ศึกรัฐบาลไฟต์บังคับ‘ปรับครม.’ วัดใจ‘แพทองธาร’ ตัดจบสยบป่วน

ศึกรัฐบาลไฟต์บังคับ‘ปรับครม.’ วัดใจ‘แพทองธาร’ ตัดจบสยบป่วน ขยับไทม์ไลน์มิ.ย. ‘ทักษิณ’ วัดพลัง ‘เนวิน’ ไปต่อ-ถอนตัวร่วมรัฐบาล
KEY
POINTS
-
กระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรีกลับมาถูกพูดถึง ทั้งวงในวงนอก ปัจจัยหนึ่งคือท่าทีของ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร ที่ใครหลายคนมองว่าเป็น “นายกฯตัวจริง” ส่งสัญญาณท้ารบ “เครือข่ายสีน้ำเงิน”
-
"ทักษิณ" ยังมั่นใจว่า "ภูมิใจไทย" จะไม่ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล และเมื่อผ่านการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณ ทำให้ไทม์ไลน์ปรับครม.ถูกขยับมาเร็วขึ้น
-
มีกระแสข่าวว่า "แพทองธาร" ต้องการปิดจบให้เร็วที่สุด เพื่อสยบกระแสป่วน ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการทำงาน
ผ่านพ้นการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ไปเมื่อวันที่ 31 พ.ค. กระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)กลับมาถูกพูดถึง ทั้งวงในวงนอก
ปัจจัยหนึ่งคือท่าทีของ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร ที่ใครหลายคนมองว่าเป็น “นายกฯตัวจริง” ส่งสัญญาณท้ารบ “เครือข่ายสีน้ำเงิน” ด้วยการส่งสัญญาณยึด “กระทรวงมหาดไทย” จากพรรคภูมิใจไทย ที่ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค นั่งควบรองนายกฯ อยู่
“ทักษิณ” พูดชัดเจนว่า “มหาดไทย” ในยุค “อนุทิน” ยังทำงานไม่เข้าเป้า ที่สำคัญการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลต้องอาศัยกลไกของ “มหาดไทย” หาก “พรรคเพื่อไทย” ต้องการให้นโยบายผลิดอกออกผล จำเป็นต้องกำกับดูแลกระทรวงคลองหลอดเอง
"การนำนโยบายไปถึงประชาชน กระทรวงหลักคือ มท.วันนี้ไม่ค่อยถึง เพราะว่า มท.ยังทำไม่เต็มที่ เวลาเหลือ 2 ปีแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่ มท.ต้องทำงานให้เต็มที่"
ขณะเดียวกัน "ทักษิณ" ยังมั่นใจว่า "ภูมิใจไทย" จะไม่ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยระบุว่า "น่าจะคุยกันรู้เรื่อง คงไม่ถอนมั้ง ไม่อยากให้เขาถอน แต่ถ้าอยู่ไม่ได้ ก็เป็นเรื่องที่เราไม่สามารถควบคุมการตัดสินใจของแต่ละพรรคได้"
ทว่า การรุกล้ำแดน หวังเจาะไข่แดง “เครือข่ายสีน้ำเงิน” ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากจำนวนเสียงในสภาฯ ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง มีถึง 69 เสียงในสภาฯ ทำให้นายกฯแพทองธาร ชินวัตร คิดหนัก
ที่สำคัญเงื่อนไขปรับครม. ถูกโยนไพ่ออกมาหลายครั้ง แต่ “แพทองธาร” เลือกเดินสายกลาง ใช้วิธีสงบ เพื่อสยบความเคลื่อนไหว ประคับประคองไม่ให้ “พรรคร่วมรัฐบาล” เดินเข้าสู่โหมดแตกหัก ทั้งที่เคยบ่น “หนูเหนื่อยแล้วอา”
