เกม‘ฮั้วสว.’ เขย่าอาณาจักร ล้างบาง ‘บ้านใหญ่สีน้ำเงิน’

เกม‘ฮั้วสว.’ เขย่าอาณาจักร  ล้างบาง ‘บ้านใหญ่สีน้ำเงิน’

อนุกรรมการไต่สวน กกต. ได้ทยอยออกหมายเรียกผู้ถูกแจ้งข้อหาในคดีฮั้วสว.เพิ่มเติม ลอต3อีกประมาณ90คน  ตามกระแสข่าวอาจเป็นใน "กลุ่มคีย์แมน"คนสำคัญ

KEY

POINTS

  • “4 บ้านใหญ่” ซึ่งติดบ่วงถูกเรียกสอบคดีโพยฮั้วสว.ในเวลานี้ หากไล่เช็กชื่ออีก 6 คนที่เหลือ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นกลุ่มคนที่มีความใกล้ชิด หรือเป็นเครือข่ายบ้านใหญ่สีน้ำเงินแทบทั้งสิ้น 
  • อนุกรรมการไต่สวน กกต. ได้ทยอยออกหมายเรียกผู้ถูกแจ้งข้อหาในคดีฮั้วสว.เพิ่มเติม ลอต3อีกประมาณ90คน  ตามกระแสข่าวอาจเป็นใน "กลุ่มคีย์แมน"คนสำคัญ  รวมทั้งหมดที่ถูกเรียกรับทราบข้อหามีประมาณ 140 คน 
  • “นิติสงคราม”ที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ ถึงที่สุดอาจไม่ใช่เกมวัดพลังบนกระดาน“ฮั้วสว.” แต่อาจหมายรวมไปถึง เกมยาวเขย่าพื้นที่ในการเลือกตั้งรอบหน้า โดยเฉพาะ“เพื่อไทย” และ“ภูมิใจไทย” ที่ยังจำเป็นต้องพึ่งพาสารพัดบ้านใหญ่ แถมยังคงต้องต่อสู้ฟาดฟันกันหลายพื้นที่

กรณีคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26 ของสำนักงาน กกต. ที่เป็นคณะกรรมการร่วมกับกรมสอบสวนพิเศษ(ดีเอสไอ) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดปฏิบัติการลอต 2 “คนใน คนนอก พัวพัน สว.”

ออกหมายเรียก “นักการเมือง” รวมถึง“กลุ่มบ้านใหญ่” พร้อมเครือข่ายการเมือง ในคดี“ฮั้วสว.”จำนวน 10 ราย

โดยมีรายงานว่า วันที่20พ.ค.อนุกรรมการไต่สวน กกต. ได้ทยอยออกหมายเรียกผู้ถูกแจ้งข้อหาในคดีฮั้วสว.เพิ่มเติม ลอต3อีกประมาณ90คน  ตามกระแสข่าวอาจเป็นใน "กลุ่มคีย์แมน"คนสำคัญ  รวมทั้งหมดที่ถูกเรียกรับทราบข้อหามีประมาณ 140 คน 

เช็กรายชื่อลอต2 หากไล่ลึกลงไป 10 รายชื่อ ล็อต 2 ที่ปรากฎตามข่าว น่าสนใจตรงที่มีการเฉพาะเจาะจงไปที่“ซุ้มบ้านใหญ่” รวมถึงเครือข่ายบ้านใหญ่สีน้ำเงิน

ไล่ตั้งแต่ “นภินทร ศรีสรรพางค์” รมช.พาณิชย์ “บ้านใหญ่ราชบุรี” คียแมนภาคกลางพรรคสีน้ำเงิน ที่แม้จะถูกจัดอยู่ในกลุ่ม“รัฐมนตรีโลกลืม”

