'จรัญ' ชี้ปม สว. พันฮั้วถกตั้งองค์กรอิสระ ต้องคำนึงหลักจริยธรรม

'จรัญ' ชี้ปม สว. พันฮั้วถกตั้งองค์กรอิสระ ต้องคำนึงหลักจริยธรรม

“จรัญ” ชี้ปม สว. พันปมฮั้ว ถกตั้งองค์กรอิสระ ต้องคำนึงหลักจริยธรรม รับกฎหมายไม่ห้าม แต่ต้องมีจริยธรรมมากกว่าผู้ถูกตรวจสอบ หวั่นขัดกันระหว่างผลประโยชน์

จากกรณีที่น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ พยายามรวบรวมรายชื่อ 20 สว. เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้ สว. 200 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่ เฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเห็นชอบบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมี สว. หลายคนอยู่ระหว่าวถูกตรวจสอบเกี่ยวกับคดีฮั้วเลือก สว.

นายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการคมชัดลึก ออกอากาศผ่านช่องเนชั่นทีวี ระบุว่า กล่าวว่า เราต้องตั้งประเด็นว่า ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และถ้าชอบด้วยกฎหมายเหมาะสมหรือไม่ เอาเรื่องกฎหมายก่อน ถ้าเราอ่านหมวดอำนาจหน้าที่องค์กรอิสระ และศาลรัฐธรรมนูญ เราจะไม่เห็นประเด็นนี้ชัดเจน แต่ถ้าเราดูมาตรา 203 วรรคหก บัญญัติไว้ว่า เวลาคณะกรรมการสรรหาจะสรรหาคนที่จะเลือกให้เป็นองค์กรอิสระ โดยเสนอต่อ สว. คณะกรรมการสรรหาต้องตรวจดูด้วยว่าบุคคลมาสมัครมีความรับผิดชอบสูงหรือไม่ มีความกล้าหาญในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ และที่สำคัญมีพฤติกรรมทางจริยธรรมเป็นตัวอย่างที่ดีทางสังคมหรือไม่

โดยตัวนี้มันไม่ใช้ลักษณะต้องห้ามของ สว. มันเป็นลักษณะเฉพาะที่บวกกับคุณสมบัติทั่วไป เพราะฉะนั้นคนไปสมัครเป็นองค์กรอิสระ หรือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ต้องมีพฤติกรรมทางจริยธรรมเป็นตัวอย่างที่ดีทางสังคมด้วย เขาต้องโดนตรวจสอบในชั้นคณะกรรมการสรรหา แล้วเมื่อผ่านคณะกรรมการสรรหาแล้วเสนอมาขอความเห็นชอบจาก สว. ตรงนี้กฎหมายไม่ได้ห้ามว่า สว. จะไปพิจารณาเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ในกรณีที่เป็นองค์กร หรือกรณีที่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ต้องกลับมาตรวจสอบ สว. ด้วย ซึ่งไม่ได้พูดชัด แต่โดยกฎหมายไม่ห้ามก็จริง แต่หลักการทางด้านธรรมาภิบาลถือว่าถ้าเราตรวจสอบจริยธรรมใคร คนตรวจสอบต้องมีพฤติกรรมทางจริยธรรมที่ชัดเจนว่าคนที่ถูกตรวจสอบ
 

“นี่เป็นหลักการ เมื่อเราจะตรวจสอบว่าเขาทุจริตหรือไม่ คนตรวจสอบจะต้องไม่มีพฤติกรรมวี่แววของความทุจริตอยู่ มันถึงจะถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาล การปกครองโดยธรรม การปกครองที่ดี ดังนั้นมันก็มีปัญหา มันเหมาะสมไหม มันสมควรไหม เราจึงต้องให้เอากฎหมายในมาตรา 203 วรรคหก เป็นฐาน ทั้งกรรมการสรรหา ทั้ง สว. ท่านจะต้องมีจริยธรรมเป็นแบบอย่างของสังคม”

นายจรัญ กล่าวต่อว่า ที่มันเกี่ยวเพราะมาตรฐานจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ จะต้องไม่มีความขัดแย้งระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม ถ้าขัดแย้งกันมันผิดมาตรฐานทางจริยธรรม ซึ่งมีแบบอย่างผิดจริยธรรมร้ายแรงมาให้เห็นแล้ว ซึ่งศาลฎีกาวางขอบเขตเอาไว้แล้วว่าต้องเป็นเรื่องที่ทำในอำนาจหน้าที่ของตน ย้อนกลับมาเรื่องที่ สว. จะตรวจสอบคนที่อาสามาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ ท่านก็จะต้องตรวจสอบ ท่านมีอำนาจหน้าที่โดยตรง ถ้ามีผลประโยชน์ขัดแย้งกันระหว่างส่วนตัวและส่วนรวม ถ้าขืนทำมันก็เป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงได้ มันตีกลับได้ 

