‘สีน้ำเงิน’เผชิญศึกรอบด้าน วอร์รูมภูมิใจไทย'สู้ฮั้ว-ยุบพรรค'

‘สีน้ำเงิน’เผชิญศึกรอบด้าน วอร์รูมภูมิใจไทย'สู้ฮั้ว-ยุบพรรค'

เมื่อค่ายแดง-ค่ายน้ำเงิน เปิดศึกผ่านตัวแทน จึงต้องจับตาการเคลื่อนเกมของ “บิ๊กเนม” หน้าฉาก-หลังฉาก ว่าที่สุดจะมี “ดีลปีศาจ” เกิดขึ้นหรือไม่

KEY

POINTS

  • ศึก “ฮั้ว สว.” ลุกลามหนักเหมือนไฟลามทุ่ง แนวรบ แนวต้าน "สีน้ำเงิน"และเครือข่าย เปิดเกมรุกไล่อย่างต่อเนื่อง โยงใยคดีฮั้ว สว.ลากหลักฐานให้ถึงขั้นยุบพรรค
  • มีกระแสข่าวว่า คือเครือข่ายสีน้ำเงิน มีทั้งระดับบิ๊กเนม สว. สส. อดีต สส. และสมาชิกพรรคการเมือง ที่ถูกกล่าวหา ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว
  • ทีมวอร์รูมภูมิใจไทย แบ่งคดีเป็น 2 ส่วน คือคดีที่เกี่ยวกับการยุบพรรค และคดีที่พาดพิงบุคลากรของพรรค ที่ถูกเชื่อมโยงกับคดี“ฮั้ว สว.”

ศึก “ฮั้ว สว.” ลุกลามหนักเหมือนไฟลามทุ่ง แนวรบ แนวต้าน "สีน้ำเงิน"และเครือข่าย เปิดเกมรุกไล่อย่างต่อเนื่อง โยงใยคดีฮั้ว สว.ลากหลักฐานให้ถึงขั้นยุบพรรค

ขณะที่ “บิ๊กบอส” สีน้ำเงิน ที่ซุ่มบัญชาเกมอยู่ฉากหลัง พยายามคอนโทรลไม่ให้ “ลูกทีมสีน้ำเงิน” เสียขบวน โดยอ่านยุทธศาสตร์การเคลื่อนเกมของ“ขั้วสีแดง” ใช้วิธีรบผ่านสงครามตัวแทน เพื่อหวังทิ่มทะลุกล่องดวงใจภูมิใจไทย

ปฏิบัติการ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ถูกมองว่า เปิดเกมเร็ว โดยส่งสำนวนให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ซึ่งได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26 ของสํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง รับผิดชอบ กระทั่งมีการออกหมายเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการ“ฮั้ว สว.” เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ล่าสุดล็อตที่ 3  

ล็อตแรกมี “สว.บิ๊กเนม” เข้ารับทราบข้อกล่าวตั้งแต่วันที่ 19 -20 พ.ค. จำนวน 55 คน ล็อตสองเรียก 10 คนที่มีความเชื่อมโยงกับ “พรรคภูมิใจไทย” เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ล็อตสาม จำนวน 24 คน ทั้งหมดเป็น สว. 

ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า คือเครือข่ายสีน้ำเงิน มีทั้งระดับบิ๊กเนม สว. สส. อดีต สส. และสมาชิกพรรคการเมือง ที่ถูกกล่าวหา ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว

ขณะที่เกมต้าน รุก-รบ กลับ แม้ว่า“บิ๊กเนม”เครือข่ายสีน้ำเงิน จะพยายามใช้กำลังภายในเปิดดีลกับ“ซูเปอร์บิ๊กเนม” เพื่อยื้อไม่ให้ “ทีมสอบสวนคณะ 26” ออกหมายเรียกรับทราบข้อกล่าว พร้อมกับเดินเกมให้ “สว.สีน้ำเงิน” ชงองค์กรอิสระ เบรกการทำงานของดีเอสไอ - กกต. 

