'ภัณฑิล' แฉ 'สภา' ของบฯ69 วงเงิน 24ล้าน ทำคลังอาวุธ-กองเกียรติยศ

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ (เป็นพิเศษ) เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระแรก เป็นวันที่สอง โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม

โดย นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายต่องบของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ  อาคารรัฐสภา ใช้มา 5 ปี ยังไม่หมดระยะเวลาประกัน ทั้งนี้การของบประมาณ69 พบงบประมาณเพื่อทำโครงการใหม่ขนาดใหญ่ 15 โครงการ มูลค่ากว่า 3พันล้านบาท เช่น โรงภาพยนตร์ 4 มิติ งบประมาณ 180 ล้านบาท ซึ่งตนสอบถามกับเอกชนที่ทำโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ใช้งบเพียง 150 ล้านบาทเท่านั้น ทั้งที่ห้องของรัฐสภามีขนาดเล็กกว่า โครงการปรับปรุงไฟส่องสว่าง ห้องสัมมนา ชั้นบี1-2 จำนวน117 ล้านบาท โครงการปรับปรุงห้องประชุมงบปะมาณ จำนวน118 ล้านบาท ที่มีอยู่ยังใช้ได้ โครงการติดตั้ง แสง สี เสียง ห้องจัดเลี้ยง บี2 จำนวน 99 ล้านบาท ปรับปรุงศาลาแก้ว งบประมาณ 113 ล้านบาท งบปรับปรุงพิพิธภัณฑ์รัฐสภา วงเงิน 99 ล้านบาท

นายภัณฑิล อภิปรายต่อว่านอกจากนั้นยังมีค่าก่อสร้างที่จอดรถ มูลค่าก่อสร้าง 4,284 ล้านบาท  ทั้งนี้ ครม. ยังไม่อนุมัติงบก่อสร้าง แต่ผู้บริหารของสภาฯรีบออกแบบเบื้องต้น เมื่ออยากทำให้เร็วจึงของบเหลือจ่าย 105 ล้านบาทเพื่อหาผู้ออกแบบ ดึงดันทำประกาศผลออกมา เปิดยื่นข้อเสนอ 10 วัน แสดงให้เห็นถึงความกระเหี้ยนกระหือรือที่ต้องการเอาให้ได้ แต่หากทำหรูหราใต้ดินไม่ได้ ทำไมไม่พิจารณาทางเลือกอื่น เช่น เช่าที่ในค่ายทหาร ที่มีมูลค่า 1พันล้านบาท ซึ่งราคาถูกกว่า แต่ขณะนี้มีคนคัดค้าน เพราะกิจการร่วมค้า ATTC  รับงานแล้วมีปัญหา ถูกยกเลิกสัญญา เพราะส่งมอบงานล่าช้า

นายภัณฑิล อภิปรายต่อว่าคำของบประมาณ เจอความประหลาด คือ ทำโครงการจัดทำคลังแสงอาวุธยุทธภัณฑ์ และระบบบริหารจัดการด้านอาวุธ ของตำรวจรัฐสภา วงเงิน 24 ล้านบาท  ที่ชั้น1 ทั้งนี้จะมีทำไม หรือจะสู้รัฐประหาร หรือ ปราบพวกเรากันเอง ทั้งนี้ยังพบเพื่ออบรมสัมมนา  โดยปี2569 ของบ 864 ล้านบาท  ซึ่งกรณีดังกล่าวเมื่อปี2568 พบรายละเอียดว่ามีคณะทำงานของผู้บริหารสภา เสนอของบเพื่อแจกเป็นทุน สนับสนุน กับประชาชนโดยตรง โดยมีลายเซ็นต์ของข้าราชการสภาฯ ทั้งที่ทำไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 รวมถึงผิดระเบียบกระทรวงการคลัง แต่มีการกดดันข้าราชการ จนทำให้ข้าราชการบอกว่าสามารถทำได้หากเป็นเรื่องอบรมสัมมนา ทำให้มีการบรรจุในคำของบประมาณ ในปี2568 แต่ถูกตัด จาก ครม.  เกิดความไม่พอใจ จนแปรญัติขอกลับมา และเมื่อได้เงินแล้วได้ตั้ง คนของตนเองเพื่อคุมการใช้เงิน

