‘ครม.’ จ่อไฟเขียว 4 มิ.ย.นี้ ไทยเจ้าภาพจัดแข่ง F1 แสนล้าน กทม. ปี 71

“โฆษกรัฐบาล” อวย “นายกฯ” ทัวร์ยุโรปไม่เสียเที่ยว ผลสัมฤทธิ์ 4 เรื่อง ผู้บริหาร F1 ตอบรับไทยเสนอตัวจัดแข่ง ชง ครม. อนุมัติหลักการ 4 มิ.ย.68 นี้ คาดเป็นจริงปี 71 ดัน Soft Power ลุย FTA ไทย-อังกฤษ เร่งกระตุ้นท่องเที่ยวตลาดยุโรป
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เสร็จสิ้นภารกิจเยือนสหราชอาณาจักร และราชรัฐโมนาโก ระหว่างวันที่ 21–25 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นการเดินทางคณะเล็กเพียงแค่ 4 วัน แต่ถือว่านายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ได้อย่างน่าประทับใจทั้งการเจรจาการค้า และพบปะกับนักธุรกิจเพื่อช่วยกันสนับสนุน และแก้ไขปัญหา สินค้า บริการของไทย ที่มีในยุโรปได้เป็นผลสำเร็จอย่างงดงาม ถึง 4 เรื่องด้วยกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ไม่รู้สึกกังวลใจกับบุคคลที่ไม่เห็นด้วยที่พยายามใช้โซเชียลมีเดียโจมตี เพราะเรื่องที่โจมตีก็ไม่เป็นความจริง และการเดินทางในครั้งนี้ นายกฯ มีจุดโฟกัส อยู่ที่ผลของงานมากกว่า เพราะหากไม่มีสมาธิจะทำให้การเจรจาเรื่องสำคัญใน3-4 วันที่ผ่านมา จะพลาดไปอย่างน่าเสียดายสำหรับโอกาสของประเทศไทย โดยภารกิจในครั้งนี้ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของประเทศไทยในการต่อยอดวาระแห่งชาติ Soft Power สร้างชาติสู่เวทีโลก และเตรียมความพร้อมประเทศไทยสู่บทบาทเจ้าภาพงานระดับนานาชาติ
นายจิรายุ กล่าวว่า สัมฤทธิผลเรื่องที่ 1 ที่ ทำให้หลายประเทศทั่วโลก จับตาคือ การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ระดับโลกอย่าง F1 เป็นเรื่องสำคัญที่หลายประเทศในโลก พยายามจะเป็นเจ้าภาพให้ได้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะการขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่ง Formula 1 มีปัจจัยหลายประการ ถือเป็นกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตสำคัญระดับโลกที่จะทำให้ประเทศไทยมีการลงทุนมหาศาลจากนักลงทุนภาคเอกชนซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 2 หมื่นล้านบาท จะทำให้มีรายได้เข้าประเทศในทุกมิติ โดยการจัดการแข่งขัน Formula 1 (F1) จะสร้างรายได้มหาศาล ทั้งจากการขายตั๋ว ค่าธรรมเนียมสนาม ค่าสิทธิการออกอากาศและรายได้จากสปอนเซอร์ รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวและกิจกรรมอื่นๆ รายได้จากการจัดการแข่งขัน F1 ไม่ได้มาจากการขายตั๋วหรือสปอนเซอร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงส่วนแบ่งจากการเก็บค่าธรรมเนียมจากสนาม การจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งคอนเสิร์ต งานโชว์ ยานยนต์ และอื่นๆอีกกว่า 1 แสนล้านบาท
โดยนายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวคิดจัดงานในแนวทาง “Sustainable F1” ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดึงดูดการลงทุนเทคโนโลยีสีเขียวควบคู่ไปกับกีฬา มอเตอร์สปอร์ต ซึ่งผู้บริหารระดังสูง F1 มีการตอบรับที่ดีในแนวทางที่เสนอ ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการเข้าสู่เวทีมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก และการใช้กีฬาเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจอย่างสร้างสรรค์
