'โรม' กังขา ฮ.ตำรวจตกบ่อย ส่อทุจริต-ฝีเริ่มแตก จี้สางปัญหาด่วน

'โรม' กังขา ฮ.ตำรวจตกบ่อย ส่อทุจริต-ฝีเริ่มแตก จี้สางปัญหาด่วน

'โรม' กังขาเฮลิคอปเตอร์ตำรวจตกบ่อย ส่อทุจริตหรือไม่ ชี้ยำรวมอะไหล่ดี-เสียขายทิ้ง สะท้อนฝีเริ่มแตก เคยยื่น ป.ป.ช.สอบมาแล้วแต่คดีไม่คืบ จี้เร่งสางปัญหา ป้องเกิดซ้ำ

เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์กองบินตำรวจ รุ่นเบลล์ 212 ตกที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย ว่า เรื่องเฮลิคอปเตอร์ตก ได้เคยอธิบายไปแล้วเมื่อปี 2565 ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นในกองบินตำรวจ ย้อนไปตั้งแต่ผู้การท่านหนึ่ง โดยปรากฏว่ามันมีการยำอะไหล่ โดยเอาอะไหล่ดีกับอะไหล่ที่ไม่ดียำรวมกันแล้วขายทิ้งออกไป ทำให้เฮลิคอปเตอร์จำนวนมากของกองบินตำรวจ ไม่สามารถใช้งานได้ และยังพบว่านำอะไหล่ไปขายในราคาถูก และมีการนำเงินไปซื้ออะไหล่ที่ไม่จำเป็น อีกทั้งเมื่อดูในรายละเอียดพบว่ามีความน่าสงสัยสูง เช่น การซื้อตาข่ายกันนกในราคา 30 ล้านบาท ทั้งที่ราคาในตลาดทั่วไปหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทเท่านั้น และมีข้อบ่งชี้ว่ามีการทุจริตอย่างกว้างขวาง ซึ่งที่ผ่านมาได้เคยส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือ ปปช. เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดต่อไปแล้ว โดยผู้ที่เกี่ยวข้องในเวลานั้น ซึ่งเป็นอดีตผู้การฯ ก็จะเป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเรื่องนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าขณะนี้เกษียณไปแล้วหรือไม่

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ล่าสุดมีหนังสือตอบกลับจาก ป.ป.ช.ว่า เรื่องนี้ไม่มีมูล ซึ่งความหมายคือไม่พบการทุจริตเกิดขึ้นในกองบินตำรวจ ดังนั้นหากเป็นแบบนี้ “ฝีก็เริ่มแตก” เพราะการที่เฮลิคอปเตอร์ตกและก่อนหน้านี้ที่มีอุบัติเหตุในลักษณะคล้ายกัน สะท้อนให้เห็นว่า การบำรุงรักษาอากาศยาน และเฮลิคอปเตอร์ ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ตนทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ใช้ในกองบินตำรวจมีอายุการใช้งานมาก แต่การที่มีอายุมากกับการที่เฮลิคอปเตอร์ตกหรือใช้งานไม่ได้ เป็นคนละเรื่องกัน จึงเห็นควรให้เร่งดำเนินการเรื่องนี้ หาก ป.ป.ช.เห็นการทุจริต ดำเนินการเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องมาลงโทษได้ จะสะท้อนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพบเห็นว่ากองบินตำรวจมีการทุจริตเกิดขึ้น และจะเห็นความสำคัญของการบำรุงรักษาอากาศยาน หมายความว่าจะสามารถปรับปรุงแก้ไขได้ ทำให้นักบินเหล่านี้ไม่ต้องเสียชีวิต และยังช่วยป้องกันเหตุซ้ำได้ แต่ดูเหมือนว่า ป.ป.ช. ให้ความสำคัญกับการดำเนินคดีฝ่ายค้านมากกว่า โดยไม่ได้สนใจว่าการทุจริตในภาครัฐที่ส่งผลกระทบและเกี่ยวพันกับชีวิตของประชาชนที่ต้องมอดมลาย แล้วเจออุบัติเหตุแบบนี้ ป.ป.ช.กลับไม่สนใจ

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า การทุจริตดังกล่าวของกองบินตำรวจ เกิดขึ้นในยุคของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และอยากเรียกร้อง ป.ป.ช.ว่าควรตั้งคดีนี้และทำเรื่องเร่งด่วน เพราะมีพยานหลักฐานครบถ้วน แม้วันนี้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอดีตได้ แต่อย่างน้อยก็ไม่ควรมีรายต่อไปและลำต่อไป ที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

เมื่อถามถึงกรณีที่เพื่อนของนักบินออกมาเปิดเผยข้อความแชทที่นักบินยอมรับว่า เฮลิคอปเตอร์ไม่พร้อมใช้งาน มีโอกาสที่ กมธ.ความมั่นคงฯ จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบุคคลดังกล่าวมาชี้แจงหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่กำลังดูอยู่ เพราะมีเรื่องในคณะกรรมาธิการค่อนข้างมาก เช่น สารพิษในแม่น้ำกก การวิ่งเต้นในวงการตำรวจในคดี สว.ทรงเอ ที่ศาลให้ผู้พิพากษาที่เกี่ยวข้องกับการวิ่งเต้นออกจากราชการ รวมถึงเรื่องจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้นเรื่อง เฮลิคอปเตอร์ตกที่มีหลักฐานชัดเจนก็จะเป็นเรื่องที่พิจารณาต่อไป ซึ่งวันนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องให้ความชัดเจน ว่ารัฐบาลชุดนี้จะเอาจริงเอาจังกับปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในกองบินตำรวจมากน้อยเพียงใด