“ผมถึงมองว่า กฎหมายไม่ได้เขียนห้ามท่านเอาไว้ก็จริง แต่ประเด็นละเอียดกว่ากฎหมายคือมันสมควรทำไหม มันจะฝ่าฝืนจริยธรรมไหม ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นแล้วไอ้ที่คิดว่าไม่มีปัญหา มันจะมีปัญหาใหญ่เลยทีเดียว เวลาตรวจสอบคนที่อาสามาทำหน้าที่สำคัญ ต้องตรวจสอบทางจริยธรรมว่าเป็นแบบอย่างได้หรือไม่ เมื่อเราจะตรวจสอบเขา คนตรวจสอบต้องมีมาตรฐานจริยธรรม แล้วเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรม ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เสียหาย ใครก็ได้ร้องต่อ ป.ป.ช. ซึ่ง ป.ป.ช. ต้องไต่สวนทันที เพราะฉะนั้นในความเห็นผม เพื่อความรอบคอบ ผมว่าเลื่อนภารกิจนี้ไปก่อนดีกว่า เพราะคนในองค์กรอิสระ ท่านยังทำงานได้อยู่ ไม่ได้มีเหตุว่าถ้าไม่ผ่านภายในวันนี้ เดือนนี้ จะเกิดสุญญากาศขึ้น”
 

เมื่อถามว่า หาก สว. ไม่หยุดรับรององค์กรอิสระ ถ้าคนที่ได้รับเลือกจาก สว. ชุดนี้ ควรถอนตัวจากคดีหรือไม่ นายจรัญ กล่าวว่า อันนี้จะมีแน่นอน แต่เราอย่าคิดล่วงหน้าไปก่อน เราเอาที่ใกล้ก่อน ซึ่งอาจจะมีปัญหาในการกราบบังคมทูลของโปรดเกล้าด้วย อย่างไรก็ตามโดยหลักการ เจ้าตัวต้องแถลงขอให้ที่ประชุมพิจารณาว่า ตนมีข้อมูลแบบนี้ ควรจะถอนตัวหรือไม่ เพื่อความสง่างามขององค์กร แต่ถ้าเจ้าตัวมั่นใจว่าไม่เห็นเกี่ยว แต่คนที่เกี่ยวข้องเช่น โจทย์ จำเลย ผู้ถูกกล่าวหา เขามีสิทธิคัดค้านได้ ซึ่งเจ้าตัวต้องทบทวนดู และต้องให้คณะกรรมการด้วยกันลงมติชี้ขาด

เมื่อถามว่า อาจจะมี สว. บางท่าน ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ สว. หยุดปฏิบัติหน้าที่กรณีการเลือกองค์กรอิสระ สามารถทำได้หรือไม่ นายจรัญ กล่าวว่า ก่อนที่จะขอใช้วิธีการชั่วคราว ต้องมีคดีหลักเข้าไปถึงศาลก่อน ถ้าไม่มีคดีหลัก กฎหมายไทยไม่เปิดช่องให้มาขอวิธีชั่วคราว ทางคดีบุคคลที่ต้องการจะขอ คุณทำแค่นี้ไม่ได้ คุณต้องทำคดีหลัก แล้วเขาก็ทำคดีหลักอยู่ แต่หาชื่อไม่ครบ มันยังทำคดีหลักไม่ได้ ตราบใดที่ทำคดีหลักไม่ได้ ก็จะใช้วิธีชั่วคราวไม่ได้

“ส่วนจะให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ทั้งหมด หรือบางส่วน เป็นเรื่องที่ทำได้แน่ๆ ในเมือกฎหมายให้อำนาจสั่งให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่ ท่านใช้หลักความได้สัดส่วน พอเหมาะพอควรเท่าที่จำเป็นและมีเหตุสมควร ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามเหตุผลสมควร เขาอนุญาตให้ทำได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เราได้ 80 เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่ผิดอะไร ดีเสียอีก เพราะจะได้ไม่เป็นการใช้อำนาจหน้าที่สุดโต่ง จนเสียหลักความได้สัดส่วน”