ผ่าธุรกิจ ‘บิงลิน วู’ คีย์แมนอาณาจักร ‘ไชน่า เรลเวย์’ พันปมตึก สตง.

ผ่าขุมข่ายธุรกิจ “บิงลิน วู” คีย์แมนสำคัญ ก่อร่างสร้างเครือข่ายอาณาจักร “ไชน่า เรลเวย์” ในไทย เปิดบริษัทหลายสิบแห่ง รวมทุนจดทะเบียนหลายร้อยล้านบาท
KEY
POINTS
- ผ่าขุมข่ายธุรกิจ “บิงลิน วู” คีย์แมนสำคัญ ก่อร่างสร้างเครือข่ายอาณาจักร “ไชน่า เรลเวย์” ในไทย เปิดบริษัทหลายสิบแห่ง รวมทุนจดทะเบียนหลายร้อยล้านบาท ก่อนพา “ไชน่า เรลเวย์” เข้าเป็นคู่สัญญารัฐ โกยรายได้กว่าหมื่นล้านบาท
- ข้อมูลตามสำนวน “ดีเอสไอ” กล่าวหาเขาว่าเป็นบุคคลที่มอบหมาย “3 คนไทย” เข้าไปถือหุ้นในเครือข่ายธุรกิจนี้ มาตั้งแต่ปี 52 เปิดขุมข่ายธุรกิจล่าสุดที่เขายังถือหุ้นพบว่าเหลืออยู่ 4 แห่ง
- ปัจจุบัน “บิงลิน วู” ยังคงหลบหนีหมายจับคดี “นอมินี” ตึก สตง. แต่ดีเอสไอเชื่อว่าเขายังกบดานในไทย อยู่ระหว่างการตามล่าตัวมารับทราบข้อกล่าวหา
การสืบสวนสอบสวนกรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ วงเงินกว่า 2.1 พันล้านบาท ถล่มภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่มีกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี (อิตาเลียนไทยฯ และไชน่า เรลเวย์ฯ ดำเนินการก่อสร้าง) กำลังอยู่ในช่วง “โค้งสุดท้าย”
ทั้งประเด็น “นอมินี” ที่ส่งสำนวนให้อัยการเพื่อส่งฟ้องศาล ยังเหลือประเด็น “สาเหตุ” ตึกถล่มเกิดจากอะไร ซึ่ง “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะแม่งานที่ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.นี้ ส่วนคนที่ต้องรับผิดชอบกรณีดังกล่าว ตำรวจมีการแจ้งข้อกล่าวหา และส่งศาลฝากขังไว้แล้ว 17 ราย หนึ่งในนั้นปรากฏชื่อ “เปรมชัย กรรณสูต” เจ้าสัวธุรกิจอสังหาฯยักษ์ใหญ่ ประธานกรรมการบริหาร “อิตาเลียนไทยฯ” รวมอยู่ด้วย
แต่ยังมี “คีย์แมนสำคัญ” ซึ่งอาจจะเฉลยความลับทุกอย่างเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด แต่ปัจจุบันบุคคลนี้ยังอยู่ระหว่างหลบนี โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เชื่อว่า ยังคงกบดานอยู่ในไทย และอยู่ระหว่างปูพรมตามล่าตัวอยู่ นั่นคือ “บิงลิน วู”
กรุงเทพธุรกิจ นำเสนอข้อมูลไปแล้วว่า “บิงลิน วู” หรือ BINGLIN WU หรือที่ใช้ชื่อไทยอย่างไม่เป็นทางการว่า “ชาญชัย รุ่งโรจน์ธนเจริญ” นักธุรกิจเชื้อสายจีน คือหนึ่งใน “คีย์แมนสำคัญ” ที่ก่อร่างสร้างอาณาจักรธุรกิจ “ไชน่า เรลเวย์” ในไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่ช่วงปี 2552 ผ่านการถือครองหุ้นของ “3 คนไทย” ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น “นอมินี” ทุนจีน คือ โสภณ มีชัย ประจวบ ศิริเขตร และมานัส ศรีอนันท์
(ภาพ บิงลิน วู, ขอบคุณภาพจากเพจ รู้ทันจีน)
ปัจจุบัน “คดีนอมินี” กรณี “ไชน่า เรลเวย์” นั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้สรุปสำนวน และส่งให้อัยการเพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลไปแล้ว พร้อมด้วยพยานหลักฐาน เอกสารกว่า 17,620 แผ่น จำนวน 46 แฟ้ม ตั้งแต่เมื่อ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏชื่อผู้ถูกกล่าวหา 5 ราย ได้แก่ 3 คนไทยคือ โสภณ มีชัย ประจวบ ศิริเขตร มานัส ศรีอนันท์ ชวนหลิน จาง (กรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ) และ “บิงลิน วู”