ทว่า หากไล่ลึกในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เมื่อปี 2566 แม้ “ภูมิใจไทย” จะไร้ที่นั่ง สส.ราชบุรี หลุดเงื่อนไขกวาด สส.“ยกจังหวัด” ได้1 เก้าอี้รัฐมนตรี แต่ชื่อของ“นภินทร”กลับเข้าวิน ถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี ในโควตาแกนนำพรรค ด้วยเหตุผล ในเรื่อง"กระสุน" และในฐานะกำกับดูแลพื้นที่ภาคกลาง

โดยเฉพาะ 3 ที่นั่ง สส.พิจิตร ยกจังหวัด อยู่ในการกำกับดูแลของ “รัฐมนตรีนภินทร”ผู้นี้

เกม‘ฮั้วสว.’ เขย่าอาณาจักร  ล้างบาง ‘บ้านใหญ่สีน้ำเงิน’

ถัดมา “ศุภชัย โพธิ์สุ” อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 อดีต สส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย “บ้านใหญ่นครพนม” ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา สนามนครพนม ขับเคี่ยวอย่างดุเดือด ระหว่าง“สหายแสง” คีย์แมนสีน้ำเงิน ลงสนามชนกับ “สส.เดือน” มนพร เจริญศรี คีย์แมนค่ายแดง 

ผลการเลือกตั้งครั้งนั้น แม้ฝ่าย“สหายแสง” จะพ่ายแพ้ให้กับ “สส.เดือน” ซึ่งภายหลังได้รับตกรางวัลเป็น รมช.คมนาคม ไม่ต่างจาก “พูนสุข โพธิ์สุ” ภรรยาสหายแสง ที่พ่ายให้กับ “ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์” พรรคเพื่อไทย 

ทว่า การเลือกตั้งครั้งนั้น พรรคสีน้ำเงินยังรักษาที่นั่งไว้ได้ 2 ที่นั่ง ไม่ต่างจากบทบาทของ “สหายแสง”  ที่ยังคงเป็นคีย์แมนภาคอีสานตอนบนพรรคสีน้ำเงิน 

เกม‘ฮั้วสว.’ เขย่าอาณาจักร  ล้างบาง ‘บ้านใหญ่สีน้ำเงิน’

ในส่วนของ “โกเกียรติ” สมเกียรติ เลียงประสิทธิ์ เจ้าของค่ายมวยเกียรติเจริญชัย กรุ๊ป “บ้านใหญ่สตูล” บิดาของ “โกแพร” วรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ สส.สตูล พรรคภูมิใจไทย 2 สมัย และเป็นพี่ชายของ “โกเตี๋ยน” สัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายกอบจ.สตูล 4 สมัย จึงเรียกได้ว่าผูกขาดการเมือง จ.สตูล ในทุกระดับ 

ถัดมาในส่วนของ “สมเจตน์ ลิมปะพันธ์ุ” ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย (อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย) และอดีตสส.สุโขทัย พรรคภูมิใจไทย เป็นลูกชาย “สมชาติ ลิมปะพันธุ์” นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสวรรคโลก และเป็นหลานชายของ “ร้อยตรี ประพาส ลิมปะพันธุ์” อดีตสส.สุโขทัย อีกหนึ่งบ้านใหญ่ที่ผูกขาดการเมือง จ.สุโขทัย มาหลายยุคหลายสมัย 

 

นอกเหนือจาก “4 บ้านใหญ่” ซึ่งติดบ่วงถูกเรียกสอบคดีโพยฮั้วสว.ในเวลานี้ หากไล่เช็กชื่ออีก 6 คนที่เหลือ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นกลุ่มคนที่มีความใกล้ชิด หรือเป็นเครือข่ายบ้านใหญ่สีน้ำเงินแทบทั้งสิ้น 

ไม่ว่าจะเป็น “นายกฯน้ำ”วาริน ชิณวงศ์ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ก่อนหน้านี้ ทำหน้าที่เป็นคณะทำงานของ “โกเกี๊ยะ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน และแม่ทัพภาคใต้ค่ายสีน้ำเงิน ก่อนได้รับการสนับสนุนลงชิงนายก อบจ.นครศรีธรรมราช 

