'วิโรจน์' ซัด 2กรมสร้างทาง ตั้งงบ69สูง ส่อหวังเงินทอน8พันล้านบาท

"วิโรจน์" สับ งบกรมทางหลวง-ทางหลวงชนบท เบ่งงบฯ69 สูง ส่อหวังเงินทอน รวมกว่า 8,161 ล้านบาท ต้นตอไม่แก้ประกาศการจัดชั้นผู้รับเหมา
ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ วาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี2569 วันแรก ต่องบประมาณของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท สังกัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการตั้งงบประมาณสูงเกินจริงเพื่อหวังกินเงินส่วนต่างหรือเงินทอน ว่า มีรายงานของคณะทำงานที่กรมบัญชีกลางตั้งขึ้นเพื่อทบทวนการจัดชั้นผู้รับเหมา ยืนยันต่อการประเมินว่ามีเงินทอนจากโครงการสร้างทาง โดยคิดเป็น 16.7% เพราะนำตัวเลขของการประกวดราคาของผู้รับเหมา ในปี 2566 พบว่ามีผู้รับเหมาชั้นพิเศษ ประหยัดงบได้ 0.4% ขณะที่ผู้รับเหมาชั้นหนึ่ง คือ 17.1% โดยส่วนต่าง 16.7% นั้นเชื่อว่าคือเงินทอน ที่แต่ละปีเชื่อว่าจะมีมูลค่าสูงถึงหลักพันล้านบาทที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ วาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี2569 วันแรก ต่องบประมาณของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท สังกัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการตั้งงบประมาณสูงเกินจริงเพื่อหวังกินเงินส่วนต่างหรือเงินทอน ว่า มีรายงานของคณะทำงานที่กรมบัญชีกลางตั้งขึ้นเพื่อทบทวนการจัดชั้นผู้รับเหมา ยืนยันต่อการประเมินว่ามีเงินทอนจากโครงการสร้างทาง โดยคิดเป็น 16.7% เพราะนำตัวเลขของการประกวดราคาของผู้รับเหมา ในปี 2566 พบว่ามีผู้รับเหมาชั้นพิเศษ ประหยัดงบได้ 0.4% ขณะที่ผู้รับเหมาชั้นหนึ่ง คือ 17.1% โดยส่วนต่าง 16.7% นั้นเชื่อว่าคือเงินทอน ที่แต่ละปีเชื่อว่าจะมีมูลค่าสูงถึงหลักพันล้านบาท
นายวิโรจน์ อภิปรายต่อว่า เช่น ในปี 2564 พบโครงการที่มูลค่า 450-500 ล้านบาท รวมมูลค่ากว่า 4.7หมื่นล้านบาท เมื่อคูณส่วนต่างจะมีราคาที่ 7,913 ล้านบาท ปี 2565 มีโครงการที่มีมูลค่า 450- 500 ล้านบาท รวมงบกว่า 1,850 ล้านบาท เชื่อว่ามีส่วนต่างที่ 309 ล้านบาท ปี 2566 มีโครงการที่มีมูลค่า 450- 500 ล้านบาท รวมงบกว่า 2.4หมื่นล้านบาท เชื่อว่ามีส่วนต่าง 4,027 ล้านบาท ปี2567 พบโครงการที่มีมูลค่า 450-600 ล้านบาท มีมูลค่า 5.2 หมื่นล้านบาท เชื่อว่ามีส่วนต่าง 8,829 ล้านบาท และปี 2568 พบโครงการมีมูลค่าา 450-600 ล้านบาท มีมูลค่ากว่า 3.6หมื่นล้านบาท เชื่อว่ามีการซุกเงินทอน 6,104 ล้านบาท ทั้งนี้อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะปี2564 เคยมีการปล้นปลัดกระทรวงกลางกรุง ที่พบซุกเงินพันล้านบาท ดังนั้นเชื่อว่าในขบวนการอาจมีเงินทอนหลายพันล้านบาทต่อปีก็เป็นไปได้
นายวิโรจน์ อภิปรายต่อว่า ในปีงบประมาณ 2569 มีงบประมาณก่อสร้างทางของกรมทางหลวง กว่า 5.9 หมื่นล้านบาท กรมทางหลวงชนบท 3,400 ล้านบาท รวมมูลค่า 6.2หมื่นล้านบาท มีโครงการก่อสร้างทางที่มีราคากลางตั้งแต่ 600 ล้านบาท รวม 57 โครงการคิดเป็นมูลค่า 4.8หมื่นล้านบาท มีสัดส่วนมาก 78.25% มีโครงการที่มีราคากลาง 450 -600 ล้านบาท จำนวน 10 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 4,934 ล้านบาท
“ผมยืนยันว่าหากไม่มีการแก้ไขประกาศจัดชั้นผู้รับเหมาประเมินได้ว่าปี 2569 เชื่อว่า 2 กรมจะซ่อนเงินทอนไว้ที่ 8,161 ล้านบาท ทั้งนี้การฮั้วประมูลและรีดไถของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ทำให้การก่อสร้างล่าช้าและมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ งบประมาณที่เผื่อเงินทอนและฮั้วประมูล หากสภาฯ ยอมรับเท่ากับทรยศต่อประชาชน ทั้งนี้ตนและพรรคประชาชนไม่สามารถให้งบประมาณปี2569 ผ่านไปได้”นายวิโรจน์ อภิปราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนั้นมีสส.ขึ้นอภิปรายในเนื้อหาจนถึงเวลา 23.00 น.นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ คนที่สอง ฐานะประธานในที่ประชุมได้สั่งพักการประชุม และนัดประชุมอีกครั้งในเวลา 09.00 น. ของวันที่ 29 พ.ค.68 รวมเวลาอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 69 วันแรก ซึ่งเริ่มขึ้นในเวลา16.00 น. รวมเวลาอภิปรายวันแรก จำนวน 7 ชั่วโมง.