ข้อมูลของ “บิงลิน วู” นั้น นำเสนอไปแล้วว่า เป็นนักธุรกิจที่เข้ามาบุกเบิก “เครือข่ายไชน่า เรลเวย์” ที่เข้าไปถือหุ้น และนั่งกรรมการในเครือข่าย “ไชน่า เรลเวย์” ในไทยหลายแห่ง โดยเป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 1 แห่ง และถือหุ้น 4 แห่ง ใน 14 บริษัทเครือข่าย “ไชน่า เรลเวย์” โดยทั้งหมดถือหุ้นกับ 3 คนไทยที่ถูกกล่าวหาเป็น “นอมินี” ในคดีนี้
เขาใช้ชื่อดังกล่าวในการทำธุรกิจหลายบริษัท เป็นนักธุรกิจเชื้อสายจีนที่เข้ามาบุกเบิกการทำธุรกิจ และวางรากฐานให้ “ไชน่า เรลเวย์” ตั้งแต่ปี 2552 แบ่งเป็น 3 ยุค
โดยข้อมูลของดีเอสไอ ระบุว่า ยุคแรก ระหว่างปี 2552-2559 กลุ่มทุนแห่งนี้มีการตั้งบริษัทอย่างน้อย 6 แห่ง รวมทุนจดทะเบียนกว่า 114.8 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท สันติภาพ อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต จำกัด บริษัท สันติภาพ การขนส่ง ไทย-จีน จำกัด (ปัจจุบันร้าง) บริษัท ยูไนเต็ด สตาร์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท วิล มาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท สันติภาพ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และบริษัท ไฮห่าน จำกัด โดยเกือบทั้งหมดในเครือข่ายตอนเริ่มต้น เกี่ยวพันกับนักธุรกิจจีนหลายคน รวมถึง 3 คนไทยคือ โสภณ มีชัย ประจวบ ศิริเขตร และมานัส ศรีอนันท์ ที่ถูกกล่าวหาเป็น “นอมินี” คดีนี้ด้วย
ยุคสอง ปี 2560 กลุ่มเครือข่ายไชน่า เรลเวย์ ได้ตั้งบริษัทเพิ่มอีก 4 แห่ง รวมทุนจดทะเบียนกว่า 39 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท บี เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (ปัจจุบันเสร็จการชำระบัญชี) บริษัท โชคนิมิต บิสซิเนส แอนด์ เซอร์วิส จำกัด บริษัท เอสทีพี อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เอวาน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ยุคสาม ปี 2564-2567 กลุ่มเครือข่ายนี้จัดตั้งบริษัทเพิ่มเติมอีก 5 แห่ง รวมทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท เอที แคปปิตอล โซลูชั่น จำกัด (ปัจจุบัน เสร็จการชำระบัญชี) บริษัท สแตร์ ลาเบล อินเตอร์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทสยาม ไบโอเมดิคอล ไซเอนซ์ จำกัด บริษัท ไซเบอร์ เทเลคอม จำกัด และบริษัท โมเยนเน่ (ประเทศไทย) จำกัด โดย “กลุ่ม 3 คนไทย” ยังได้รับความไว้วางใจให้นั่งกรรมการ และถือหุ้นเครือข่ายนี้เช่นกัน
โดยข้อมูลของดีเอสไอนั้น กรุงเทพธุรกิจเคยนำเสนอไว้แล้ว: สแกน 14 บริษัทเครือข่าย ‘ไชน่า เรลเวย์’ ดีเอสไอ-พณ.สางปม ‘นอมินี‘
มีรายงานข่าวแจ้งว่า “บิงลิน วู” มีบทบาทสำคัญกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยเป็นที่ปรึกษาให้กับองค์กรภาครัฐ และนโยบายของพรรคด้วย
ข้อมูลทางธุรกิจล่าสุดของ “บิงลิน วู” พบว่า เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 4 แห่ง และถือครองหุ้น 4 แห่ง ดังนี้
- บริษัท เอวาน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