ขณะที่ศึก “ขั้วแดง - ขั้วน้ำเงิน” ที่นับวันยิ่งรบกันแรงขึ้น โดยเฉพาะเงื่อนปมคดี “ฮั้ว สว.” ยิ่งสาวยิ่งลึก มีตัวละครหน้าฉาก-หลังฉากจากค่ายสีน้ำเงิน โดนหมายเรียกจากทีมสอบ “กกต.- ดีเอสไอ” หลายคน
ว่ากันว่าลอต6 อาจจะมี “บิ๊กเนมสีน้ำเงิน” ติดพ่วงในหมายเรียกด้วย
ดังนั้นท่ามกลางศึกการเมือง “แพทองธาร” จึงไม่มีทางเลือกมากนัก หากยังเลือกแนวทางสมานฉันท์ ยื้อเกมปรับครม.ออกไป อาจโดน “เครือข่ายสีน้ำเงิน” รุกหนักยิ่งขึ้น
จับอาการของนายกฯ ก่อนหน้านี้หากโดน “สื่อ” รุกถามข่าวปรับครม. “เบอร์หนึ่งตึกไทยคู่ฟ้า” มักจะให้ความเชื่อมั่นว่ายังไม่ถึงเวลาปรับครม. หรือแม้แต่สูตรแลก - สลับ กระทรวงภายใน “พรรคร่วมรัฐบาล” เจ้าตัวจะเลี่ยงตอบคำถาม
แต่การให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุด “แพทองธาร” ตอบแบบกั๊กคำตอบเมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ที่จะแลกกระทรวงกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยกล่าวว่า "ทุกอย่างเป็นไปได้ อย่างที่พูดทุกเรื่องตอนเลือกตั้งทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ พูดคำเดิมทุกอย่างมันก็เป็นไปได้ และเป็นอะไรที่เราไม่ได้วาดหวังวาดคิดไว้ก็เป็นอย่างนั้นทุกครั้ง เพราะฉะนั้นครั้งนี้ก็เช่นกันอะไรก็เกิดขึ้นได้"
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้แพทองธาร วางไทม์ไลน์ปรับ ครม.เอาไว้ในช่วงครบ 1 ปี ซึ่งจะอยู่ในช่วงต้นเดือน ก.ย. ซึ่งเหลืออีก 3 เดือนจะถึงเป้าหมาย แต่การจะเข็นให้ถึงเวลานั้น อาจจะยากมากขึ้น
ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า “บิ๊กเนมรัฐบาล”ส่งสัญญาณไปยัง “พรรคร่วมรัฐบาล” ให้เตรียมพร้อมปรับครม. ส่วนโควตา “รมว. - รมช.” อาจจะต้องเขย่ากันใหม่ เนื่องจาก“พรรคเพื่อไทย” เตรียมรุกยึด “กระทรวงมหาดไทย”
“นายใหญ่ - บิ๊กเพื่อไทย” ต้องการใช้กลไกของ “มหาดไทย” สร้างผลงานให้เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะนโยบายปราบยาเสพติด ต้องลงลึกถึง ตำบล หมู่บ้าน รวมทั้งจะอัดฉีดงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจลงสู่หมู่บ้าน ชุมชน ผ่านกองทุนหมู่บ้าน
ว่ากันว่าชื่อของ “เฮียเสริฐ” ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ รมว.ดีอีเอส เป็นเต็งหนึ่งที่จะมาเข้ามานั่งเก้าอี้ มท. 1
ดังนั้นโควตาของ “พรรคร่วมรัฐบาล” อาจจะมีการปรับเปลี่ยน โดยเฉพาะ “ภูมิใจไทย” ซึ่ง“ทักษิณ - แพทองธาร” ต้องมีกระทรวงเกรดเอไปแลก เพื่อรั้งไม่ให้ “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับ “บิ๊กสีน้ำเงิน” จะพอใจกับกระทรวงที่จะถูกนำมาใช้ต่อรองหรือไม่
