ดีเอสไอนัด 'ณฐพร' มาฟ้องคดีฟอกเงินวันนี้ เหตุคดีหมดอายุ 15 มิ.ย.

ดีเอสไอ แจงเรียกตัว 'ณฐพร โตประยูร' ผู้ถูกกล่าวหาคดีฟอกเงิน ขายที่ดินสหกรณ์คลองจั่นฯ 477 ล้านบาทวันนี้ หลังอัยการชงนำตัวมาฟ้อง คดีหมดอายุความ 15 มิ.ย.
เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2568 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยแพร่เอกสารข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณี สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) มีหนังสือจากอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 จำนวน 2 ฉบับ ถึงอธิบดีดีเอสไอ เพื่อนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีฟอกเงินการขายที่ดินของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น วงเงิน 477 ล้านบาท มีนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็น 1 ใน 14 ผู้ถูกกล่าวหาด้วย เนื่องจากคดีใกล้จะขาดอายุความ 15 ปี ในวันที่ 15 มิ.ย. 2568 นั้น
ดีเอสไอ ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า กรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 42/2559 กล่าวหานายศุภชัยฯ กับพวก รวม 14 คน ในความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน” ตามมาตรา 5 มาตรา 9 มาตรา 10 มาตรา 60 และมาตรา 61 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยสอบสวนเสร็จสิ้น และมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการไปเมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2560
ต่อมาพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 ได้พิจารณาสำนวนแล้วมีคำสั่งฟ้องนายศุภชัยฯ กับพวก รวม 14 คน ในความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน” และมีการฟ้องผู้ต้องหาบางรายต่อศาลและสืบพยานแล้ว
สำหรับนายณฐพรฯ พนักงานอัยการมีการนัดหมายให้ไปพบเพื่อฟังคำสั่ง แต่ไม่ได้ไปตามนัดหมายจนวันที่ 4 ก.พ. 2568 พนักงานอัยการจึงมีหนังสือให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จัดการให้ได้ตัวนายณฐพรฯ มายื่นฟ้องต่อศาล ภายในอายุความ 15 ปี นับแต่วันกระทำความผิด พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงได้ออกหมายเรียกนายณัฐพรให้มาพบเพื่อนำตัวส่งพนักงานอัยการ จำนวน 3 ครั้ง และต่อมาผู้ต้องหาได้มีหนังสือ ฉบับลงวันที่ 2 เม.ย. 2568 แจ้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษทราบว่าได้รายงานตัวกับพนักงานอัยการแล้ว พร้อมแนบสำเนาหนังสือที่มีถึงอธิบดีอัยการคดีพิเศษขอให้เลื่อนนัดหมายฟ้องคดีเนื่องจากอยู่ระหว่างขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด
จนวันที่ 1 พ.ค. 2568 สำนักงานอัยการคดีพิเศษ ได้มีหนังสือขอให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการเพื่อให้ได้ตัวนายณฐพรฯ มาเพื่อฟ้องอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนพิเศษได้นัดหมายให้ นายณฐพรฯ มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อเดินทางไปพบพนักงานอัยการ ภายในวันที่ 28 พ.ค. 2568 นี้ หากไม่มาพบตามหมายเรียก ก็จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป อันเป็นการดำเนินการต่อเนื่องตามคำสั่ง ของพนักงานอัยการ มิได้เป็นไปตามที่ปรากฎเป็นข่าวแต่อย่างใด จึงประชาสัมพันธ์มาเพื่อทราบโดยทั่วกัน







