'ภูมิธรรม' ไม่เห็นโพสต์ 'ฮุนเซน' ยุ ขนกำลังประชิดชายแดนไทย รอผลเจรจาวันนี้

'ภูมิธรรม' ไม่เห็นโพสต์ 'ฮุนเซน' ยุ ขนกำลังประชิดชายแดนไทย รอผลเจรจาวันนี้

“ภูมิธรรม” ยังไม่เห็นโพสต์ “ฮุนเซน” หนุนทหารกัมพูชา ขนอาวุธหนักประชิดชายแดนไทย ยันสองฝ่ายคุยกันแล้ว ยึดหลักการไม่เผชิญหน้า เจรจาถอยร่น 400 เมตร

29 พ.ค.ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี ฮุน เซน ประธานพฤฒสภากัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก สนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลกัมพูชา ในการส่งทหาร และอาวุธหนัก มาบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หากมีการรุกราน  

โดย นายภูมิธรรม ได้ถามกับผู้สื่อข่าวว่าโพสต์ว่า อย่างไร ตนยังไม่เห็นข้อความ ก่อนจะระบุต่อว่า เรื่องนี้มีความเข้าใจผิดกันทุกฝ่าย ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้พูดถึงจุดที่มีการดำเนินการอยู่ในพื้นที่ว่า แต่ละฝ่ายมีการรุกล้ำดินแดนเข้าไป ซึ่งเมื่อวานตนได้คุยกับที่ปรึกษาของสมเด็จฮุนเซนแล้ว และในหลักการไม่ต้องการให้มีการเผชิญหน้า ซึ่งอยากให้พยายามที่จะพูดคุยกัน โดยที่ไม่แตะเรื่องของดินแดน ณ ตอนนี้ 

นายภูมิธรรม​ ยังระบุอีกว่า ตนได้พูดคุยกับพลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เช่นเดียวกันกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา ที่ได้พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบกของประเทศกัมพูชา ซึ่งได้นัดเจรจากันในช่วงบ่ายวันนี้ และผู้บัญชาการทหารบก ก็จะลงไปดูพื้นที่จริงในวันนี้ เพราะขณะนี้ต่างฝ่าย ต่างพูดเรื่องแผนที่ ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างยากลำบาก และเข้าใจว่าสถานการณ์ตอนนี้ฝั่งกัมพูชามีผู้เสียชีวิต เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องของความรู้สึก และเมื่อวานนี้  (28 พ.ค.68) ทหารทั้งสองฝ่ายได้ถอยออกจากจุดเผชิญหน้า ฝ่ายละ 200 เมตร จากระยะเดิม 200 เมตร รวมแล้วถอยร่นออกจากแนวชายแดนมาเป็น 400 เมตร 

นายภูมิธรรม ยังระบุว่า ตนได้เห็นแถลงการณ์ของสมาคมผู้สื่อข่าวไทย และกัมพูชา เกี่ยวกับการนำเสนอข่าว ที่เรียกร้องขอให้สื่อฯ อย่านำเสนอข่าวให้เกิดความบานปลาย เพราะทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันแล้ว และไม่อยากให้เกิดข้อพิพาท รวมไปถึงไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้น ซึ่งการพูดไปในขณะนี้ เป็นการอ้างอิงที่ทั้งสองฝ่ายเห็นต่าง เพราะฉะนั้นขอให้รอเจรจากันก่อน ซึ่งตนเองได้สั่งการ และแม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บัญชาการทหารบกก็ได้รับรับทราบเรื่องนี้แล้ว ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถยุติเรื่องนี้ได้

เมื่อถามว่า หากในอนาคตมีการเจรจาจบแล้ว แต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยอม​ ที่จะดำเนินการตามข้อตกลง จะมีมาตรการอย่างไรต่อไป นายภูมิธรรม ระบุว่า ขอไปดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก่อน ซึ่งมีการนัดเจรจากันแล้ว และมอบนโยบายไปชัดเจนแล้วว่า โดยยืนหลักว่า อย่าให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก เพราะอยากให้เกิดสันติสุขในพื้นที่ดังกล่าว และพยายามให้ทั้งสองฝ่ายพยายามหาทางออกร่วมกันให้ได้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันในหลักการ 

ส่วนกรณีที่ไทยมีท่าทีที่ประนีประนอม แต่ฝั่งกัมพูชากลับมีท่าทีที่แข็งกร้าว นายภูมิธรรม​ ยืนยันว่า ไม่มี เพราะพูดคุยกันหมดแล้ว พร้อมขอให้สื่อทั้งสองฝ่ายอย่าเพิ่งนำเสนอข่าวให้เรื่องราวเกิดความขยายตัว