มีการเปลี่ยนมือเจ้าของ 3 คน ได้แก่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด มหาชน (BAM) ขายต่อด้วยราคาราว 1 พันล้านบาท ให้กับบริษัท วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในเครือข่าย “พร้อมทวีสิทธิ์-พร้อมพัฒน์” จากข้อมูลพบว่า ช่วงการซื้อขายตึกดังกล่าวนั้น ปรากฏชื่อคนสกุล “พร้อมทวีสิทธิ์” เข้าไปเป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้น 

ต่อมาในปี 2562 “วอเตอร์เกทฯ” ขายอาคารดังกล่าวต่อด้วยราคาราว 2,175 ล้านบาทให้แก่บริษัท เอจีอาร์อี 101 จำกัด ในเครือ “แคส แคปปิตอล” ก่อนนำมารีโนเวทใหม่ในชื่อ Cas Centre หลังจากนั้นในปี 2565 ได้ขายต่อให้กับ “กองทุนทรัสต์” ของ สปส. ซึ่งมีรายงานว่า สปส.ใช้งบราว 7 พันล้านบาทได้มาซึ่งอาคารนี้ ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น Skyy9 ในปัจจุบัน

ล่าสุด “ไอซ์ รักชนก” สส.กทม. ปชน. เปิดเอกสารอ้างว่าได้มาจาก “คนใน” เป็นผลสอบการซื้อตึก Skyy9 ซึ่งระบุข้อพิรุธใน 2 เงื่อนปมการได้มาซึ่งตึก Skyy9 และการเข้าซื้อดังกล่าวดำเนินการอย่างเร่งรีบ อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับ สปส.ได้ อย่างไรก็ดี “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รมว.แรงงาน ระบุว่า ได้ส่งผลสอบนี้ไปให้กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการต่อแล้ว แต่ไม่ยืนยันว่า ผลสอบเป็นไปตามนี้หรือไม่

ทั้งหมดคือเงื่อนปมเกี่ยวกับอาคาร Skyy9 ที่ด้านหนึ่งรุดหน้าจ่อยื่น ป.ป.ช.เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้ความกระจ่างชัด อีกด้านหนึ่ง “ก๊วนส้มตะวันออก”เดินหมากเกมนี้หวัง “รุกฆาต” ก๊วน “มังกรน้ำเค็ม” ให้พ้นจากกระดานการเมืองไป เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียว ได้นก 2 ตัว