'เพื่อไทย' ยัน 'ยิ่งลักษณ์' มีหลักฐานใหม่สู้คดีจำนำข้าว

'เพื่อไทย' ห่วง 'ยิ่งลักษณ์' คดีจำนำข้าว ยันมีช่องทางต่อสู้จากการขายข้าว เผยเป็นหลักฐานใหม่ ยังไม่เคยเข้าสู่การพิพากษา
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรค พท. แถลงถึง จุดยืนพรรคเพื่อไทย ใน คดีจำนำข้าว ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า พรรค พท.มีความเป็นห่วงเป็นใยและสงสาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากหลายท่านทราบดีว่าคดีเรื่องการจำนำข้าวนั้นเป็นคดีที่เกิดขึ้นในช่วงของการปฏิวัติรัฐประหาร และเป็นหนึ่งในเหตุผลของการยึดอำนาจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในขณะนั้น เวลาผ่านไป 10 กว่าปี
โดยตนเชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีทีมกฎหมาย มีทนายที่ร่วมต่อสู้คดี แต่เมื่อคดีถึงที่สุด พรรค พท.ก็ต้องยอมรับในคำตัดสิน และอยากจะใช้ช่องทางกฎหมายเท่าที่เหลืออยู่ต่อสู้ในคดีนี้
“พรรคเพื่อไทยเองเป็นกำลังใจให้ท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ ขอเรียนว่าหลังจากที่ตัดสินไปแล้ว มีการสอบถามมายังพรรคค่อนข้างเยอะมาก และเราก็ได้ไปพูดคุยกับฝ่ายกฎหมาย พูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค ขอเรียนว่าคดีนี้ยังมีช่องทางพอต่อสู้ได้อยู่” นายดนุพร กล่าว
นายดนุพรกล่าวต่อว่า คดีนี้มีการขายข้าวได้น่าจะเป็นหลักฐานใหม่ที่จะนำไปสู่การขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาคดี หรือมีคำสั่งชี้ขาดใหม่ได้ ภายใน 90 วัน ตามมาตรา 75 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดี พ.ศ.2542
“เป็นหลักฐานใหม่คือการขายข้าว 18.9 ล้านตัน เมื่อปีที่แล้ว ยังไม่ได้นำเข้าสู่การพิพากษาในคดี เพราะเป็นพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นภายหลังการสิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริงแล้ว ฉะนั้น ทางพรรคเองมองว่าเป็นหลักฐานใหม่ที่ยังไม่เคยเข้าสู่กระบวนการพิจารณา ดังนั้น เราจะใช้ช่องทางทางกฎหมายตามมาตรา 75 นี้ เป็นช่องทางต่อสู้ต่อไป” นายดนุพร กล่าว
นายดนุพร กล่าวต่อว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อตอนปฏิวัติ ซึ่งผู้นำในการปฏิวัติในขณะนั้นได้มีการใช้มาตรา 44 หลายฉบับ เกี่ยวข้องกับคดีการจำนำข้าว แต่แน่นอนเราก็ต้องต่อสู้กันไปโดยใช้หลักฐานใหม่ ส่วนเรื่องนี้ที่เห็นว่าเฟซบุ๊กของพรรค พท.ลงโพสต์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตนขอเรียนว่านโยบายจำนำข้าวนั้นเป็นนโยบายหลักที่พรรค พท.ใช้ในการหาเสียงเมื่อปี 2554 พวกเราชนะการเลือกตั้งส่วนหนึ่งก็มาจากนโยบายนี้
"นโยบายการจำนำข้าวนั้น ได้แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่จะทำให้พี่น้องเกษตรกรชาวนาสามารถลืมตาอ้าปากได้ ดังนั้นเป็นเหตุจำเป็นที่พรรค พท.จะต้องลงโพสต์ชี้แจง พูดถึงข้อเท็จจริงเรื่องของคดีนี้ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไร"
ส่วนหลายท่านที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เปรียบเทียบคดี 112 เป็นการเมืองหรือไม่ ทำไมไม่แสดงความเห็น ตนต้องเรียนว่าในเดือนกรกฎาคม จะมีการเปิดประชุมสภาอย่างเป็นทางการ และในวันที่ 9 กรกฎาคม จะมีการพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม
"ดังนั้นไม่อยากให้ถกเถียงกันนอกสภาว่าเป็นการเมืองหรือไม่ ตนคิดว่าเมื่อถึงขั้นตอนของการพิจารณากฎหมายในวันที่ 9 กรกฎาคม ก็ไปพูดคุยอภิปรายในสภา เราจะหาข้อสรุปได้ในวันนั้น รวมถึงเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ด้วย"
เมื่อถามว่า มีนักกฎหมายวิเคราะห์ไม่สามารถนำข้าวที่ขายมาชดเชยได้ นายดนุพรกล่าวว่า เป็นเรื่องของศาล เพียงแต่ว่าเราก็มีช่องทางทางกฎหมายที่เหลืออยู่ โดยใช้มาตรา 75 เราก็พยายามที่สุด ส่วนศาลจะรับหรือไม่รับก็เป็นเรื่องที่เราต้องขอความเห็นเป็นธรรมต่อไป รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชน การตำหนิรัฐบาลทำได้ เราเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มีวาระ 4 ปี เหลืออีก 2 ปี ก็เลือกตั้งใหม่ หากคิดว่าพรรค พท.ทำอะไรไม่ถูกไม่ควรก็สามารถวิจารณ์ได้