โดยมีกระแสข่าวว่า “บิ๊กเพื่อไทย” อาจเอากระทรวงเกรดเอ แลกกับกระทรวงมหาดไทย อีกสูตรอาจจะเป็นสองแลกสอง โดยเอากระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แลกกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงแรงงาน จัดเป็นแพ็กเกจคู่ เพื่อให้ “บิ๊กสีน้ำเงิน” พิจารณา
อีกทางหนึ่ง “บิ๊กเพื่อไทย” ได้เตรียมแผนสำรองเอาไว้ หาก “บิ๊กสีน้ำเงิน” ไม่พอใจปมยึดกระทรวงมหาดไทย จนถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล การเติมเสียงจาก “ขั้วฝ่ายค้าน” จึงมีความจำเป็น โดยเฉพาะ “พรรคพลังประชารัฐ” ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะถูกนำมาเติมความมั่นคงของรัฐบาลหรือไม่
ขณะเดียวกัน ต้องจับตาความเคลื่อนไหวของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เนื่องจาก “กลุ่มเสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ เดินสายรวบรวม “ขุนพล รทสช.” ประกาศตัวแยกย้ายไปซบ “พรรคโอกาสใหม่”
ใจกลางความขัดแย้งของ “รทสช.” อยู่ที่ตัวของ “หัวหน้าพี” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีหลายเสียงออกมาเรียกร้องให้ปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารพรรคให้เข้าถึงง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม “กลุ่มเสี่ยเฮ้ง” ที่เปิดหน้า เปิดชื่อ ยังไม่ใช่เลือดแท้ “มังกรน้ำเค็ม” ทั้งหมด ทั้ง “ธนกร วังบุญคงชนะ” สส.บัญีรายชื่อ “จิรวุฒิ สิงห์โตทอง” สส.ชลบุรี เป็นต้น เรียงแถวออกมาปฏิเสธขอขึ้นบัญชีย้ายพรรค
ว่ากันว่าปฏิบัติการของ “กลุ่มเสี่ยเฮ้ง” มีหลายคนที่อาจถูกเคลมชื่อ อีกทั้งยังแสดงความไม่พอใจกันหลังไมค์ เพราะก่อนหน้านี้ มีการนัดหมายร่วมวงรับประทานอาหารเพื่อพูดคุยหารือกันเท่านั้น แต่กลับถูกปล่อยภาพ พร้อมบรรยายว่าคือผู้เข้าร่วม “ทีมเฮ้ง”
การเปิดหน้าชกของ “มังกรน้ำเค็ม” เที่ยวนี้เดิมพันสูงลิบ หากชนะโอกาสเข้าวินกลับมานั่งเก้าอี้ “รัฐมนตรีว่การ” ยังพอมีให้ลุ้น แต่หากพ่ายศึกโอกาสหลุดเก้าอี้ “รัฐมนตรีช่วย” มีสูงลิบเช่นกัน ยิ่งยี่ห้อ “พีระพันธุ์” ผูกใจเจ็บแล้วแค้นแรง เดิมพันฉากรบอาจจะต้องตายกันไปข้างหนึ่ง
ปฏิบัติการเขย่า “พีระพันธุ์” ในไทม์มิ่งปรับครม. เป็นการส่งสัญญาณว่า “กลุ่มเสี่ยเฮ้ง” หวังเก้าอี้รัฐมนตรีตัวใหญ่ขึ้น อีกนัยหนึ่งอาจจะหวังรุกฆาตเขี่ย “พีระพันธุ์” พ้นวงโคจร เพื่อตอบสนอง “บิ๊กเนม” ผู้บัญชาการหลังม่าน
เกมปรับครม.ที่เร่งเร้าไปยัง “แพทองธาร” ทำให้เจ้าตัวอาจเปลี่ยนแผน ปรับไทม์ไลน์ใหม่ ว่ากันว่า เพื่อยุติปัญหาขัดแย้งในพรรคร่วมยืดเยื้อ มีโอกาสที่จะจัดการให้เบ็ดเสร็จภายในเดือน มิ.ย.