โดยสามารถล้ม“นายกฯต้อย” กนกพร เดชเดโช อดีตนายก อบจ.นครศรีฯ มารดาของ “ชัยชนะ เดชเดโช” สส.นครศรีฯ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 

เกม‘ฮั้วสว.’ เขย่าอาณาจักร  ล้างบาง ‘บ้านใหญ่สีน้ำเงิน’

สุบิน ศักดา นักการเมืองท้องถิ่น และผู้รับเหมาใน อ.วิภาวดี จ.นครศรีฯ เป็นผู้ช่วยในการลงพื้นที่แทน “กำนันชัย” พิชัย ชมภูพล สส. สุราษฎร์ธานี พรรคภูมิใจไทยในหลายต่อหลายกิจกรรมทางการเมือง

วงศกร ชนะกิจ อดีตผู้สมัคร สส.ภูเก็ต เขต 2 พรรคภูมิใจไทย และเลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย สภาผู้แทนฯ ซึ่งมี  “ปกรณ์ มุ่งเจริญพร” สส.สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย “บ้านใหญ่เมืองช้าง” เป็นประธาน 

เตชสิทธิ์ ชูแก้ว สว.นครศรีธรรมราช เป็นผู้สมัคร สว.กลุ่ม 6 ลำดับที่ 1 อดีตวิศวกรผันตัวเองกลับมาอยู่ในบ้านเกิด สร้างเครือข่ายมังคุดแปลงใหญ่ ของ อ.ชะอวด จ.นครศรีฯ

สมศักดิ์ จันทร์แก้ว สว.จาก จ.นครศรีฯ ในกลุ่ม 5 เคยทำหน้าที่กรรมการสมาคมโรงสีข้าวภาคใต้ เเละเป็นผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการข้าวลุ่มน้ำปากพนัง มีทั้งเครือข่ายการเมือง และเครือข่ายวงการข้าวไทย

ณัฐกิตต์ หนูรอด สว.ชุดปัจจุบัน อดีตปลัด อบจ.พัทลุง เเละอดีตผู้สมัคร สส.นครศรีธรรมราช เขต 4 พรรคภูมิใจไทย

แน่นอนว่า ทั้ง10รายชื่อตามที่ปรากฎ สะท้อนชัดถึงความเเนบชิดกับบรรดา “คีย์แมนค่ายสีน้ำเงิน”  ตอกย้ำสไตล์การเมือง“บ้านใหญ่” ที่ถูกหยิบมาใช้ในทุกสนาม 

 จากนี้ต้องติดตาม นอกเหนือจาก “10 รายชื่อ” ที่ถูกเรียกสอบในล็อต 2 ยังมี “เครือข่ายสีน้ำเงิน” ที่อยู่ในข่ายโดนหมายเรียกจากกกต.ในล็อตต่อๆ ไปอีก 

สอดคล้องกับกระแสข่าวที่ปรากฎออกมาก่อนหน้านี้ว่า อาจเชื่อมโยงไปถึง “ผู้บงการ” ซึ่งเป็น“ผู้มีอิทธิพล” ไม่ต่างจากดาบสองในคดียุบพรรค ท่ามกลางสารพัดคำร้องที่กำลังรุกไล่ในเวลานี้ 

“นิติสงคราม”ที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ ถึงที่สุดอาจไม่ใช่เกมวัดพลังบนกระดาน“ฮั้วสว.” แต่อาจหมายรวมไปถึง เกมยาวเขย่าพื้นที่ในการเลือกตั้งรอบหน้า โดยเฉพาะ“เพื่อไทย” และ“ภูมิใจไทย” ที่ยังจำเป็นต้องพึ่งพาสารพัดบ้านใหญ่ แถมยังคงต้องต่อสู้ฟาดฟันกันหลายพื้นที่

การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ที่ว่าเข้มข้นแล้ว เชื่อได้เลยว่า ครั้งต่อไปจะเข้มข้นมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณอย่างแน่นอน