“โครงการมีจำนวนเยอะมาก 500 โครงการ สาวเชียงรายคงโชคดีจริงๆ ได้เต็มเลย เจ้าหน้าที่ของสำนักงานประธานสภาฯ จัดงาน 1,300 งานภายใน 1 ปี ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ซึ่งมีการกระซิบว่าเอามาก่อน หากเหลือจะเข้าสู่การโยกงบ นอกจากนั้นแล้วจะมีการจัดกองเกียรติยศของรัฐสภา   ซึ่งพบว่ามีการโอนงบจากโครงการพัฒนายุวชน และได้ข่าวว่ามีแผนจะโยกงบไปก่อสร้าง และปี2569 ยังมีงบอยู่เหมือนเดิม ส่อทุจริตอย่างชัดเจน” นายภัณฑิล อภิปราย

ขณะที่นายพิเชษฐ์ ชี้แจงว่า ตนขออธิบายว่า ห้องสัมมนา 1,500 คน มีแต่ความสวยงาม แต่ไม่มีเครื่องแสง หรือ อุปกรณ์ใดๆ ทำให้ไม่สามารถบริการประชาชนได้ ตนขอให้ตนติดตามและไปดูกับตนทุกอย่างที่ถาม ส่วนศาลาแก้ว มี 2 หลัง อาจเป็นที่พูดทั้งหมด แต่อยู่ในสภาพนี้ไม่ได้ เพราะจะมีงานใหญ่ต้องปรับปรุงให้เรียบร้อย ขณะที่พิพิธภัณฑ์ อาคารรัฐสภาออกแบบ 2 จุดคือ บริเวณเครื่องยอด แต่มีส่วนที่กำหนดไว้แต่ยังไม่มีการดำเนินการ และชั้น 1 จำเป็นต้องเอาของประวัติศาสตร์ของสภาฯ เก็บไว้จัดแสดง ตั้งงบมาหลายปี แต่ตกไปเพราะความไม่พร้อมของการออกแบบ

นายพิเชษฐ์ ชี้แจงต่อว่า ฉากหลังบัลลังก์ กรมศิลปากรออกแบบให้ มีกรรมการที่ดูแล แต่ยังของบไม่ได้ แต่แบบใกล้เสร็จแล้ว ส่วนที่จอดรถของรัฐสภา เดิมต้องมีชั้นใต้ดิน 3 ชั้น แต่ถูกยกเลิกไป 1 ชั้น เพราะถูกลดงบประมาณ ดังนั้น หากทำที่จอดรถจบแล้วไม่มีการก่อสร้างใดๆ อีก สำหรับพื้นที่ในรัฐสภาที่ยังไม่ถูกใช้สอย  เช่น ชั้น 5 ออกแบบให้เป็นสโมสรรัฐสภา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการยกร่างระเบียบ

“ตำรวจทุกคนไม่มีอาวุธ หากมีผู้ก่อการร้าย ที่มีอาวุธครบมือ พวกเราตายหมด เมื่อเกิดเหตุ ไม่มีใครป้องกันตัวได้ สภาฯทั่วโลกมีกองเกียรติยศ คือ ตำรวจ ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ทั่วโลกมีหมด หากดูรัฐสภาลาววันนี้ยิ่งใหญ่กว่าเรา หากไม่ทำของเราให้พร้อม ผมคิดว่าไม่มีโอกาสจะทำอีก ขณะที่เรื่องประชาธิปไตยหลังถูกปฏิวัติ การเชื่อมโยงกับเยาวชน ประชาชน จึงจำเป็นต้องมีการลงพื้นที่ แต่ที่บอกว่ามีผู้บริหารจะเอาให้ไปตรวจสอบได้เลย ทั้งนี้หากมีปัญหาอะไร จะเอาข้อมูลอะไรผมยินดี” นายพิเชษฐ์ ชี้แจง