ทั้งนี้ หลังการเจรจามีผลสัมฤทธิ์โดยรัฐบาล จะทำการศึกษาให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ โดยจะขออนุมัติหลักการในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการและการศึกษาการเป็นเจ้าภาพ โดยจะนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันพุธที่ 4 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ เพื่อขออนุมัติหลักการดำเนินการ คาดว่าในปี พ.ศ.2571 หรือในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยหวังว่าประเทศไทยจะเป็น1 ใน 24 สนามระดับโลก ที่มีโอกาสจัดการแข่งขัน FORMURA ONE ในกรุงเทพฯ
นายจิรายุ กล่าวว่า ผลสัมฤทธิ์เรื่องที่ 2 คือ การขยายตลาด สร้างการรับรู้ Softpower ไทย “มวยไทย - อาหารไทย - สปาไทย” โดยเฉพาะมวยไทย นายกรัฐมนตรีมีแนวทางให้มีสถาบัน/องค์กรที่เป็นยอมรับในระดับสากล มาร่วมกำหนดมาตรฐานกลางสำหรับการฝึกสอน และการแข่งขันมวยไทย เพื่อขยายโอกาสวิชาชีพสำหรับคนในวงการมวยไทย ทั้งใน และต่างประเทศทั่วโลก
ทั้งนี้ “มวยไทย”ในฐานะ “มรดกวัฒนธรรมของชาติ” ที่สามารถสร้างรายได้ ส่งออกทักษะ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยนายกรัฐมนตรีให้นโยบายว่า จะต้องมีสถาบันสากลให้การรับรองหลักสูตรฝึกสอนมาตรฐานสากล ทั้งระบบ ครูมวย นักมวย กรรมการ พี่เลี้ยง ผู้จัดการ รวมไปถึงอุปกรณ์ สถานที่ฝึกสอน โรงยิมค่ายมวย เพื่อสร้างมาตรฐาน ขยายโอกาส วงการมวยไทยในต่างแดน รวมถึงผลักดันการสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์เชื่อมโยงโรงยิมมวยไทยในต่างประเทศกับประเทศไทยโดยตรง
สัมฤทธิผลเรื่องที่ 3 นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ ขจัดอุปสรรคทางการค้า-การนำเข้าสินค้าไทยใน อังกฤษ โดยการเร่งรัดให้เกิดการเจรจา FTA ระหว่างไทย - อังกฤษ หรือ รูปแบบ mini-FTA เพื่อ อำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของอาหาร และลดข้อจำกัดโควตา และภาษีศุลกากร โดยได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางแนวทางการส่งออกอย่างยั่งยืนทั้งในอังกฤษ และประเทศในสหภาพยุโรปอีกด้วย
สัมฤทธิผลเรื่องที่ 4 นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเร่งกระตุ้นการท่องเที่ยวจากตลาดยุโรป โดยได้รับการตอบรับจาก บริษัทนำเที่ยวรายใหญ่ เช่น Trailfinders, Emirates และสายการบินระหว่างประเทศ ที่จะเพิ่มเที่ยวบิน ระหว่างไทย และยุโรป ซึ่งนักท่องเที่ยวยุโรปมองไทย เป็น Hub ที่จะเดินทางต่อไปในประเทศอี่น ปัจจุบัน จำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรปเดินทางเข้าเที่ยวไทยเพิ่มมากขึ้น เป็นกลุ่ม ไฮเอนด์ luxury tourism ที่มีการใช้จ่ายสูง โดยนิยมการท่องเที่ยวแบบหรูหรา มีระดับ สร้างรายได้การท่องเที่ยวในระดับตลาดพรีเมียม ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนการจัด แพ็กเกจ การท่องเที่ยวร่วมกันระหว่าง ททท. และเอกชนบริษัทท่องเที่ยวในยุโรป เพื่อขยายตลาดการท่องเที่ยวทันที
ทั้งนี้ การเยือนประเทศอังกฤษ และโมนาโกเพียงแค่ 4 วันทำให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำของประเทศไทยได้เจรจาเพื่อแก้ไขปัญหา ทั้งการสนับสนุน และส่งเสริมสินค้าธุรกิจในทุกประเภทของไทยในสหภาพยุโรปให้มียอดขายที่สูงขึ้น อีกทั้งประเทศไทยจะถูกนับเป็นประวัติศาตร์ที่ประสบผลสำเร็จในการเจรจาจัดการแข่งขันระดับโลกในประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายสำคัญที่จะจัดทำกิจกรรมการสนับสนุนส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นหรือ(Man-made Destination )อันเป็นต้นทางสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ได้ในภาวะความกดดันทางเศรษฐกิจของโลกได้“ นายจิรายุ กล่าว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