ขณะทีี่ “ทีมสอบสวนคณะ 26” ของ กกต. ยังคงเดินหน้า ท่ามกลางแรงกดดันอย่างหนัก และยืนยันว่าไม่หยุดสอบกลางคัน แม้คดี“ฮั้ว สว.” ทุกย่างก้าวจะเต็มไปด้วยอุปสรรค เนื่องจาก “พลังพิเศษ” ของเครือข่ายสีน้ำเงินไม่ธรรมดา

ตัดกลับมาที่ “พรรคภูมิใจไทย” ที่ถูกกล่าวหา โยงใยกับกระบวนการเลือก สว. ได้มีทีมกฎหมายมอนิเตอร์ เพื่อใช้กระบวนการทางกฎหมายโต้กลับ หากถูกพาดพิง พร้อมโต้กลับทันที 

โดยทีมวอร์รูมภูมิใจไทย แบ่งคดีเป็น 2 ส่วน คือคดีที่เกี่ยวกับการยุบพรรค และคดีที่พาดพิงบุคลากรของพรรค ที่ถูกเชื่อมโยงกับคดี“ฮั้ว สว.”

จะเห็นได้ว่า “ทีมภูมิใจไทย” ทุกระนาบ ทยอยออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อหลายคน นำขบวนตั้งแต่ หัวหน้าหนู อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.มหาดไทย ที่ตอบโต้ทุกประเด็น “โกเกี๊ยะ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน แกนนำพรรค ขู่ฟ้องคนปูดชื่อ “พ.” มีเอี่ยวคดีฮั้ว สว.

เช่นเดียวกับ “เจ๊รวย” สุขสมรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญ โพสต์เฟสบุ๊กตอบโต้ “เจ๊แมว” กุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร สว. ที่ออกมาเปิดโปงขบวนการฮั้ว พร้อมตั้งคำถาม ถึงข้อมูลหน่วยงานรัฐที่หลุดออกมาอย่างต่อเนื่อง

ตามมาด้วย ศุภชัย ใจสมุทร ทีมกฎหมายพรรคภูมิใจไทย แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี โฆษกพรรคภูมิใจไทย ที่ออกมาชี้แจง ซัดกลับทุกประเด็น

ชั่วโมงนี้ “เครือข่ายสีน้ำเงิน” อยู่ในสถานการณ์ “ตั้งรับ” ภายหลังโดนปฏิบัติการรุกไล่ จนตั้งตัวแทบไม่ทัน

ส่วน “นายใหญ่ค่ายแดง” ถูกหมากบังคับเดินให้ถอยร่นไม่ได้เช่นกัน ภายหลัง “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีคำสั่งให้ “บิ๊กวี” พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแล “ดีเอสไอ” ฝั่ง “เพื่อไทย” เลือก "ชูศักดิ์ ศิรินิล" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มากำกับดูแลดีเอสไอ ในทันที

หวยออกที่ชื่อ “อาจารย์ชูศักดิ์” ทำให้เจ้าตัวเครียดไม่น้อย เพราะรู้ว่าศึก “ฮั้ว สว.” กำลังรบอยู่กับใคร แต่ยาสามัญประจำพรรค ย่อมถูกผลักออกมาให้รับกระสุน เพื่อเพลย์เซฟ "ภูมิธรรม เวชยชัย" รองนายกฯ รมว.กลาโหม ไม่ให้ไปเกี่ยวโยงกำกับดูแล“ดีเอสไอ”แทน“ทวี”

สัญญาณของ “นายใหญ่” ไม่มีพักรบ ไม่มีหยุดรบกับ “พรรคสีน้ำเงิน - สว.สีน้ำเงิน” เพียงแต่เลือก “ขุนพล” คนใดมาเดินเกม อ่านใจแล้วจะยอมเสีย “ขุนพล” ทีละคน เก็บ “ขุนพลตัวหลัก” เอาไว้รบในเกมข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการของ “นักร้อง” ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มทิ่มทะลุกล่องดวงใจของ “เครือข่ายสีน้ำเงิน” เช่นกัน

โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของ “ณฐพร โตประยูร” อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ออกมายื่นร้องเรียนต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ “ยุบพรรคภูมิใจไทย” พร้อมทั้งเล่นใหญ่ปูด “2 ส.” พล.อ. ส. และ นาย ส. เป็นผู้บงการองค์กรอิสระในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับ “ณฐพร” ก่อนหน้านี้เจ้าตัวตกเป็น 1 ใน 14 ผู้ถูกกล่าวหา ที่โดนกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการตรวจสอบคดี “ฟอกเงิน” จากการขายที่ดินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น มูลค่ากว่า 477 ล้านบาท แต่ปัจจุบันเรื่องนี้ยังไม่มีการรายงานอย่างเป็นทางการว่า สถานะของคดีไปถึงไหนแล้ว

บทบาทที่ผ่านมา ณฐพร ยังเป็นผู้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย “ยุบพรรค” อนาคตใหม่ โดยโยงใยเรื่องสัญลักษณ์ “สามเหลี่ยม” ของพรรคเข้ากับสัญลักษณ์ “อิลลูมินาติ” แต่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่ยุบพรรคอนาคตใหม่ตามคำร้องดังกล่าว

ต่อด้วยการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การปราศรัยของบรรดาแกนนำ “ม็อบราษฎร” เป็นการ “ล้มล้างการปกครอง” หรือไม่ โดยท้ายที่สุดศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2564 ว่า การปราศรัยของ “ม็อบราษฎร” ดังกล่าวเป็นการ “ล้มล้างการปกครอง” พร้อมสั่งห้าม “กลุ่มองค์กร” ในลักษณะเดียวกันเคลื่อนไหวอีกในอนาคต

อีกคนที่ออกมาลากไส้ขบวนการฮั้ว สว. คือ “เจ๊แมว” กุสุมาลวตี ศิริโกมุท โดยยื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อพิจารณาส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคภูมิใจไทย

“กุสุมาลวตี” เคยเป็นอดีตผู้สมัคร สว.กลุ่ม 14 สตรี โดยก่อนหน้านี้เคยลงสมัคร สส. หนแรก หลังพฤษภาทมิฬปี 2535 สังกัดพรรคชาติพัฒนา และปี 2539 ในสีเสื้อพรรคความหวังใหม่ แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ

กระทั่งปี 2544 เจ๊แมว สวมเสื้อไทยรักไทย ลงสนาม และได้รับเลือกเป็นผู้แทนฯ สมัยแรก ต่อมาปี 2548 ขี่กระแส “ทักษิณ” เป็น สส.มหาสารคาม สมัยที่ 2

ปี 2550 เจ๊แมว ทิ้ง “พรรคทักษิณ” ไปสังกัดพรรคเพื่อแผ่นดิน แต่สอบตกตามคาด และปี 2554 ขอกลับเข้ามาพรรคเพื่อไทย และได้รับเลือกเป็น สส.สมัยที่ 3

ทว่าปลายปี 2561 “กุสุมาลวตี” จำใจลาออกจากพรรคเพื่อไทย เนื่องจากมีปัญหาเรื่องเขตเลือกตั้ง และมีความขัดแย้งกับประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ตอนแรกมีข่าวว่าจะย้ายไปพรรคไทยรักษาชาติ ภายหลังย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อชาติ พรรคของคนเสื้อแดง จากนั้นปี 2566 ตัดสินใจลงสมัคร สส. ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่สอบตกอีกครั้ง

หลังจากนี้ บทบาทของ “ณฐพร - กุสุมาลวตี” น่าจับตาว่า จะเป็นตัวละครสำคัญ ในปฏิบัติการเปิดโปงขบวนการ “ฮั้ว สว.” อย่างต่อเนื่อง

เมื่อค่ายแดง-ค่ายน้ำเงิน เปิดศึกผ่านตัวแทน จึงต้องจับตาการเคลื่อนเกมของ “บิ๊กเนม” หน้าฉาก-หลังฉาก ว่าที่สุดจะมี “ดีลปีศาจ” เกิดขึ้นหรือไม่