แกะรอย ตัวละครลับ ‘2 ส.’ อำนาจซ้อนรัฐ คุมเกม‘ฮั้ว สว.’

แกะรอย ตัวละครลับ ‘2 ส.’ อำนาจซ้อนรัฐ คุมเกม‘ฮั้ว สว.’

สถานการณ์การเมืองช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หรือหลังจาก พ.ร.บ.งบประมาณปี 69 ผ่าน น่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้น กรณี ฮั้ว สว. ใครจะตายกันไปข้าง หรือจบฮั้วด้วยฮั้ว

KEY

POINTS

  • นับวันปมร้อนฮั้ว สว. ยิ่งจะเพิ่มตัวละครผู้ยิ่งใหญ่เบื้องหลังนอกวงการเมือง แต่มีบทบาทสูงหลายวงการเข้ามาเกี่ยวพัน 
  • สว.ในข่ายโดนเช็กบิล แก้เกมเร่งเดินหน้าสรรหาคนไปนั่งในองค์กรอิสระ ตามที่หลายฝ่ายกังวล ก็ยิ่งสร้างเงื่อนไขแตกหักให้ใกล้เข้ามา
  • ครึ่งหลังปีนี้ สถานการณ์การเมืองน่าจะชัดเจนขึ้น ใครจะอยู่หรือไป
  • หลายพรรค และนักเลือกตั้ง กำลังปั่นราคาสร้างค่าตัวรับเลือกตั้งกันให้วุ่น

ศึก 2 สี “แดง-น้ำเงิน” เร่งเร้าให้ถึงจุดแตกหักทุกขณะ จากพิษฮั้ว สว.ที่เปิดศึกฟาดฟันผ่านสงครามตัวแทน ทั้งกลไกอำนาจ และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง คณะสืบสวน และไต่สวนของ กกต. ทยอยออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง

เส้นเรื่อง ค่อยๆ ขมวดเข้าใกล้ตัวละครสำคัญทางการเมือง ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการฮั้วเข้าไปทุกที ทั้งที่ฝ่าย “นายใหญ่” รู้ดีว่า การที่ฝ่ายการเมืองบางกลุ่ม กล้าเข้าไปบริหารจัดการเพื่อต่อท่ออำนาจในสภาสูงนั้น มีคนใหญ่คนโตคอยให้ท้าย

ว่ากันว่า ผู้มีอำนาจทับซ้อนการเมืองคนหนึ่ง เบนเข็มใช้บริการเครือข่ายเจ้าของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง แทนบิ๊กเนมในขั้วอำนาจเก่า เพื่อปฏิบัติภารกิจยึดเสียงข้างมากใน สว.เพื่อค้านอำนาจ “นายใหญ่” และเพื่อไทย

สว.หลายยุคหลายสมัยในอดีต ที่การเมืองเข้าไปข้องแวะครอบงำ จนถูกเรียกสภาผัวเมีย คนจากตระกูลการเมือง นามสกุลเดียวกันแบ่งบทบาทเข้าไปมีตำแหน่ง เช่น สามีเป็น สส. ภรรยาหรือญาติโกโหติกาเป็น สว. จนกลไกการทำงานบิดเบี้ยว ไม่ฟังก์ชันอย่างที่ควรจะเป็น 

ยุคนี้ก็อาจจะไม่ต่าง พื้นเพ สว.หลายคนใกล้ชิดนักการเมือง หรือเป็นลูกน้องนักการเมืองทั้งสิ้น

ขั้วตรงข้ามสีน้ำเงินจึงอยู่เฉยไม่ได้ นอกจากมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานประจักษ์ชัดแล้ว หากปล่อยเลยตามเลย วันหน้าคมหอกนั้นอาจกลับมาทิ่มแทง จึงต้องรีบจัดการอาวุธสำคัญที่สามารถสกัดฝ่ายบริหารได้

การเปิดชื่อ “2 ส.” ของ “ณฐพร โตประยูร” ผู้ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย จากเคสฮั้ว สว.ว่า เป็นผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ควบคุมองค์กรอิสระ คอการเมืองพอคาดเดาได้ว่า ใครเป็นใคร

ส.คนแรก” อาจจะทำให้หลายคนนึกถึง “ตั๋วช้าง” ตามที่ สส.ส้ม เคยอภิปรายฯ ถึงเรื่องการแต่งตั้งตำรวจระดับสูงในยุคสมัยหนึ่ง และช่วงก่อนมีประเด็นเช็กบิลฮั้ว สว. ก็เคยปรากฏตัวลงพื้นที่ออกงานตรวจราชการกับรัฐมนตรีกระทรวงเกรดเอกระทรวงหนึ่ง 

ตอนนั้นก็มีข้อสังเกตค่อนข้างมากว่า พรรคการเมืองพรรคนั้น กำลังสื่อสารทางการเมืองว่า ตัวเองได้รับฉันทานุมัติบางอย่าง แต่เพียงผู้เดียวหรือไม่

ส่วน “ส.คนที่สอง” น่าจะอยู่ในแวดวงธุรกิจ มีอิทธิพลอย่างมากในหลายวงการ ไม่เว้นแม้แต่ในรัฐบาลนี้หรือรัฐบาลก่อน เติบโตยิ่งใหญ่ สยายปีกขึ้นเรื่อยๆ ใกล้ชิดผู้มีอำนาจตัวจริงที่สุดคนหนึ่งในรัฐบาลปัจจุบัน 

ถ้าตัวละคร 2 ส. สามารถกำหนดทิศทางได้จริง โดยเฉพาะเกมฮั้ว สว. ก็ยิ่งสร้างอำนาจต่อรองได้กับทั้งฝ่ายแดง และน้ำเงิน หรืออาจจะเลือกข้างใดข้างหนึ่งไปเรียบร้อยแล้ว

จังหวะหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ สว.ในข่ายถูกกล่าวหาฮั้ว เลยต้องชิงเหลี่ยม ดันวาระสำคัญตั้งคณะกรรมาธิการสามัญตรวจสอบประวัติบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง กกต. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และอัยการสูงสุด และให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป.ป.ช. ในการประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญ 30 พ.ค.นี้

ทำเอาหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องนั่งไม่ติด พยายามหาทางสกัด หรือยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ สว.ที่กำลังสู้คดีฮั้ว หยุดปฏิบัติหน้าที่ 

ฝ่าย สว.สีน้ำเงินเอง ก็ไม่อยู่เฉย ยื่นร้ององค์กรอิสระให้ช่วยจัดการตัดวงจรที่กำลังเดินหน้าตรวจสอบเครือข่ายตัวเองว่า ทำไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

สถานการณ์การเมืองช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หรือหลังจาก พ.ร.บ.งบประมาณปี 69 ผ่าน คาดว่าจะได้เห็นความเคลื่อนไหวที่ชัดเจนมากขึ้นว่ารัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จะเดินหน้าต่อราบรื่น หรือสะดุดจากความเปลี่ยนแปลงใดหรือไม่ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ

ถึงตอนนั้น กรณี ฮั้ว สว. น่าจะเห็นทิศทางชัดเจนขึ้นว่า ใครจะตายกันไปข้าง หรือจบฮั้วด้วยฮั้ว หรือไม่ รวมถึงนักเลือกตั้ง ที่กำลังยึกยักสร้างราคา จะอยู่หรือไปพรรคใหม่ ก็เริ่มเห็นสัญญาณการจัดทัพรับเลือกตั้งกันแล้ว 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์