ผู้ตรวจฯ รับเรื่อง สว.ร้องสอบ 'บอร์ดคดีพิเศษ' แทรกแซง กกต.คดีฮั้ว

ผู้ตรวจการแผ่นดิน รับเรื่องกลุ่ม สว.ร้องสอบ 'บอร์ดคดีพิเศษ' ใช้อำนาจมิชอบ แทรกแซง กกต.ดำเนินคดีฮั้ว สว.หรือไม่
เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2568 นายสิริน ชาวเพชรดี รองเลขาธิการปฏิบัติการแทนเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ ผผ. 1203/384 เรื่อง แจ้งการรับเรื่องร้องเรียน ถึงคณะวุฒิสภา (สว.) ตามที่อ้างถึงหนังสือร้องเรียนของ คณะ ลงวันที่ 18 ม.ค. 2568
โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง ท่านและคณะได้ยื่นเรื่องร้องเรียนผ่านประธานวุฒิสภา ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือปฏิบัตินอกเหนือหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายของคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) กรณีมีมติในการประชุม ครั้งที่3/2568 เมื่อวันที่ 6มีนาคม 2568 รับคดีเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา เมื่อปีพ.ศ.2567 ในความผิดฐานฟอกเงินไว้พิจารณาดำเนินการเป็นคดีพิเศษ อันถือเป็นการแทรกแซงหรือครอบงำการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)และเป็นการกดดันหรือข่มขู่การปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภา เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อหลักนิติธรรมและรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินขอเรียนว่า ผู้ตรวจการแผ่นดิน (นายทรงศัก สายเชื้อ) ได้รับเรื่องร้องเรียนของท่านไว้พิจารณาแล้ว เป็นเรื่องร้องเรียนเลขดำที่ 763 /2568 ขณะนี้อยู่ระหว่างการแสวงหา ข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีหนังสือขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงหรือให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียน พร้อมให้จัดส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และกรณีมีความจำเป็น สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินอาจประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งจะได้ดำเนินการโดยเร็ว
ทั้งนี้ เมื่อได้รับการชี้แจงข้อเท็จจริงหรือให้ความเห็นครบถ้วนแล้ว ผู้ตรวจการแผ่นดินจะได้นำมาประกอบการพิจารณาจัดทำคำวินิจฉัยต่อไป จึงเรียนมาเพื่อทราบ หากมีความคืบหน้าเป็นประการใดจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังกลุ่ม สว. ยื่นตรวจสอบการใช้อำนาจของ คณะกรรมการคดีพิเศษ และปรากฎว่า 3 องค์กรอิสระ ได้รับไว้พิจารณาเพราะเข้าองค์ประกอบความผิด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ประกอบด้วย 1.ร้องศาลรัฐธรรมนูญ ให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ และ พ.ต.อ. สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะรอง คณะกรรมการคดีพิเศษ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี โดยศาลรัฐธรรมนูญ ประทับรับฟ้อง และสั่งพ.ต.อ.ทวี หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะการกำกับดูแลดีเอสไอไปแล้ว
2.ยื่นร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ลงโทษ พ.ต.อ.ทวี กับ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดย ป.ป.ช.ได้รับคำร้อง อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง
3.ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน และผู้ตรวจฯได้รับไวไต่สวนแล้วว่า การทำหน้าที่ของคณะกรรมการคดีพิเศษ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่







