เซาะกร่อนการปกครอง! ร้อง กกต.ชงศาล รธน.สั่ง 138 สว.สิ้นสภาพ

เซาะกร่อนการปกครอง! ร้อง กกต.ชงศาล รธน.สั่ง 138 สว.สิ้นสภาพ

'ณฐพร' ส่งทีมทนายร้อง กกต.ชงศาล รธน.สั่ง 138 สว.สิ้นสมาชิกภาพ-หยุดปฏิบัติหน้าที่ อ้างมีพฤติการณ์เซาะกร่อนระบอบการปกครอง แทรกแซงองค์กรอิสระ ไม่ซื่อสัตย์สุจริต

เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2568 นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งทีมกฎหมายนำเอกสารคำร้องยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้พิจารณาส่งเรื่องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคท้าย ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สมาชิกภาพของวุฒิสภา (สว.) 138 คนสิ้นสุดลง และระหว่างพิจารณาให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่

ทั้งนี้ เนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ กกต. สืบสวนร่วมกันจนพบพยานหลักฐานในขบวนการฮั้ว รวมทั้งจากการสอบปากคำพยานบุคคล พยานแวดล้อม พยานผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ รวมถึงมีการตรวจสอบข้อมูลทางธุรกรรมบุคคลในขบวนการจำนวน 12,000 คน และ ตรวจสอบผู้ใช้โทรศัพท์อีก 20,000 เลขหมาย แล้วพบความผิดปกติเรื่องการฮั้ว

อีกทั้ง จากการสอบพยานในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นผู้ที่พบโพยลงคะแนน รวมถึงสถานที่ที่ใช้ในการนัดหมายพูดคุยเรื่องฮั้ว อีกทั้งยังมีหลักฐานจากเทคโนโลยีประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามาตรวจสอบจนพบข้อมูลเชิงประจักษ์ และสรุปได้ว่า สว.จำนวน 138 คน มีพฤติการณ์กระทำอยู่ภายใต้พรรคการเมืองหนึ่ง

ในเอกสารคำร้องยังระบุว่า นับตั้งแต่ สว.เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ พบว่า ไม่มีความเป็นกลางเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองหนึ่ง และ กลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพลภายในพรรคดังกล่าว อีกทั้ง การปฏิบัติหน้าที่ของ สว. กลุ่มนี้ อาศัยเสียงข้างมากในสภาคัดเลือกประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภา และ ประธานกรรมาธิการทุกคณะ ทิศทางการลงมติของ สว. ชุดนี้ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกันทุกครั้ง

ตัวอย่าง เช่น การประชุมวุฒิสภาปลายเดือน พฤศจิกายน 2567 ประชุมทั้งหมด 21 ครั้ง ลงมติ 48 ครั้ง ปรากฏว่า สว. นอกกลุ่มสีน้ำเงินแพ้ทุกการโหวตทุกประเด็น สิ่งที่น่าเป็นกังวลอีกประเด็น คือ การเห็นชอบการคัดเลือกบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ 

จากพฤติกรรมดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า สว.กลุ่มนี้ กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 113 ก่อให้เกิดผลกระทบความเสียหายอย่างร้ายแรง เป็นการเซาะกร่อน  บ่อนทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องการได้อำนาจการปกครองโดยเบ็ดเสร็จ ถือเป็นการกระทำที่ส่อล้มล้างการปกครอง

อีกทั้งการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ เสียความเป็นกลาง เนื่องจากต้องได้รับความเห็นชอบจาก สว. ที่อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมืองดังกล่าว ซึ่งขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง และไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้น เพื่อยับยั้งความเสียหายอันร้ายแรง จึงขอให้กกต.ยื่นคำร้องและส่งสำนวนการสอบสวนของ สว. ทั้ง 138 คน ให้ศาลรัฐธรรมนูญทำการวินิจฉัย

ในวันพรุ่งนี้ (21 พ.ค.68) เวลา 15.00 น. นายณฐพร ยังจะมายื่น กกต. ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคภูมิใจไทย จากปมฮั้วเลือก สว.ด้วย