บริษัทแห่งนี้มี “บิงลิน วู” ถือหุ้น 20% ประจวบ ถือหุ้น 27.9% มานัสเป็นกรรมการ และถือหุ้น 52.1% จดทะเบียนเมื่อ 16 พ.ย. 2560 ทุนปัจจุบัน 30 ล้านบาท วัตถุประสงค์ ร้านขายปลีกวัสดุก่อสร้างหลายชนิด รวมถึงวัสดก่อสร้าง จดทะเบียนวันที่ 16 พ.ย. 2560 นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2566 รายได้รวม 302,937,666 บาท รายจ่ายรวม 300,173,772 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 249,415 บาท เสียภาษีเงินได้ 561,437 บาท กำไรสุทธิ 1,953,041 บาท จากการตรวจสอบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พบว่าบริษัทแห่งนี้ เป็นคู่สัญญากับภาครัฐกับ กฟน.อย่างน้อย 3 สัญญา วงเงินรวม 69,259,388 บาท
- บริษัท วีล มาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัทแห่งนี้มี “บิงลิน วู” ถือหุ้น 5.9% มานัส เป็นกรรมการ และถือหุ้น 45.03% มีประจวบ ศิริเขตร ร่วมเป็นกรรมการด้วย จดทะเบียนเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2558 ทุนปัจจุบัน 67.8 ล้านบาท วัตถุประสงค์ประกอบกิจการขายปลีกชิ้นส่วนและอุปกรณ์เสริมใหม่ของยานยนต์ จดทะเบียนวันที่ 18 พ.ค. 2558 นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2566 รายได้รวม 336,023,204 บาท รายจ่ายรวม 331,623,133 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 641,241 บาท เสียภาษีเงินได้ 1,301,110 บาท กำไรสุทธิ 2,457,719 บาท
- บริษัท สันติภาพ อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต จำกัด
จดทะเบียนเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2552 ทุนปัจจุบัน 35 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 174 หมู่ที่ 6 ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ วัตถุประสงค์ นำเข้าเครื่องอุปโภค เครื่องแต่งกาย เครื่องใช้ในครัวเรือน กรรมการ 4 คนคือ บิงลิน วู ประจวบ ศิริเขตร มานัส ศรีอนันท์ อิทธิพัทธ์ วรธำรงเกียรติ
นำส่งผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 29 ส.ค. 2567 มานัส ศรีอนันท์ ถือหุ้นใหญ่สุด 48% บิงลิน วู (สัญชาติจีน) ถือรองลงมา 41.3% อิทธิพัทธ์ วรธำรงเกียรติ ถือ 10.7% นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2566 สินทรัพย์รวม 276,810,517 บาท หนี้สินรวม 245,228,354 บาท รายได้รวม 46,275,105 บาท รายจ่ายรวม 41,511,680 บาท
บริษัทแห่งนี้เป็นคู่สัญญารัฐกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ในการจ้างเหมาซ่อมรถยนต์ของทางราชการ อย่างน้อย 6 สัญญา รวมวงเงิน 341,489 บาท
- บริษัท เอสทีพี อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัทแห่งนี้มีชื่อเดิมว่า บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นบริษัท เอสทีพี อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2561 จึงมีการจัดตั้ง บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด (อีกแห่ง) ในเวลาต่อมา
บริษัทแห่งนี้มี “บิงลิน วู” ถือหุ้น 0.05% ประจวบ ถือหุ้น 37.48% มานัส เป็นกรรมการ และถือหุ้น 62.48% จดทะเบียนเมื่อ 24 ต.ค. 2560 ทุนปัจจุบัน 2 ล้านบาท วัตถุประสงค์ประกอบกิจการบริการพิธีการศุลกากรเพื่อนำเข้า ส่งออกสินค้า และจำหน่ายสินค้าประเภทต่างๆ จดทะเบียนวันที่ 24 ต.ค. 2560 นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2567 รายได้รวม 6,321,912 บาท รายจ่ายรวม 5,886,909 บาท เสียภาษีเงินได้ 28,789 บาท กำไรสุทธิ 406,213 บาท







